หน้าแรกTrade insightข้าว > ธุรกิจจัดส่งอาหาร (Food Delivery) นำโอกาสธุรกิจอาหารไทยเพิ่มขึ้นในตลาดจีน

ธุรกิจจัดส่งอาหาร (Food Delivery) นำโอกาสธุรกิจอาหารไทยเพิ่มขึ้นในตลาดจีน

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัท JD ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซอันยักษ์ใหญ่ของจีน ประกาศว่าบริษัทจะดำเนินธุรกิจจัดส่งอาหาร (Food Delivery) อย่างเป็นทางการ และเปิดตัวโครงการ “ร้านอาหารคุณภาพสูง” เพื่อรับสมัครร้านอาหาร โดยระบุว่าการรับสมัครร้านอาหารในครั้งนี้จะรับเพียงแต่เป็นร้านอาหารคุณภาพสูงเท่านั้น สำหรับร้านอาหารที่เข้าร่วมก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 จะได้รับการยกเว้นค่าคอมมิชชั่นตลอดทั้งปี ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นการเปิดเผยความคืบหน้าธุรกิจ Food Delivery ของบริษัท JD ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

หลายปีที่ผ่านมา ตลาดธุรกิจ Food Delivery ของจีนมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในตลาดที่บริโภค Food Delivery ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2567 สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ที่ประกาศจากสมาคมร้านอาหารแห่งประเทศจีน เปิดเผยว่าในปี 2566 ขนาดตลาด Food Delivery ในจีนมีมูลค่าประมาณ 1.2 ล้านล้านหยวน คิดเป็นร้อยละ 22.6 ของรายได้ร้านอาหารทั้งหมดของจีน โดยผู้บริโภคที่ใช้จ่ายเงินกับ Food Delivery เกือบ 3,300 ล้านหยวนต่อวัน ซึ่งธุรกิจ Food Delivery ได้กลายเป็นช่องทางทำกำไรที่สำคัญสำหรับร้านอาหารในขณะนี้

ปัจจุบัน Food Delivery ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของชาวจีน ข้อมูลจากศูนย์สารสนเทศเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแห่งประเทศจีน ระบุว่าจำนวนผู้ใช้บริการ Food Delivery ออนไลน์ในจีนสูงถึง 545 ล้านคน คิดเป็นประมาณร้อยละ 50 ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด ในขณะที่ตลาดในเมืองใหญ่เข้าสู่ภาวะการพัฒนาที่ครบวงจร การสั่ง Food Delivery ออนไลน์ในเขตอำเภอมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่าร้อยละ 40 โดยปัจจุบันบริการ Food Delivery ออนไลน์ได้ครอบคลุมมากกว่า 2,000 อำเภอทั่วประเทศ นอกจากนี้ ผู้ที่จัดส่ง Food Delivery ของจีนมีจำนวนกว่า 10 ล้านคน สำหรับแพลตฟอร์มสั่งอาหารชั้นนำของจีน อาทิ Meituan มีจำนวน 7.45 ล้านคน และแพลตฟอร์ม Eleme มีจำนวนกว่า 4 ล้านคน

ทั้งนี้ ตลาด Food Delivery ได้ขยายเวลาและพื้นที่ของการบริโภค ทำให้ร้านค้าจำนวนมากได้ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสร้างนวัตกรรมในการให้บริการ เช่น บางร้านขยายเวลาการให้บริการจำหน่ายอาหารเป็น 24 ชั่วโมง บางร้านให้บริการที่เป็นแบบเฉพาะส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงช่วยยกระดับการให้บริการของร้านอาหาร แต่ยังช่วยเพิ่มรายได้ของร้านอาหารมากขี้น

หลังจากบริษัท JD ได้เข้าสูงตลาด Food Delivery อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะนำโอกาสให้กับร้านอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงร้านอาหารไทยที่ตลาดจีนด้วย ในปี 2567 จำนวนร้านอาหารไทยในตลาดจีน มีจำนวนกว่า 80,000 ร้าน เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปีที่ผ่านมา ส่วนมากกระจายอยู่ที่เมืองระดับหนึ่งและเมืองระดับสอง สำหรับปริมาณการจำหน่ายอาหารไทยผ่านแพลตฟอร์ม Food Delivery เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์ม Food Delivery มีบทบาทที่สำคัญในการประชาสัมพันธ์อาหารไทย ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารไทยที่เมืองหนานหนิง ซึ่งเป็นเมืองจัดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (China-ASEAN Expo) ที่เป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มีร้านอาหารไทยมากกว่า 50 ร้าน ซึ่งส่วนใหญ่มีการเปิดธุรกิจ Food Delivery บนแพลตฟอร์ม Meituan และ Eleme ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองของจีน เมนูที่ได้รับความนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ ข้าวมันไก่ ข้าวกระเพราหมู ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวานไก่ และข้าวเหนียวมะม่วง สำหรับร้านอาหารที่ได้ยอดจำหน่าย 20 อันดับแรกในแพลตฟอร์ม Meituan ในเมืองหนานหนิง ดังรูปภาพด้านล่างนี้

 

ทั้งนี้ ร้านอาหารดังกล่าวได้รับปริมาณการสั่งอาหารผ่านระบบแพลตฟอร์ม Food Delivery มากกว่าจำนวน 200 – 2,000 ครั้งต่อเดือน ซึ่งมีการส่งเสริมรายได้ให้กับร้านอาหารมากขึ้น

ความเห็นของ สคต.ณ เมืองหนานหนิง การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดธุรกิจ Food Delivery ได้สร้างโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับอาหารไทยในตลาดจีน ด้วยการร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Food Delivery ของจีน อาหารไทยไม่เพียงแต่สามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดได้เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างแบรนด์และพัฒนาสู่ตลาดดิจิทัลได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย จากที่บริษัท JD ที่ดำเนินธุรกิจ Food Delivery และรับสมัครร้านอาหารที่มีคุณภาพเท่านั้น จะเพิ่มโอกาสให้กับร้านอาหารไทยที่มีคุณภาพในจีนมากขึ้น โดยเฉพาะเป็นร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในอนาคตความต้องการอาหารต่างประเทศของผู้บริโภคยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งอาหารไทยมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญในตลาด Food Delivery ของจีน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการส่งออกวัตถุดิบการปรุงอาหาร อาทิ ซอสปรุงรส สินค้าอาหาร ผลไม้ เครื่องดื่ม และข้าวของไทยมายังตลาดจีนเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์ไปดำเนินธุรกิจอาหารไทยในตลาดจีนควรศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคให้ดี พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Food Delivery เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และพัฒนาเมนูที่สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด รวมถึงรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบ คุณภาพและรสชาติของอาหาร ตลอดจนบรรจุภัณฑ์และบริหารระยะเวลาในการจัดส่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอาหารไทยในตลาด Food Delivery ของจีน

———————————————————————————————–

แหล่งที่มา

http://www.ce.cn/cysc/newmain/yc/jsxw/202502/24/t20250224_39300651.shtml

http://www.ce.cn/cysc/sp/info/202501/27/t20250127_39279199.shtml

http://www.ce.cn/xwzx/gnsz/gdxw/202502/14/t20250214_39291555.shtml

https://www.163.com/dy/article/JA6GL3VO0511A1Q1.html

https://www.meituan.com/

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองหนานหนิง

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ธุรกิจจัดส่งอาหาร (Food Delivery) นำโอกาสธุรกิจอาหารไทยเพิ่มขึ้นในตลาดจีน

Login