เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นาย Boris Pistorius รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ประกาศว่า ภายในปี 2030 เยอรมนีมีแผนที่จะลงทุน 35,000 ล้านยูโร ในกลุ่มธุรกิจดาวเทียม สถานีภาคพื้นดิน และการปล่อยจรวด ซึ่งขณะนี้พลตรี Michael Traut ผู้บัญชาการกองบัญชาการอวกาศของกองทัพเยอรมนี (Bundeswehr) ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนดังกล่าวเป็นครั้งแรกในบทสัมภาษณ์ของสำนักข่าว Handelsblatt โดยระบุว่า เยอรมนีจะปล่อย “ดาวเทียมจำนวนสามดวง” ขึ้นสู่วงโคจร (ปัจจุบันกองทัพเยอรมนีมีดาวเทียมไม่ถึงสิบดวง) ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้เยอรมนีกลายเป็นประเทศผู้นำด้านอวกาศของยุโรปในทันทีและในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าค่าใช้จ่ายด้านอวกาศประจำปีของเยอรมนีจะสูงกว่างบประมาณขององค์การอวกาศยุโรปเสียอีก โดยการลงทุนดังกล่าวในปี 2025 มีมูลค่าเกือบ 7.7 พันล้านยูโร ด้านนาย Matthias Wachter ผู้อำนวยการแผนกความร่วมมือระหว่างประเทศ ความมั่นคง วัตถุดิบ และอวกาศ ของสหพันธ์อุตสาหกรรมเยอรมนี (BDI – Bundesverband der Deutschen Industrie) กล่าวว่า “การลงทุนที่ชาญฉลาดและการผลักดันให้มีการแข่งขันสูงจะช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมในภาคส่วนต่าง ๆ และยกระดับระบบนิเวศอวกาศของเยอรมนีให้ก้าวสู่ระดับใหม่ในยุโรป” นอกจากนี้ กองทัพเยอรมนียังตั้งเป้าที่จะสร้างภาคเศรษฐกิจ (Economic Sector) ใหม่ขึ้น กองทัพฯ ต้องการสร้าง “ธุรกิจอุตสาหกรรมอวกาศที่สามารถพึ่งพาตนเองได้และสามารถให้บริการในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย เพื่อที่เราจะได้ไม่จำเป็นต้องอุดหนุนอย่างถาวร”
เรียกได้ว่า ในยุโรปจำนวนเงินที่กองทัพของเยอรมนีจะนำไปลงทุนนั้นสูงเป็นประวัติการณ์ แม้แต่กองทัพฝรั่งเศส และอังกฤษก็ยังไม่มีงบประมาณมากขนาดนี้ หากมองในเชิงคณิตศาสตร์ เยอรมนีกำลังเพิ่มงบประมาณสำหรับกิจกรรมทางอวกาศขึ้นถึวหกเท่าตัว มากกว่าแปดพันล้านยูโรต่อปี ซึ่งเรื่องนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีความสำคัญในระดับยุโรป ก่อนหน้านี้ธุรกิจการป้องกันทางอวกาศเป็นภารกิจหลักของฝรั่งเศส โดยมีนาย Emmanuel Macron ประธานาธิบดีเป็นผู้ดูแลโดยตรง สำหรับ ในเยอรมนีการจัดการปัญหานี้ส่วนใหญ่จะถูกจัดการโดยเจ้าหน้าที่ระดับต่ำกว่ารัฐมนตรีช่วยเป็นหลัก ซึ่งนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองของอุตสาหกรรมอวกาศของเยอรมนี จนถึงปัจจุบันองค์การอวกาศยุโรป หรือ ESA (European Space Agency) ได้มอบสัญญาโดยยึดตามการส่งคืนดาวเทียมตามภูมิศาสตร์อย่างเคร่งครัด โดยแต่ละประเทศจะได้รับสัญญาตามจำนวนเงินที่จ่ายไป ปัจจุบันบริษัทที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพเยอรมันในฐานะผู้ออกคำสั่งซื้อให้ความสำคัญกับเรื่องเวลามากกว่าราคาเสียอีก ข้อดีที่เห็นได้ชัด คือ ราคาหุ้นของ OHB เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทันที นับตั้งแต่นาย Boris Pistorius รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ออกมาประกาศแพ็คเกจการป้องกันทางอวกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้านการเยี่ยมชมกองบัญชาการอวกาศของกองทัพเยอรมันทำให้เห็นภาพภารกิจของกองทัพฯ โดยพลตรี Traut ชี้ไปที่หน้าจอในศูนย์ควบคุมที่แสดงวงโคจรของดาวเทียมสอดแนมของรัสเซียสองดวงที่เชื่อมต่อกับดาวเทียม Intelsat ซึ่งกองทัพฯ ก็ใช้งานเช่นกัน นาย Pistorius รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า หลักฐานนี้แสดงให้เห็นที่ว่า ความไม่มั่นคงในอวกาศถูกพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว
ศูนย์บัญชาการอวกาศ – โดยการเยี่ยมชมเมือง Uedem เมืองเล็ก ๆ ในรัฐ Nordrhein-Westfalen ที่เมืองนี้นเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการอวกาศของกองทัพเยอรมัน โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2021 และประจำการในกองทัพอากาศภายใต้การนำของพลตรี Michael Traut กองบัญชาการนี้มีความรับผิดชอบด้านการประสานงาน รักษาศักยภาพในการปฏิบัติการ และความยืดหยุ่นของโครงสร้างพื้นฐานทางอวกาศของกองทัพฯ ภายในระยะเวลา 5 ปี พลตรี Traut ต้องสร้างกลุ่มดาวเทียมจำนวนมาก และสร้างเครือข่ายสถานีภาคพื้นดิน เพื่อรับประกัน ความปลอดภัย การลาดตระเวน และแม้แต่อาวุธโจมตีในอวกาศ ขึ้นมา ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีการที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้ภายในช่วงเวลาภายใน 5 ปี สำหรับอุตสาหกรรมอวกาศนี้เรียกได้ว่า เป็นระยะเวลาที่สั้นมาก ยกตัวอย่างเช่น การปล่อยจรวดจากผู้ให้บริการส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศหลายรายถูกจองเต็มแล้ว ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Isar Aerospace ในเมืองมิวนิก ที่ถูกจองเต็มแล้วจนถึงปี 2028 แม้ว่า พวกเขาจะยังไม่เคยส่งจรวดขึ้นสู่อวกาศสักครั้งเดียวเลยก็ตาม เพื่อให้มี ความรวดเร็ว คล่องตัว และสร้างสรรค์มากขึ้นนาย Traut จึงอาศัย “แนวทางอวกาศใหม่” ดังที่เขาอธิบายไว้ในการสัมภาษณ์ กองทัพเยอรมันต้องการทำหน้าที่เป็นลูกค้าหลัก นั่นคือ จะเป็นผู้ตั้งเป้าหมาย แทนที่จะเป็นผู้กำหนดรายละเอียดทางเทคนิคที่สำคัญทั้งหมดไว้ล่วงหน้า ดังเช่นที่เคยทำในธุรกิจอวกาศของยุโรป ยกตัวอย่างเช่น จรวด Ariane 6 ที่ถูกส่งออกล่าช้ากว่ากำหนดถึงสี่ปี และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวนมาก เพราะมีกำหนดรายละเอียดทางเทคนิคที่สำคัญมากเกินไป
จาก Handelsblatt 27 ตุลาคม 2568
อ่านข่าวฉบับเต็ม : เยอรมนีจะกลายเป็นประเทศชั้นนำด้านธุรกิจอวกาศ
