หน้าแรกTrade insight > สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุน จำนวน 27 โครงการ นอกเขต SEZ

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุน จำนวน 27 โครงการ นอกเขต SEZ

  • โครงการลงทุนของเอกชนเกือบ 30 โครงการนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมีเงินลงทุนเกือบ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้รับการอนุมัติจากสภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา หรือ The Council for the Development of Cambodia (CDC) ในไตรมาสแรกของปี 2566
    ซึ่งการอนุมัติครั้งนี้ มีจำนวนลดลงทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565
  • ในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค. ถึง มี.ค.) ปี 2566 CDC ได้อนุมัติโครงการลงทุนของเอกชนนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ จำนวน 27 โครงการ ซึ่งลดลง 13 โครงการ เมื่อเทียบกับจำนวนโครงการในไตรมาสแรกในปี 2565 โดยโครงการทั้ง 27 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวม 193 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 90.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามการลงทุนครั้งนี้ได้สร้างงานใหม่ในคนในท้องถิ่นมากกว่า 43,000 ตำแหน่ง ซึ่งเพิ่มขึ้น ร้อยละ 24.8
  • ด้าน นาย Hong Vanak นักวิจัยเศรษฐกิจแห่งราชบัณฑิตยสถานประจำกัมพูชา เปิดเผยว่า แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันจะดีขึ้นหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (พ.ศ. 2563-2565) แต่     การลงทุนของทุกประเทศทั่วโลกก็ยังไม่ฟื้นตัว ดังนั้น ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังลังเลที่จะลงทุนเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเทศใหญ่ๆ หลายประเทศ นอกจากนี้ความไม่ลงรอยกันของความคิดทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศใหญ่ๆ ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในการปล่อยเงินออกมาเพื่อลงทุน ดังนั้น ในช่วงเวลานี้การลงทุนส่วนใหญ่จะดำเนินการโดย    คนในท้องถิ่นและนักลงทุนจากประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน และยังเป็นโอกาสที่แต่ละประเทศจะเสริมความแข็งแกร่งและสร้างกำลังการผลิตภายในประเทศของตนให้มากยิ่งขึ้น
  • ด้าน นาย Te Taingpor ประธานสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกัมพูชา เปิดเผยว่า จะมีโอกาสดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น หากราคาค่าไฟฟ้าในกัมพูชาลดต่ำกว่าปัจจุบันหรือมีราคาใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทุกๆ การผลิตต้องใช้พลังงาน ดังนั้นหากราคาไฟฟ้าต่ำ ต้นทุนการผลิตก็จะต่ำด้วย จะช่วยให้กัมพูชาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้ รวมทั้งสามารถดึงดูดนักลงทุนอีกด้วย
  • ในปี 2565 โครงการลงทุนภาคเอกชนจำนวน 132 โครงการได้รับการอนุมัติจาก CDC ซึ่งเพิ่มขึ้น 24 โครงการเมื่อเทียบกับปี 2564 ทั้งนี้ โครงการ 132 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวม 3,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 87.9 และสร้างงานให้คนในท้องถิ่นได้ 12.2 พันตำแหน่ง

โอกาส/ผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย

  1. ปัจจุบันสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีขึ้นมากนัก จนกว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจกลับมาสู่ภาวะปกติ รวมทั้งปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ทำให้การลงทุนส่วนใหญ่มาจากคนในท้องถิ่นและนักลงทุนจากประเทศที่มีภูมิศาสตร์ใกล้กันเท่านั้น พร้อมกับจำนวนเงินในการลงทุนที่ยังไม่มากเท่าที่ผ่านมา
  2. เมื่อผลกระทบของเศรษฐกิจในภูมิภาคทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกเติบโตช้า ส่งผลให้รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินมาตรการแทรกแซงเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนจากอัตราเงินเฟ้อและสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยการเร่งออกกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนทั้งใน SEZ และ Non-SEZ โดยการขอรับอนุมัติจาก CDC (เทียบเท่า BOI ของไทย) ในโครงการ การเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การวิจัย การศึกษา สุขภาพ พลังงาน สีเขียว การอนุรักษ์ชีวภาพ ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ การขนส่งและโทรคมนาคม อุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรม เพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ในการลงทุน อาทิ (1) ยกเว้นภาษีกำไร (Profit Tax) เป็นเวลา 3-9 ปี รวมทั้งภาษีส่งออกและภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ (2) การคิดค่าเสื่อมราคาในอัตราพิเศษ 40% สำหรับปีที่ 1 (กรณีไม่เลือกรับการยกเว้นภาษีกำไร) (3) ยกเว้นภาษีนำเข้า วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักรในการผลิต (4) ยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต สำหรับการผลิตเพื่อส่งออก (5) ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับสินค้าที่นำมาเป็นส่วนประกอบของสินค้าส่งออก (6) สามารถหักค่าใช้จ่ายในอัตรา 150% เพื่อการวิจัยและพัฒนา และ (7) ยกเว้นภาษีกำไร ในการขยายการลงทุน
  3. แม่ว่าจำนวนการลงทุนต่างชาติในช่วง 3 เดือนแรกปี 2566 ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่กัมพูชายังมีหลายอุตสาหกรรมในประเทศกัมพูชาที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เช่น การเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากกัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีกับหลายประเทศ เช่น FTA กับเกาหลีใต้ และจีน รวมทั้งปลายปี 2566 กัมพูชาจะมีข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ RCEP ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของนักธุรกิจไทยที่มีศักยภาพ ควรหาลู่ทางเข้ามาลงทุนในกัมพูชา ทั้งในเขต SEZ และ Non-SEZ

—————————

Phnom Penh Post

กรกฎาคม 2566

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ, กัมพูชา

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login