หน้าแรกTrade insight > “ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก” ธุรกิจที่ต้องจับตามอง

“ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก” ธุรกิจที่ต้องจับตามอง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน จีนมีประชากรอายุ 0-14 ปี จำนวน 253.38 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.95 ของประชากรทั้งหมดของจีน ซึ่งครอบครัวจีนมีการบริโภคผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเป็นจำนวนมาก โดยมีสินค้าที่น่าจับตามอง อาทิ

  1. บิสกิตสำหรับเด็ก

ทุกวันนี้ เป้าหมายลูกค้าของผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวในตลาดจีนค่อยๆ ขยายไปสู่กลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็กกำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งกลายเป็นตลาด Blue Ocean ที่สดใสในอุตสาหกรรมนี้ ตามข้อมูลของ “สมุดปกขาวการสำรวจตลาดขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็ก” ที่ออกโดยสถาบันพัฒนาอาหารและโภชนาการของกระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของจีน ระบุว่า ปัจจุบัน ตลาดขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็กมีขนาดประมาณ 1/10 ของตลาดขนมขบเคี้ยวทั้งหมดของจีน คาดว่า ขนมสำหรับเด็กของจีนจะมีมูลค่าสูงถึง 1.5 แสนล้านหยวนภายในปี 2566 โดยบิสกิตจัดเป็นขนมขบเคี้ยวประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในตลาดจีน

เด็กนับเป็นส่วนสำคัญของกลุ่มผู้บริโภคบิสกิต ซึ่งกลุ่มคนนี้จะบริโภคบิสกิตประมาณร้อยละ 30 ของการบริโภคบิสกิตทั้งหมดในตลาด ซึ่งมีลักษณะการบริโภคความถี่อย่างสูงและมียอดสั่งซื้อค่อนข้างมาก ซี่งผู้ผลิตต่างก็มีการพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น เช่น บิสกิตเสริมคุณค่าทางโภชนาการ

ขนมสำหรับเด็กแบรนด์ GOOD GOÛT ภายใต้แบรนด์ Health & Happiness ได้เปิดตัวขนมบิสกิตสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก China’s organic Certification โดยใช้สรรวัตถุดิบออร์แกนิกในการผลิตบิสกิต เช่น แครนเบอร์รี่ออร์แกนิก, บลูเบอร์รี่ออร์แกนิก, งาออร์แกนิก, สาหร่ายออร์แกนิก, ไข่ออร์แกนิก และแป้งสาลีออร์แกนิก ซึ่งสามารถรับรองความปลอดภัยอาหารและอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ นอกจาก  แบรนด์ในประเทศแล้ว ปัจจุบัน บิสกิตสำหรับเด็กที่จำหน่ายในตลาดจีนยังมีแบรนด์ต่างชาติด้วย เช่น  แบรนด์ญี่ปุ่น Fujia เปิดตัวบิสกิตที่มีการออกแบบด้วยคำศัพท์และรูปภาพภาษาอังกฤษ ซึ่งสามารถเพิ่มความสนุกสนานให้กับเด็กๆ เมื่อรับประทานขนม นอกจากนี้ บิสกิตมะพร้าวม้วนสำหรับเด็กจากประเทศไทยก็เป็นที่นิยมในตลาดจีนเช่นกัน

2. น้ำดื่มบรรจุขวดสำหรับเด็ก

ด้วยตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดของจีนมีการแข่งขันอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แบรนด์ชั้นนำต่างๆ ล้วนได้มองเห็นถึงศักยภาพของตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดระดับไฮเอนด์ โดยเฉพาะน้ำดื่มบรรจุขวดสำหรับเด็กทารกที่มีกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์หมวดหมู่ย่อยที่แบรนด์ใหญ่ต่างแย่งชิงในขณะนี้

ตามมาตรฐานกลุ่ม “น้ำดื่มแร่ธรรมชาติ (เหมาะสำหรับเด็กทารก)” ที่ออกโดย China Sanitation Supervision Association ในเดือนมีนาคม 2563 ระบุว่า ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างน้ำดื่มเด็กทารกกับน้ำดื่มแร่ทั่วไป คือ ปริมาณแร่ธาตุของน้ำดื่มเด็กทารกจะต่ำกว่าน้ำดื่มแร่ทั่วไป เนื่องจากไตของเด็กทารกยังไม่พัฒนาเต็มที่ ปริมาณแร่ธาตุที่มากเกินไปจะเพิ่มภาระให้กับอวัยวะและระบบเผาผลาญของเด็กทารก

ในฐานะที่เป็นแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรม Nongfu Spring ได้เข้าสู่แข่งขันในเส้นทางน้ำดื่มเด็กทารกตั้งแต่ปี 2558 และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ปี ทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มสำหรับเด็กทารกได้รับการตอบรับและยอมรับจากผู้บริโภคชาวจีน ทั้งนี้ Nongfu Spring ได้เปิดตัวน้ำดื่มสำหรับเด็กทารกเวอร์ชั่นเจ้าหญิงดิสนีย์ในวันแม่ของปีนี้ และดำเนินการประชาสัมพัน์ผ่าน Redbook ปรากฏว่าได้รับความชื่นชอบอย่างมากจากผู้บริโภคเพศหญิงชาวจีน นอกจากนี้ น้ำดื่มบรรจุขวดสำหรับเด็กที่มียอดจำหน่ายค่อนข้างดีในแพลตฟอร์ม Taobao ยังมีแบรนด์ต่างชาติด้วย เช่น J&P Turner 27000 ของออสเตรเลีย และ Wildalp ของออสเตรีย

3. ผลิตภัณฑ์ Personal care สำหรับเด็ก

ตามข้อมูลของ Euromonitor ระบุว่า ในปี 2564 ขนาดตลาดของผลิตภัณฑ์ Personal care สำหรับเด็ก (ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวหน้าและผิวกาย) ของจีนเกิน 32,000 ล้านหยวน และคาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 50,041 ล้านหยวนภายในปี 2568 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ประมาณร้อยละ 11.1

ปัจจุบัน จีนมีเด็กเล็กที่อายุ 0-6 ขวบประมาณ 140 ล้านคน จำนวนเด็กที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะผลักดันให้ตลาดผลิตภัณฑ์ Personal care สำหรับเด็กมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามไปด้วย ในขณะที่พ่อแม่ที่เกิดหลังทศวรรษ 1990 และ 1995 จะมีแนวความคิดและทัศนคติในการเลี้ยงลูกที่แตกต่างจากสมัยก่อนอย่างมาก ซึ่งพวกเขาจะยอมใช้จ่ายให้เด็กและแสวงหาผลิตภัณฑ์เด็กที่มีคุณภาพดี ทำให้ผลิตภัณฑ์ Personal care สำหรับเด็กกลายเป็นสินค้าที่จำเป็นในชีวตประจำวันสำหรับกลุ่มคนนี้

จากข้อมูลการตลาดของ Magic Mirror พบว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ถึงมิถุนายน 2565 ยอดค้าปลีกรวมของผลิตภัณฑ์ Personal care สำหรับเด็กบน Tmall และ Taobao อยู่ที่ 1,682 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีราคาซื้อขายเฉลี่ย 75 หยวน

เมื่อเปรียบเทียบตลาด Personal care สำหรับเด็กในอดีตที่มีส่วนแบ่งการตลาดค่อนข้างสูงของแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ปรากฏว่า ปัจจุบัน แบรนด์เกิดใหม่กำลังทยอยเข้าสู่แข่งขันในตลาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมแสดงแนวโน้มกระจายอย่างเรื่อยๆ ในปี 2554 อัตรา CR10 (Concentration Rate 10 หมายถึง ผลรวมของส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทชั้นนำ 10 อันดับแรก ใช้เพื่อระบุความรุนแรงของการแข่งขันหรือสถานการณ์การผูกขาดในตลาด) ของตลาด Personal care สำหรับเด็กอยู่ที่ร้อยละ 59.2 แต่ในปี 2563 อัตรา CR10 ของตลาดดังกล่าวลดลงเป็นร้อยละ 30.1 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แบรนด์ใหม่และแบรนด์เก่ากำลังสลับเปลี่ยนกันในท้องตลาด ทำให้แบรนด์เก่าต้องเผชิญแรงกดดันสูงจากการถูกแย่งชิง ส่วนแบ่งการตลาด แต่สำหรับแบรนด์ใหม่จะกลับนับเป็นโอกาสที่ดีในการบุกเบิกตลาด

ในปี 2563 แบรนด์อเมริกัน Johnson & Johnson ยังคงครองอันดับแรกด้วยส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 5.8 รองลงมาคือแบรนด์เกิดใหม่ท้องถิ่น Baby Elephant (4.1%) และ Frog Prince (3.7%) ส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ญี่ปุ่น Pigeon อยู่ในอันดับที่ 4 (3.0%) และแบรนด์อเมริกัน Aveeno อยู่ในอันดับที่ 5 (2.7%)

ข้อมูลเพิ่มเติม/ผลกระทบ/ความเห็นของ สคต.

ปัจจุบัน พ่อแม่ชาวจีนยุคใหม่ต่างให้ความสำคัญกับการบริโภคของบุตร และยินยอมที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้บุตรได้บริโภคสินค้าเด็กที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน โดย China Children’s Industry Center ระบุว่า ครอบครัวจีนร้อยละ 80 จะยอมจ่ายค่าใช้จ่ายร้อยละ 30 – 50 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครัวเรือนให้เด็ก ซึ่งทำให้เกิดการบริโภคผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเฉลี่ยประมาณ 17,000 – 25,500 หยวนต่อปี

จากข้อมูลที่เปิดเผย ระบุว่า ตลาดการบริโภคของเด็กของจีนมีมูลค่าประมาณ 3.9 – 5.9 ล้านล้านหยวนต่อปี ทั้งนี้ ด้วยการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดการบริโภคของเด็ก ขณะที่ผู้บริโภคของยุคใหม่นี้มีความต้องการที่หลากหลายและแสวงหาชีวิตที่มีคุณภาพสูง ส่งเสริมให้เศรษฐกิจเด็กของจีนกำลังเข้าสู่ตลาดมหาศาลที่มีมูลค่าล้านล้านหยวน ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กจึงเป็นอีกอย่างที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการไทย

————————————————–

https://mp.weixin.qq.com/s/PRqbraymiYei_enO_owk_g

https://www.jiemian.com/account/1406.html

https://www.jiediancj.com/

แปลและเรียบเรียงโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login