เลขาธิการสมาคมผู้นำเข้าข้าวของอิหร่านเปิดเผยว่า การลงทะเบียนนำเข้าข้าวจากปากีสถานจำนวน 120,000 ตันจะเริ่มในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการควบคุมตลาดข้าวภายในประเทศ
สำนักข่าว Tasnim รายงานว่า มาจีดเรซา คอบกี เลขาธิการสมาคมผู้นำเข้าข้าวอิหร่าน เปิดเผยว่า ตามประกาศล่าสุดของฝ่ายพัฒนาการพาณิชย์ กระทรวงเกษตรของอิหร่าน เดิมทีได้วางแผนให้เริ่มเปิดรับลงทะเบียนนำเข้าข้าวตั้งแต่วันที่ 23 เดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่สมาคมฯ ได้มีข้อสังเกตและข้อกังวลบางประการต่อเนื้อหาของประกาศดังกล่าว
โดยข้อกังวลประการแรก คือ การจำกัดการลงทะเบียนนำเข้าเฉพาะข้าวจากปากีสถาน และกำหนดโควตานำเข้าสูงสุดไว้ที่ 150,000 ตัน ซึ่งด้วยแรงกดดันจากความต้องการและกำลังผลิตที่จำกัดของปากีสถาน อาจส่งผลให้ราคาต้นทางสูงขึ้นตามธรรมชาติ ส่วนข้อกังวลประการที่สอง คือ ผู้ส่งออกชาวปากีสถานส่วนใหญ่ค้าขายด้วยเงินสด แต่เมื่อพิจารณาถึงหนี้ค้างชำระในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ค้างอยู่เป็นระยะเวลาประมาณ 10 เดือนของผู้นำเข้าอิหร่าน โอกาสที่จะสามารถนำเข้าข้าวปริมาณดังกล่าวได้ครบถ้วนจึงค่อนข้างต่ำ
เลขาธิการสมาคมฯ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมกับฝ่ายพัฒนาการพาณิชย์ของกระทรวงเกษตรเพื่อเสนอข้อสังเกตดังกล่าวอย่างเป็นทางการและมีเหตุผลเชิงวิชาการ โดยด้วยท่าทีที่เปิดกว้างของเจ้าหน้าที่ จึงได้มีการพิจารณาปรับแก้ประกาศและเลื่อนกำหนดการเปิดให้ลงทะเบียนใหม่
ในขั้นแรก ปริมาณการลงทะเบียนนำเข้าข้าวถูกปรับลดลง และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ได้มีการตกลงที่จะเปิดให้ลงทะเบียนนำเข้าข้าวจากอินเดียภายในหนึ่งสัปดาห์ถัดไป เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อิหร่านได้นำเข้าข้าวส่วนใหญ่จากอินเดีย นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่ได้รับอนุญาตให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศมากขึ้น
เลขาธิการสมาคมฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบัน มีพันธุ์ข้าวยอดนิยมจากปากีสถานจำนวน 4 ชนิดที่ได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียน ได้แก่ “386 ขาว”, “ซูเปอร์ บาสมาติ”, “1121 ขาว” และ “1121 รมควัน”
นอกจากนี้ หากมีการเร่งรัดการชำระหนี้อัตราแลกเปลี่ยนที่ค้างอยู่และดำเนินการลงทะเบียนนำเข้าได้ครบถ้วนตามแผน คาดว่าจะช่วยบรรเทาการปรับตัวของราคาข้าวภายในประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ
เลขาธิการสมาคมฯ ระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยังมีข้าวปริมาณมากของสมาชิกสมาคมค้างอยู่ในด่านศุลกากร หากสามารถเร่งกระบวนการตรวจปล่อยและส่งมอบให้แก่บริษัทการค้าของรัฐอิหร่านได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพและลด ความผันผวนของราคาข้าวในตลาด
สำหรับราคาขายปลีก ตามประกาศล่าสุดขององค์การคุ้มครองผู้บริโภคและผู้ผลิต กำหนดราคาข้าวปากีสถานสูงสุดไว้ที่ 663,000 เรียลต่อกิโลกรัม และข้าวอินเดียที่ 598,000 เรียลต่อกิโลกรัม
สุดท้าย เลขาธิการสมาคมฯ กล่าวว่าตามมติของคณะกรรมการควบคุมตลาดแห่งชาติ ข้าวนำเข้าทั้งหมดจะต้องส่งมอบให้แก่บริษัทการค้าของรัฐอิหร่าน และจะมีการกระจายผ่านคณะกรรมการควบคุมตลาดในแต่ละจังหวัดต่อไป
|
ราคาข้าวอิหร่าน ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2568 |
|
เลขที่ |
ชื่อข้าว |
ราคา/กิโล (เรียล) |
|
1 |
ข้าวหอมอิหร่าน Tarom เกรด A |
3,930,000 |
|
2 |
ข้าวหอมอิหร่าน Hashemi เกรด B |
2,970,000 |
|
3 |
ข้าวหอมอิหร่าน Hashemi เกรด C |
2,770,000 |
|
4 |
ข้าวปากีบาสมาติเกรด A |
1,789,000 |
|
5 |
ข้าวขาวไทย จำหน่ายในเว็บออนไลน์ |
1,500,000 |
|
6 |
ข้าวอินเดียเกรด A |
1,250,000 |
อ่านข่าวฉบับเต็ม : ข้าวต่างประเทศปริมาณ 120,000 ตันกำลังเข้าสู่ตลาดอิหร่าน
