หน้าแรกTrade insight > ตลาดเศรษฐีภารตะ กับสินค้าศักยภาพที่ไทยตอบโจทย์

ตลาดเศรษฐีภารตะ กับสินค้าศักยภาพที่ไทยตอบโจทย์

ในอินเดีย มีจำนวนมหาเศรษฐี (High Networth Individuals หรือผู้ที่มีมูลค่าทรัพย์สินเกิน 30 ล้านเหรียญสหรัฐ) ประมาณ 150,000 คน เป็นอันดับที่สามรองจากสหรัฐอเมริกาและจีน โดยเพิ่มขึ้น 11 เท่าในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา การศึกษาของ Credit Suisse พบว่าจำนวนของเศรษฐีในระดับร้อยล้านเหรียญสหรัฐในอินเดียจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ในอีก 3 ปีข้างหน้า ในขณะที่ ศูนย์วิจัยตลาดของ Euromonitor International ประเมินว่าสินค้าสำหรับคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะขยายตัวสูง เนื่องจากจะมีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นในอินเดียอีกมากจากเศรษฐกิจที่เติบโตตัวและเมืองใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้าที่มีคุณภาพสูงและการออกแบบที่หรูหรา เช่น รถยนต์ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เครื่องประทินผิว และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมูลค่ารวมของสินค้าเหล่านี้จะเพิ่มจาก 2.08 แสนล้านบาทในปี 2566 เป็น 2.2 แสนล้านบาทในปี 2567

แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว คาดว่าผู้บริโภคในกลุ่มนี้ก็ยังรักษากำลังซื้อของตนไว้ได้ โดยในปี 2565 ภายหลังภาวะโควิด ตลาดรถยนต์หรูในอินเดียมียอดขายประมาณ 38,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 50% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 มีรถยนต์หรูถูกขายไปแล้วประมาณ 9,500 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณ 10% โดยเฉพาะรถยี่ห้อ Mercedes-Benz มียอดขายเพิ่มขึ้นมากที่สุด

จากรายงาน The Wealth Report 2023 ของ Knight Frank พบว่าครึ่งหนึ่งของคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะหาซื้องานศิลปะชิ้นเอกมาสะสมไว้ ทั้งเพื่อการประดับบ้านและสำนักงาน รวมถึงเป็นการลงทุนด้วย นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะซื้อกระเป๋าถือ แว่นตา นาฬิกา และไวน์ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับรายงานการสำรวจ (Luxury Outlook Survey 2023) ของ India Sotheby’s International Realty (ISIR) สำหรับความต้องการด้านการบริการ การสำรวจของ The American Express พบว่า 90% ของกลุ่มตัวอย่างชาวอินเดียที่มีรายได้สูงกำลังมองหาบริการสุขภาพที่ออกแบบให้มีความเฉพาะตัวสอดรับกับความสนใจของตนเองหรือครอบครัวเป็นพิเศษ รวมถึงต้องการเดินทางท่องเที่ยวไปในที่แปลกใหม่ โดยเฉพาะการได้ไปเที่ยวที่มีร้านอาหารชื่อดัง (Delicious Destinations) โดยอาจมีจัดกิจกรรมพิเศษให้ด้วย อาทิ การมีส่วนร่วมการทำอาหารหรือการไปร่วมงานเทศกาลอาหาร เป็นต้น สำหรับช่องทางการสื่อสารเพื่อนำเสนอบริการ พบว่า 48% ของกลุ่มตัวอย่าง มักจะรับรู้จากสื่อออนไลน์ ได้แก่ Instagram และ Facebook รวมถึงรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ เช่น Emily in Paris และ Game of Thrones เป็นต้น รวมถึงมีแนวโน้มที่จะซื้อที่พักตากอากาศไว้เป็นบ้านหลังที่สองทั้งที่อินเดียและในต่างประเทศ

ที่มา: www.smestreet.in เมษายน 2566

ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็น

สินค้าไทยมีการออกแบบและการผลิตที่ประณีตเป็นที่ยอมรับในอินเดียอยู่แล้ว สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของผู้มีรายได้สูงในอินเดียได้ โดยเฉพาะในกลุ่มสินแฟชั่นและไลฟสไตล์ อาทิ เครื่องประดับ กระเป๋าถือ ของใช้ในครัวแลบนโต๊ะอาหาร เฟอร์นิเจอร์/ของตกแต่งบ้าน รวมถึงบริการจัดงานแต่งงาน ในการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้มากขึ้น อาจทำได้โดยการจัดกิจกรรมร่วมกับผู้มีอิทธิพลในสื่อออนไลน์ สมาชิกของหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมแห่งรัฐต่างๆ รวมถึงสมาชิกของสมาคม สายการบิน สปอร์ตคลับ เครือโรงแรม โรงพยาบาล และการร่วมงานแสดงสินค้าในห้างสรรพสินค้าที่มีร้านค้า   แบรนด์เนมและมีคนชั้นสูงมาใช้บริการ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ อาทิ Mumbai, Ahmedabad, Surat และ Goa เป็นต้น

ที่มา: กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login