รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเกี่ยวกับดัชนีสินค้าอุปโภคบริโภคระบุว่าอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปของไนจีเรียพุ่งขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกันแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปีที่ 34.6% หรือเพิ่มขึ้น 0.72% จาก 33.88% ในเดือนตุลาคม 2024 ซึ่งเมื่อเทียบเป็นรายเดือน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนพฤศจิกายนฯ อยู่ที่ 2.64% ซึ่งเท่ากับอัตราในเดือนก่อนหน้า นั่นหมายความว่าในเดือนพฤศจิกายนฯ อัตราการเพิ่มขึ้นของระดับราคาเฉลี่ยเท่ากับอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับราคาเฉลี่ยในเดือนตุลาคม 2024 และอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 12 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2024 อยู่ที่ 26.64% ซึ่งสูงกว่าที่บันทึกไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2023 ที่ 20.35% ถึง 6.29%
อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารพุ่งขึ้นแตะระดับ 39.93% ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 32.84% ในเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยหลักแล้วเกิดจากราคาอาหารหลักที่สูงขึ้น ได้แก่ เผือก เผือกมะพร้าว ข้าวโพด ข้าว เบียร์ และน้ำมันพืช รวมทั้ง ราคาสินค้าอาหารต่างๆ เช่น มันเทศ มันฝรั่ง และน้ำมันปาล์ม เป็นต้น เมื่อเทียบเป็นรายเดือน อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารในเดือนพฤศจิกายน 2024 อยู่ที่ 2.98% เพิ่มขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับ 2.94% ที่บันทึกไว้ในเดือนตุลาคม 2024 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ผันผวนและพลังงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 28.75% ในเดือนพฤศจิกายน 2024 เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้น 6.36% จาก 22.38% ที่บันทึกไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2023 อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเมื่อเทียบเป็นรายเดือนลดลง 0.3% จาก 2.14% ในเดือนตุลาคม 2024 เหลือ 1.83% ในเดือนพฤศจิกายน 2024
ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่อัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียสูงขนาดนี้คือเมื่อ 28 ปีที่แล้วในเดือนมีนาคม 1996 ซึ่งพุ่งสูงถึง 41.9% และการที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไนจีเรียพุ่งสูงถึง 34.60% ในเดือนพฤศจิกายน 2024 เนื่องจากชาวไนจีเรียต้องเผชิญกับราคาน้ำมันและอาหารที่สูงขึ้นสะท้อนถึงการพุ่งสูงขึ้นของต้นทุนสินค้าและบริการทั่วประเทศ อีกทั้ง ไนจีเรียกำลังประสบกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงตลอดปี 2024 โดยพุ่งสูงขึ้นจาก 28.9% เมื่อสิ้นปี 2023 เป็น 34.6% แม้ธนาคารกลางจะพยายามหลายครั้งในการควบคุมเงินเฟ้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านนโยบายการเงินที่เข้มงวดซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเพิ่มขึ้นจาก 18.75% เมื่อสิ้นปี 2023 เป็น 27.5% ในปีนี้
ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อในปีนี้ ได้แก่ เงินเฟ้อด้านอาหาร เงินเฟ้อด้านอาหารนำเข้า และเงินเฟ้อด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤศจิกายนฯ รวมทั้ง ดัชนีรองทั้งหมดมีอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ยกเว้นดัชนีด้านสุขภาพ การสื่อสาร การพักผ่อนหย่อนใจ และวัฒนธรรม ซึ่งล้วนมีอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปี
สำหรับอัตราเงินเฟ้อในเขตเมืองและชนบท ปรากฎว่า อัตราเงินเฟ้อในเขตเมืองเมื่อเทียบเป็นรายปีอยู่ที่ 37.10% ในเดือนพฤศจิกายน 2024 เพิ่มขึ้น 6.88% จากปีก่อน เพิ่มขึ้น 0.02% เป็น 2.77% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และอัตราเงินเฟ้อในเขตชนบทเมื่อเทียบเป็นรายปีอยู่ที่ 32.27% ในเดือนพฤศจิกายน 2024 เพิ่มขึ้น 5.84% จากเดือนพฤศจิกายน 2023 อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบเป็นรายเดือน อัตราเงินเฟ้อในเขตชนบทลดลง 0.02% เป็น 2.51% นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 12 เดือนสำหรับเขตเมืองและชนบทอยู่ที่ 35.07% และ 30.71% ตามลำดับ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน
อนึ่ง การเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายเดือนเกิดจากการเพิ่มขึ้นของราคาเฉลี่ยของอาหารประเภทต่างๆ รวมถึงปลา เนื้อสัตว์ ขนมปังและซีเรียล และธัญพืช อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารเฉลี่ยรายปีสำหรับ 12 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2024 อยู่ที่ 38.67% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยรายปีที่บันทึกไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2023 (27.09%) ถึง 11.58%
ในเดือนพฤศจิกายน 2024 รัฐโซโกโต โยเบะ และเอโดะ มีอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารเมื่อเทียบเป็นรายปีสูงสุดที่ 51.30%, 49.69% และ 47.77% ตามลำดับ ในทางกลับกัน รัฐควารา โคกี และริเวอร์ส มีอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารเมื่อเทียบเป็นรายปีต่ำสุดที่ 31.39%, 32.95% และ 33.27% ตามลำดับ ขณะเดียวกัน รัฐบอร์โน อาดามาวา และโคกีพบว่าอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารต่ำสุดเมื่อเทียบเป็นรายเดือนที่ 0.76%, 0.90% และ 1.21% ตามลำดับ
อ่านข่าวฉบับเต็ม : อัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียพุ่งสูงถึง 34.60% ในเดือนพฤศจิกายน 2024 สูงสุดในรอบ 28 ปี
