ตลาดรถจักรยานยนต์ฝรั่งเศสซบเซา

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ทุกประเภทในประเทศฝรั่งเศสปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรถจักรยานยนต์ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากข้อมูลของบริษัท Solly Azar-AAA Data ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดเก็บและวิเคราะห์ฐานข้อมูลการจดทะเบียนรถยนต์ทุกประเภทในฝรั่งเศส สรุปตัวเลขยอดขายไตรมาสแรกของปี2025 มีรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่จำนวนทั้งสิ้น 47,356 คัน ลดลงจากจำนวน 61,054 คัน (ร้อยละ 22) ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2024 ซึ่งนักวิเคราะห์เศรษฐกิจหลายรายประเมินว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง

บริษัท Mobilians-Dataneo เปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ชะลอตัวในทุกรุ่นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ดังนี้
• รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก 50 ซีซี ยอดขายลดลงร้อยละ 26.4 และในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียวลดลงร้อยละ 30.9
• รถจักรยานยนต์ขนาด 125 ซีซี ลดลงร้อยละ 20.4 และลดลงร้อยละ 25.7 ในเดือนมีนาคม
• รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่กว่า 125 ซีซี ลดลงร้อยละ 20.4 โดยรถจักรยานยนต์รุ่นสามล้อยอดขายลดลงสูงสุดถึงร้อยละ 45.3
• ตลาดรถจักรยานยนต์มือสอง ซึ่งโดยปกติไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ พบว่ายอดขายลดลงร้อยละ 20 โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กมือสองที่มียอดขายลดลงถึงร้อยละ 30

ถึงแม้ว่าฤดูใบไม้ผลิที่มาพร้อมกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยกำลังเริ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วเป็นช่วงเวลาที่ส่งผลดีต่อยอดขายรถจักรยานยนต์ แต่สำหรับในปีนี้ผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายกลับแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาด เนื่องมาจากปัจจัยสำคัญหลายประการที่อาจส่งผลต่อการชะลอตัวของยอดขายรถจักรยานยนต์ในประเทศฝรั่งเศส ได้แก่

1. การบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 – EURO 5 (EUROPEAN EMISSION STANDARDS)  ซึ่งเป็นกฎระเบียบสำหรับควบคุมระดับการปล่อยมลพิษไอเสียจากยานพาหนะในการช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยทางสหภาพยุโรปเริ่มใช้มาตรฐานนี้เป็นครั้งแรกในปี 1992 ในชื่อว่ามาตรฐานยูโร 1- EURO 1 จนถึงฉบับล่าสุดคือมาตรฐานยูโร 5 – EURO 5 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 เป็นต้นมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเร่งจำหน่ายและจดทะเบียนรถจักรยานยนต์รุ่นที่ไม่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 เป็นจำนวนมากในช่วงปลายปี 2024 ขณะเดียวกันรถรุ่นใหม่ที่ได้มาตรฐานยูโร 5 ยังมีจำนวนจำกัดและทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างช้า ๆ
2. พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้บริโภคมีแนวโน้มลดการใช้งานรถจักรยานยนต์ลง และขยายระยะเวลาในการถือครองรถจักรยานยนต์นานขึ้นก่อนตัดสินใจซื้อใหม่
3. การขยายตัวของตลาดพาหนะทางเลือก อาทิ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและรถยนต์ขนาดเล็กที่ไม่ต้องใช้ใบอนุญาตขับขี่ ดังเช่น รถยนต์รุ่น Citroën AMI (ภาพประกอบด้านล่าง) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะแทนที่จักรยานยนต์ ถึงกระนั้นก็ตาม ยอดขายโดยรวมของรถยนต์ที่ไม่ต้องใช้ใบขับขี่ลดลงร้อยละ 28 เช่นกันตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา

4. ข้อกำหนดทางกฎหมายการขับขี่ยวดยานพาหนะที่เข้มงวดขึ้น เช่น การจำกัดความเร็วขับขี่ยวดยานพาหนะในเขตเมืองหรือที่เรียกว่าเขตพื้นที่ปล่อยมลพิษต่ำ (Low- Emission Zone) และข้อบังคับให้รถจักรยานยนต์ต้องตรวจสภาพประจำปี ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2024 ล้วนส่งผลให้การใช้รถจักรยานยนต์ในชีวิตประจำวันมีความซับซ้อนและไม่สะดวกสบายเหมือนที่ผ่านมา
5. ข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมจอดรถในกรุงปารีส ซึ่งกำหนดให้รถจักรยานยนต์ต้องชำระค่าที่จอดรถเช่นเดียวกับรถยนต์ ถึงแม้ข้อกำหนดนี้จะมีผลบังคับใช้แล้วแต่จากสถิติพบว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ในกรุงปารีสและเขตปริมณฑลได้รับผลกระทบน้อยกว่าพื้นที่อื่น โดยมียอดขายลดลงเพียงร้อยละ 11 ในไตรมาสแรก และร้อยละ 21 ในรอบหนึ่งปี ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ลดลงของยอดขายรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ นาง Maëlle Faure ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดรถยนต์และจักรยานยนต์จากบริษัทประกันภัย Solly Azar ได้แสดงความคิดเห็นว่า พฤติกรรมการบริโภคของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในฝรั่งเศสกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และมีแนวโน้มว่าจะไม่กลับมาเป็นเช่นเดิมในระยะเวลาอันใกล้

ความเห็นสคต.
ในปี 2024 ไทยส่งออกสินค้าประเภท ยานบกนอกจากรถที่เดินบนรางรถไฟหรือรางรถราง ส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบของยานดังกล่าว (HS 87) คิดเป็นมูลค่า 137.83 ล้านเหรียญสหรัฐมายังฝรั่งเศส ลดลงร้อยละ 5.12 จากปีก่อนหน้า โดยสินค้าที่ไทยส่งออกเป็นมูลค่าสูงที่สุดได้แก่ รถจักรยานยนต์ (รวมถึงโมเพ็ด) และรถจักรยานยนต์ที่ติดตั้งมอเตอร์ช่วย (มีหรือไม่มีรถพ่วงข้าง) รวมทั้งรถพ่วงข้าง (HS 8711) ซึ่งไทยเป็นคู่ค้าในลำดับที่ 7 ของฝรั่งเศส คิดเป็นมูลค่า 113.13 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024

จากข้อมูลการนำเข้าสินค้าประเภทเดียวกันของฝรั่งเศสจากทั่วโลกเป็นที่น่าสังเกตว่า ยอดการนำเข้าเริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2022  (2,144 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2022, 2,082 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2023, 1,908 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2024)  ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดผู้บริโภคฝรั่งเศสดังที่กล่าวมาข้างต้น นอกเหนือจากนั้นความเป็นกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ย่อมส่งผลต่อตลาดการบริโภคเช่นเดียวกัน ซึ่งทางสคต. กรุงปารีสจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและนำมาเรียนให้ทราบในโอกาสต่อไป

ที่มาของข่าว
Lionel Steinmann
ข้อมูลจาก Les Echos
https://www.lesechos.fr/industrie-services/automobile/motos-cyclos-le-marche-des-deux-roues-sur-la-mauvaise-pente-2159727

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ตลาดรถจักรยานยนต์ฝรั่งเศสซบเซา