รัฐบาลออสเตรียออกมาตรการส่งเสริมการก่อตั้งธุรกิจโดยการปรับลดอัตราทุนจดทะเบียนขั้นต่ำสำหรับบริษัทจำกัด จากเดิม 35,000 ยูโร เป็น 10,000 ยูโร และบังคับให้ต้องแสดงยอดในบัญชีเพียงครึ่งหนึ่ง (5,000 ยูโร) เท่านั้นในวันที่จดทะเบียน พร้อมกับเพิ่มรูปแบบนิติบุคคลรูปแบบใหม่ซึ่งใช้ชื่อว่า Flexible Kapitalgesellschaft (แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า flexible company) บริษัทรูปแบบนี้มุ่งเน้นตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ Start-up และอิงกฎระเบียบของบริษัทจำกัดแบบดั้งเดิมเป็นหลักแต่มีการเพิ่มเติมกฎระเบียบบางประการของบริษัทมหาชนเข้ามาด้วย โดยเฉพาะกฎเกณฑ์เกี่ยวกับหุ้นส่วน อาทิ การครอบครองหุ้นส่วนบริษัทโดยพนักงาน และการโอนหุ้นให้กับผู้อื่น ซึ่งโดยปกติธุรกิจ Start-up มักมีการจัดสรรหุ้นส่วนให้แก่พนักงานเพื่อป้องกันการย้ายออกไปทำงานที่อื่น จากเดิมในกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันกำหนดให้ต้องชำระภาษีเงินได้ทันทีที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ แต่ในอนาคตจะมีการเก็บภาษีเงินได้ก็ต่อเมื่อมีการขายหุ้นเท่านั้น นอกจากนี้ ทุนจดทะเบียนที่ลดลงยังส่งผลให้ภาษีนิติบุคลขั้นต่ำต่อปีลดลงจาก 1,750 ยูโร เป็น 500 ยูโรอีกด้วย อย่างไรก็ดี มีการกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับหุ้นประเภทนี้ไว้ว่าจะต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์โดยไม่มีการชำระเงิน และผู้ถือหุ้นนี้ไม่สามารถออกเสียงในการประชุมใหญ่สามัญได้ แต่ยังคงมีสิทธิ์ในผลกำไรและรายได้ที่เกิดจากการเลิกกิจการทุกกรณี เมื่อมีการขายหุ้นนี้ รายได้สัดส่วนสามในสี่จะต้องนำไปคำนวณเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราเหมาร้อยละ 27.5 และรายได้ส่วนที่เหลือให้นำไปคำนวณจ่ายภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนรูปแบบ Flexible company ต้องมีรายได้ไม่เกิน 40 ล้านยูโรต่อปี มีพนักงานไม่เกิน 100 คน บริษัทมีอายุไม่เกิน 10 ปี และการขายหุ้นจะต้องเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 10 ปี ขณะที่สัดส่วนหุ้นประเภทนี้จะต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของหุ้นบริษัททั้งหมด และพนักงานหนึ่งคนไม่สามารถถือหุ้นประเภทนี้เกินกว่าร้อยละ 10
ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ
ออสเตรียมีนโยบายส่งเสริมธุรกิจและการลงทุนโดยมุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งรัฐบาลปรับปรุงกฎระเบียบอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการก่อตั้งและดำเนินธุรกิจ รวมถึงให้การสนับสนุนทางการเงินและสิทธิพิเศษต่างๆ ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Austrian Business Agency (www.investinaustria.at)
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเวียนนา
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)