หลังจากที่จีนได้อนุญาตให้นำเข้าทุเรียนจากเวียดนามเมื่อปีที่แล้ว การขนส่งทุเรียนข้ามพรมแดนของเวียดนามไปยังจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามรายงานของสื่อเวียดนาม ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกทุเรียนมูลค่ารวม 876 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 835 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะนี้ทางเขตตะวันตกของเวียดนามได้เข้าสู่ช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวทุเรียน ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ปลูกทุเรียนในเวียดนามมีขนาดใหญ่และให้ผลผลิตสูง จึงมีการขนส่งทุเรียนเวียดนามกันอย่างมาก โดยตั้งแต่เดือนกันยายนทุเรียนเวียดนามได้ค่อยๆ เข้าสู่ระยะสุก ในขณะที่ทุเรียนไทยเผชิญปัญหาถูกหนอนกิน ช่วงฤดูกาลนี้ จึงถือว่าเป็นฤดูกาลที่ได้เปรียบสำหรับการส่งออกที่สำคัญของเวียดนาม
แต่ล่าสุด ตามรายงานของ Vietnam News ระบุว่า กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนามได้รับแจ้งจากสำนักงานศุลกากรจีนว่าสินค้าผลไม้ของเวียดนามบางชุดตรวจพบสารปนเปื้อนในผลไม้หลายรายการ อาทิ กล้วย มะม่วง ขนุน ทุเรียน และแก้วมังกร ซึ่งหลังจากที่เวียดนามได้รับแจ้งจากศุลกากรจีน กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนามได้แจ้งให้บางภูมิภาคระงับการดำเนินการตามขั้นตอนสุขอนามัยพืชเพื่อการส่งออก ที่สอดคล้องกับรหัสพื้นที่ปลูกและรหัสสถานที่บรรจุหีบห่อที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 บริษัทหลายแห่งที่จัดส่งผลไม้ไปยังท่าเรือกัตลาย (Cat Lai Port) ในนครโฮจิมินห์ ได้รับแจ้งการระงับการส่งออกไปยังจีน ซึ่งในวันที่ 9 กันยายน 2566 เพียงวันเดียว ผู้ค้าผลไม้หลายสิบรายรายงานสถานการณ์ดังกล่าวคล้ายกัน โดยระบุว่า กล้วย ขนุน แก้วมังกร ทุเรียน และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เกือบพันตันถูกระงับการส่งออก นอกจากนี้ กรมอารักขาพืชยังร่วมมือกับหน่วยงานเกษตรกรรมและการพัฒนาชนบทของจังหวัด Dong Nai จังหวัด Gia Lai จังหวัด Dak Lak จังหวัด Tay Ninh จังหวัด Vinh Long จังหวัด Long An จังหวัด Binh Thuan จังหวัด Tien Giang จังหวัด Binh Phuoc Dong Thap และจังหวัด Tra Vinh แจ้งหน่วยงานสุขอนามัยพืชของทุกจังหวัด เพื่อเสริมสร้างการควบคุมและการกำกับดูแลกระบวนการสุขอนามัยพืชในพื้นที่ปลูกผลไม้และโรงงานบรรจุภัณฑ์ที่ส่งออกไปจีน
กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม ชี้ให้เห็นว่า ผลไม้เป็นสินค้าส่งออกทางการเกษตรหลักของเวียดนาม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การส่งออกผลไม้ของเวียดนามเติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปีประมาณ 10-15% ทุกปี ปริมาณการส่งออกผักและผลไม้สดอยู่ที่ประมาณ 3.3 ถึงเกือบ 4 ล้านตัน (คิดเป็นประมาณ 30% ของการผลิตทั้งหมด) จีนเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ดังนั้นจึงต้องทำการเข้มงวดในการส่งออกผลไม้ไปยังจีนอย่างมาก
ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
สถานการณ์ปัจจุบันของตลาดทุเรียนในจีนมีความแปรปวน อีกทั้งคุณภาพและราคาก็แตกต่างกันไป โดยปัจจุบันทุเรียนหมอนทองธรรมดาของเวียดนามในกล่องใหญ่ 6 ลูกมีราคาสูงสุดไม่เกิน 600 หยวน ส่วนทุเรียนหมอนทองของไทยโดยทั่วไปจะมีราคามากกว่า 700 หยวนและ ราคาของแบรนด์ไฮแอนด์ อยู่ที่ 800 หยวน แต่มีสัดส่วนที่น้อยมาก เนื่องจากคุณภาพโดยรวมของทุเรียนยังคงไม่แน่นอน ผู้บริโภคในจีนจึงระมัดระวังในการซื้อมากขึ้น ในสถานการณ์เช่นนี้ จึงทำให้ต้นทุนของสินค้าสูงเกินไปสำหรับผู้จัดส่ง ส่งผลให้ผู้ค้าทุเรียนต้องสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนมากกว่าการมุ่งเน้นแต่ราคาทุเรียน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรติดตามสถานการณ์ตลาดทุเรียนในจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในตลาดทุเรียนของจีน รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวของกับการส่งออกทุเรียนไปยังจีน ควรเร่งการจัดการในการตรวจคุณภาพทุเรียนส่งออกอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการส่งออกและเพื่อรักษาสัดส่วนตลาดทุเรียนในจีนได้ต่อไป
https://guojiguoshu.com/article/8601
http://news.sohu.com/a/720669452_121123924
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)