ประเทศจีนได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย จากข้อมูล ณ สิ้นปี พ.ศ. 2567 ประเทศจีนมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 310.31 ล้านคน คิดเป็น 22.0% ของประชากรจีนทั้งประเทศ ในจำนวนนี้มีประชากรจีนอายุ 65 ปีขึ้นไปจำนวน 220 ล้านคน คิดเป็น 15.6% ของประชากรจีนทั้งประเทศ จำนวนผู้สูงอายุในจีนใกล้เคียงกับจำนวนประชากรของสหรัฐอเมริกา และมากกว่าประชากรของประเทศส่วนใหญ่ในโลก ซึ่งมีแนวโน้มจำนวนผู้สูงวัยจีนมากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ กลุ่มผู้สูงอายุจีนยุคใหม่มีลักษณะการบริโภคที่โดดเด่นขึ้น มีการศึกษา มีเวลาว่าง มีรายได้หลังเกษียณ และให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้จะผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจสูงวัย (Silver Economy) ซึ่งจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า
1. สินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุ
ห่วงโซ่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจสีเงิน (Silver Economy) ครอบคลุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาสินค้าและบริการแก่ผู้สูงอายุ ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับวัยชรา ได้แก่
1.1 การบริโภคพื้นฐานของผู้สูงอายุในชีวิตประจำวัน ได้แก่ สินค้าที่คำนึงถึงผู้สูงอายุ อาหารสำหรับผู้สูงอายุ เสื้อผ้าสำหรับผู้สูงอายุ และของใช้ในครัวเรือน ที่เน้นความสะดวกในการใช้งาน
1.2 การเข้าสังคมและสร้างความสุข เช่น การศึกษาและการพัฒนาความรู้ (การเรียนสำหรับผู้สูงอายุ) การแต่งงานและความรักสำหรับผู้สูงอายุ กิจกรรมทางสังคม (ศูนย์กิจกรรมชุมชน แพลตฟอร์มโซเชียลออนไลน์) การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและความบันเทิง (การแสดงงิ้ว นิทรรศการการเขียนพู่กันและภาพวาด) ฯลฯ ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของประชากรผู้สูงอายุจากการบริโภคที่ “เน้นการดำรงชีวิต” ไปสู่การบริโภคที่ “เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิต”
1.3 การบริหารสินทรัพย์ เช่น ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยบริหารความมั่งคั่งและการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน รวมถึงการประกันบำนาญ การวางแผนการเงินสำหรับการเกษียณอายุ เป็นต้น
1.4 บริการทางการแพทย์และการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงบริการทางการแพทย์พื้นฐาน (คลินิกชุมชน แพทย์ประจำครอบครัว) การฟื้นฟูและการพยาบาล (การฟื้นฟูหลังผ่าตัด การดูแลผู้พิการ) การจัดการโรคเรื้อรัง (การติดตามความดันโลหิตสูง/เบาหวาน) การดูแลผู้สูงอายุอัจฉริยะ (สายรัดข้อมือติดตามสุขภาพ ระบบให้คำปรึกษาทางไกล) และอุปกรณ์การแพทย์ ฯลฯ
1.5 บริการที่เกี่ยวข้องหลังจากการเสียชีวิตของผู้สูงอายุ ซึ่งรวมถึงบริการงานศพ สุสาน และพิธีไว้อาลัย เป็นต้น
2. กลุ่มผู้สูงอายุเป็นแรงผลักดันใหม่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ
พฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ในกลุ่มผู้สูงอายุมีความหลากหลายและความถี่มากขึ้น โดยจากสถิติพบว่าผู้สูงอายุร้อยละ 60.7 ใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวันในการท่องอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ ในขณะที่ผู้สูงอายุเพียงร้อยละ 2.6 เท่านั้นที่อยู่ในภาวะ “แทบไม่ออนไลน์” ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์ การค้นหาข้อมูล การชำระเงินผ่านมือถือ ไปจนถึงการดูวิดีโอสั้นๆ สมาร์ทโฟนและแพลตฟอร์มออนไลน์มีการปรับฟีเจอร์ “โหมดผู้สูงอายุ” เช่น อักษรขนาดใหญ่ การค้นหาด้วยเสียง และระบบการชำระเงิน ฯลฯ ซึ่งช่วยให้การใช้งานเป็นมิตรต่อผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งไม่จำกัดเพียงการซื้อสินค้าแต่ครอบคลุมการชมภาพยนตร์และทีวีออนไลน์ด้วย
นอกจากนี้ จากรายงานการบริโภคของกลุ่ม Silver ประจำปี 2567 ของ JD.com ระบุว่าจำนวนการบริโภคออนไลน์ของกลุ่มผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยแบ่งเป็นมูลค่าการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 105 จำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 238 และจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นร้อยละ 87 (ขณะที่กลุ่มคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นร้อยละ 170, 218 และ 178 ตามลำดับ) สถิติดังกล่าวสะท้อนถึงการก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญในอำนาจการบริโภคของกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นแรงผลักดันใหม่ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
3. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพขยายตัวต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก iiMedia Research ระบุว่าตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพของจีนในปี 2568 คาดการณ์ว่ามีมูลค่า 3.775 แสนล้านหยวน และในปี 2570 จะสูงถึง 4.237 แสนล้านหยวน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 80% ระบุว่าเคยซื้ออาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุ ด้วยความตระหนักด้านสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยประชากรวัยกลางคนและผู้สูงอายุเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลัก ซึ่งมีความต้องการอาหารเสริมเพื่อ “ดูแลสุขภาพแบบเชิงรุก” อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการอาหารเสริมเนื่องจากข้อกังวลด้านความปลอดภัยของการบริโภคอาหารเสริมมากที่สุด

4. ผู้สูงอายุที่ใส่ใจสุขภาพกำลังกลายเป็น “พลังใหม่” ในตลาดฟิตเนส
มูลค่าตลาดอุปกรณ์ฟิตเนสสำหรับผู้สูงอายุในจีนสูงถึง 9.34 พันล้านหยวนในปี 2567 เพิ่มขึ้น 13.6% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตโดยรวมของตลาดอุปกรณ์ฟิตเนสในจีนประมาณร้อยละ 2 และคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าเกือบ 1.5 หมื่นล้านหยวนภายในปี 2572 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ผู้สูงอายุร้อยละ 53.6 เชื่อว่าการออกกำลังกายส่งผลดีต่อสุขภาพ และให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างการทำงานของระบบหัวใจและปอด โดยผู้สูงอายุที่ชื่นชอบการออกกำลังกายใช้เวลาเฉลี่ย 41.72 นาที ซึ่งสูงกว่ากลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่มาก ในการนี้ อุปกรณ์ฟิตเนสมีการปรับให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เช่น เครื่องออกกำลังกายแบบแรงกระแทกต่ำและดัมเบลล์น้ำหนักเบา เป็นต้น ศูนย์ออกกำลังกาย/ฟิตเนสมีหลักสูตรพิเศษเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ (เช่น ไทชิ) และแพลตฟอร์มฟิตเนสออนไลน์พัฒนาวิดีโอการสอนแบบอักษรขนาดใหญ่ ทั้งหมดเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ
5. การท่องเที่ยวของผู้สูงอายุ
ด้วยความต้องการ “การแสวงหาความรู้ + การเข้าสังคม” การท่องเที่ยวจึงได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับกลุ่มผู้สูงวัย โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของผู้สูงวัยในจีนยังอยู่ในระยะพัฒนาโดยหน่วยงานต่าง ๆ มีการตื่นตัวทั้งในระดับนโยบายรัฐและผู้ให้บริการ เช่น การเพิ่มรถไฟท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงอายุ และการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ และบริการด้านการเดินทางและที่พัก ฯลฯ
จากผลการสำรวจความชื่นชอบการท่องเที่ยวของผู้สูงวัย โดย iiMedia Research ดังนี้
52.04% การท่องเที่ยวพักผ่อน (ท่องเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน รีสอร์ทริมทะเล กอล์ฟ ช้อปปิ้ง ฯลฯ)
50.00% การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (การเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ นิทรรศการทางวัฒนธรรม ฯลฯ)
48.98% การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (การบำบัดด้วยน้ำพุร้อน การแพทย์แผนจีน การฝึกกีฬา ฯลฯ)
33.67% การท่องเที่ยวเฉพาะทาง (ทัวร์ชิมอาหาร ทัวร์ดนตรี ทัวร์ศิลปะ ฯลฯ)
33.16% การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย (กระโดดร่ม พาราไกลดิ้ง ดำน้ำ ปีนหน้าผา ฯลฯ)
17.35% การท่องเที่ยวเชิงสังคม (การจัดงานปาร์ตี้ งานแต่งงาน การสังสรรค์กับเพื่อน ฯลฯ)
ความเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว
จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงวัยในจีนและพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลง สามารถเป็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทยเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุ อาทิ (1) การพัฒนาสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ เช่น อาหารและอาหารเสริมที่เน้นสุขภาพ หรือ Super food ที่ไทยมีศักยภาพสูงในการผลิต และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึง Smart Device (2) การเจาะตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้สูงอายุจีนในวงกว้าง และ (3) บริการท่องเที่ยวและกิจกรรมเพื่อผู้สูงอายุ เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและวัฒนธรรม ซึ่งบริษัทท่องเที่ยวควรติดตามความต้องการของผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดและออกแบบแพคเกจการท่องเที่ยวให้ตรงกับความต้องการได้ โอกาสเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ แต่ยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุจีนในยุคปัจจุบันและอนาคต
ที่มา: https://www.iimedia.cn/c1086/106961.html
อ่านข่าวฉบับเต็ม : ธุรกิจสำหรับผู้สูงวัยจะเป็นขาขึ้นของจีนในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
