สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานข้อมูลการค้าต่างประเทศล่าสุดว่าไนจีเรียนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลน้อยลงในปี 2024 เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและค่าเงินไนร่าที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องทำให้อัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศมีราคาแพงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้ารถยนต์สูงขึ้นโดยมูลค่ารวมของการนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลง 14.3 เปอร์เซ็นต์เหลือ 1.26 ล้านล้านไนร่าในปี 2024 จาก 1.47 ล้านล้านไนร่าที่บันทึกไว้ในปี 2023
การลดลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่การนำเข้ารถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีก่อนหน้าซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2022 อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงทางเศรษฐกิจที่รุนแรงในปี 2024 บังคับให้ธุรกิจและผู้บริโภคลดการซื้อที่ไม่จำเป็นโดยรถยนต์นำเข้าเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดซึ่งในช่วงห้าปีที่ผ่านมา การนำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลของไนจีเรียมีความผันผวนมาก ในปี 2020 ไนจีเรียได้นำเข้ายานยนต์มูลค่า 546,790 ล้านไนร่า โดยตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 695,400 ล้านไนร่าในปี 2021 อย่างไรก็ดี ในปี 2022 การนำเข้าลดลงเล็กน้อยเหลือ 655,690 ล้านไนร่า ก่อนที่จะพุ่งสูงขึ้น 124.7 เปอร์เซ็นต์เป็น 1.47 ล้านล้านไนร่าในปี 2023 การลดลงเหลือ 1.26 ล้านล้านไนร่าในปี 2024 ถือเป็นการพลิกกลับจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่แล้วซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายลง
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ส่งผลให้การลดลงดังกล่าวคือเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งกัดกร่อนอำนาจซื้อของผู้บริโภคและทำให้สินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น ยานยนต์มีราคาถูกลงและอัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียพุ่งสูงสุดในรอบเกือบสามทศวรรษในปี 2024 โดยแตะระดับ 34.8 เปอร์เซ็นต์ในเดือนธันวาคมฯ เพิ่มขึ้นจาก 34.6 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤศจิกายนฯ นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยสำหรับปี 2024 อยู่ที่ 33.2 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจาก 24.7 เปอร์เซ็นต์ที่บันทึกไว้ในปี 2023
ราคาผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ชาวไนจีเรียจำนวนมากต้องมุ่งเน้นไปที่ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น โดยที่สินค้าราคาแพง เช่น รถยนต์ ถือเป็นสินค้ารองลงมา ผู้ซื้อที่มีแนวโน้มจะซื้อจำนวนมากเลื่อนการซื้อออกไปหรือเลือกซื้อรถมือสองเนื่องจากราคาของรถใหม่และรถนำเข้ามือสองมีราคาสูงเกินไป ในเวลาเดียวกัน การอ่อนค่าของเงินไนร่าทำให้ตลาดรถยนต์ต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการระหว่างเงินไนร่าและดอลลาร์สหรัฐสิ้นสุดในปี 2024 ที่ 1,535 ไนร่าต่อดอลลาร์สหรัฐ ตามการวิเคราะห์ข้อมูลจากธนาคารกลางไนจีเรียนี่คือการอ่อนค่าลง 40.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับอัตราอย่างเป็นทางการเมื่อสิ้นปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ 907.11 ไนร่าต่อดอลลาร์สหรัฐในตลาดคู่ขนานค่าเงินไนร่าอ่อนค่าลง 26.8 เปอร์เซ็นต์โดยซื้อขายที่ 1,660 ไนร่าต่อ 1 ดอลลาร์จาก 1,215 ไนร่าต่อ 1 ดอลลาร์เมื่อสิ้นปี 2023
ธนาคารโลกจัดให้ค่าเงินไนร่าอยู่ในกลุ่มสกุลเงินที่มีผลงานแย่ที่สุดในแอฟริกาใต้สะฮาราในปี 2024 ค่าเงินไนร่าอ่อนค่าลงเนื่องมาจากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นในตลาดคู่ขนาน การไหลเข้าของเงินดอลลาร์ที่จำกัดและความล่าช้าในการเบิกจ่ายเงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางไนจีเรีย รายงานของธนาคารโลกเน้นย้ำว่าความต้องการเงินดอลลาร์ซึ่งขับเคลื่อนโดยสถาบันการเงิน ผู้ใช้ปลายทางที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และผู้จัดการเงินได้ทำให้แรงกดดันต่อเงินไนร่าเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ค่าเงินไนร่าที่ลดลงอย่างรวดเร็วทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีราคาแพงขึ้นอย่างมากทำให้ต้นทุนของรถยนต์ที่นำเข้าสูงขึ้นและทำให้ตัวแทนจำหน่ายจำนวนมากไม่ต้องการนำสินค้าใหม่เข้ามา
อนึ่ง ผู้จัดการทั่วไปของ Ports & Terminal Multipurpose Limited (PTML) ซึ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้าแบบโรลออนโรลออฟชั้นนำในไนจีเรียใช้ในการขนส่งรถยนต์ที่นำเข้ามาในประเทศระหว่างร้อยละ 60 ถึง 70 โทษการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์นำเข้าว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ปริมาณรถยนต์มือสองที่นำเข้ามาไนจีเรียลดลง โดยกล่าวว่า ปริมาณรถยนต์มือสองที่นำเข้ามาไนจีเรียลดลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนซึ่งอาจเกิดจากภาษีนำเข้าและภาษีสำหรับรถมือสองที่สูงมาก การเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์มือสอง การจำกัดการลดราคาจากโรงงานที่ใช้สำหรับการประเมินภาษีนำเข้าเป็นเวลา 10 ปี ในขณะที่กฎหมายอนุญาตให้นำเข้ารถยนต์ที่มีอายุ 12 ปีได้ซึ่งรถยนต์ที่มีอายุเกิน 10 ปีต้องจ่ายภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นและอัตราแลกเปลี่ยนที่สูง ส่งผลให้ต้นทุนการขนถ่ายสินค้าสูงเกินระดับที่คนไนจีเรียส่วนใหญ่จ่ายได้ซึ่งต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัวในการขนส่งส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ เหล่านี้คือเหตุผลบางประการที่ทำให้ปริมาณรถยนต์มือสองลดลง
อ่านข่าวฉบับเต็ม : ไนจีเรียนำเข้ารถยนต์น้อยลงท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยนที่สูง
