มีรายงานว่า ธุรกิจค้าปลีกสหรัฐฯนำเข้าสินค้าเพื่อจำหน่ายในเทศกาลคริสมาสปีนี้ ลดลง ข้อมูลจาก bills of lading ในระยะ 12 เดือน (30 กันยายน 2566 ถึง 30 กันยายน 2567) แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจค้าปลีกสหรัฐฯนำเข้าสินค้าสำหรับเทศกาลคริสมาสประมาณ 141 ล้านกิโลกรัม ลดลงจาก 180 ล้านกิโลกรัมในปี 2565 ร้อยละ 22 เป็นการลดลงมากที่สุดในรอบสองปี เนื่องจากผู้ค้าปลีกสหรัฐฯคาดการณ์ว่า ความต้องการของผู้บริโภคและยอดขายในเทศกาล คริสมาสปีนี้จะไม่เติบโต
บริษัท Walmart ธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ได้ลดการนำเข้าสินค้าสำหรับเทศกาลคริสมาสในปี 2567 ลงเหลือประมาณ 340,000 กิโลกรัม จากที่เคยนำเข้า 9.8 แสนกิโลกรัมในปี 2566 และ 1.9 ล้านกิโลกรัมในปี 2565 เป็นการลดลงอย่างมากต่อเนื่องติดต่อกัน 2 ปี ปกติแล้ว Walmart จะศึกษาและวิเคราะห์วิจัยข้อมูลการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคสหรัฐฯในทุกแง่มุมอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจจัดหาสินค้าเข้าร้าน ในครั้งนี้ Walmart ได้ข้อสรุปว่า ความต้องการของผู้บริโภคสหรัฐฯในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้อยู่ในสภาวะอ่อนตัว
บริษัทค้าปลีกรายอื่นๆก็คาดการณ์การเติบโตของยอดขายเพียงเล็กน้อยและในระดับที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา และทำการนำเข้าลดลง เช่นกัน แม้ว่าจะมีข้อมูลแพร่หลายว่า การใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคสหรัฐฯแสดงแนวโน้มเติบโต แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเติบโตของการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการเติบโตของการใช้จ่ายเพื่อสิ่งที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เช่น ที่อยู่อาศัย การขนส่ง สาธารณูปโภค การรักษาโรค และอาหาร เป็นต้น ไม่ใช่การใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
ปกติแล้ว ผู้ค้าปลีกสหรัฐฯจะนำเข้าสินค้าสำหรับจำหน่ายช่วงเทศกาลคริสมาสเป็นการล่วงหน้าหลายเดือน โดยอาจจะซื้อสินค้าจากผู้ค้าส่ง บุคคลที่สาม หรือผู้จัดหาอุปทานสินค้า ในปีนี้ ผู้ค้าปลีกสหรัฐฯต้องการรักษาระดับสต๊อกสินค้าให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เคยประสบในสองปีก่อนหน้า ที่ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การค้าและการขนส่งระหว่างประเทศทำให้มีการนำเข้าสินค้าจำนวนมากเพื่อมาตั้งรับสถานการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นจริงหรือไม่รุนแรงเท่าที่คาดการณ์ ทำให้ท้ายที่สุดแล้วเกิดปัญหาสินค้าล้นสต๊อกจำเป็นต้องระบายสินค้าออกจากสต๊อกลดราคาสินค้าลงอย่างหนัก และได้รับผลกระทบทางลบด้านการเงิน
อย่างไรก็ดี การนำเข้าลดลงไม่ได้หมายความว่าบริษัทค้าปลีกสหรัฐฯจะลดจำนวนสินค้าในสต๊อกลงอย่างมาก เพราะบริษัทค้าปลีกเหล่านี้ยังคงแสวงหาอุปทานสินค้าจากภายในประเทศ และหลายบริษัทจะใช้วิธีสั่งซื้อสินค้าในลักษณะ just in time เพื่อลดภาระการเก็บสต๊อกสินค้าและปัญหาสินค้าล้นสต๊อก
ที่มา: Reuters: “Walmart and major retailers cut back on Christmas holiday imports. Here’s why”, by Richa Nadu, Aishwarya Venugopal และ Siddharth Cavale, November 11, 2024
ข้อมูลเพิ่มเติมและข้อคิดเห็นของ สคต. ลอสแอนเจลิส
ข้อมูลธนาคารกลางสหรัฐฯระบุว่า การใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคสหรัฐฯในช่วงเริ่มต้นของไตรมาสที่ 4 หรือเดือนตุลาคม 2567 แสดงการเติบโตเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการใช้จ่ายเพื่อสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น บริการด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภค การประกันภัย การขนส่ง และสันทนาการต่างๆเป็นต้น สถานการณ์เงินเฟ้อแม้ว่าจะกระเตื้องขึ้น แต่ราคาสินค้าและบริการยังคงอยู่ในระดับสูงและอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าระดับร้อยละ 2 ที่เป็นเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
กระแสข่าวที่ว่านาย Donald Trump วางแผนที่จะขึ้นพิกัดอัตราภาษีศุลกากรประเทศคู่ค้าทุกประเทศโดยจะออกคำสั่งผู้บริหาร (Executive Order) ขึ้นพิกัดอัตราภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจาก 3 ประเทศคู่ค้าสำคัญสูงสุดของสหรัฐฯคือเม็กซิโกแคนาดาและจีนทันทีในวันที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งคือวันที่ 20 มกราคม 2568 ได้สร้างความวิตกกังวลต่อภาคธุรกิจค้าปลีกและผู้บริโภคสหรัฐฯทั่วไปเป็นอย่างมากว่าจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจสูงขึ้นราคาสินค้าในตลาดพุ่งสูงอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอาจกลับมาสูงขึ้นอีกส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯและเศรษฐกิจของภาคธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไป
จากเงื่อนไขข้างต้นคาดการณ์ได้ว่าอาจทำให้สถานการณ์การค้าปลีกและการบริโภคสหรัฐฯในไตรมาสที่ 1 ของปี 2025 ต่ำกว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ธุรกิจค้าปลีกสหรัฐฯอาจจะควบคุมการนำเข้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคสหรัฐฯเพื่อซื้อหาสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ปัจจุบันหลายๆฝ่ายยังคงเฝ้าจับตามองว่านาย Donald Trump จะดำเนินนโยบายตามที่ได้ประกาศไว้จริงหรือไม่อย่างไรและเมื่อใดหรือเป็นเพียงแค่คำขู่และการหาเสียงไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไรผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจการผลิตและการส่งออกไปยังสหรัฐฯจำเป็นต้องเตรียมพร้อมที่จะตอบรับต่อสถานการณ์ในตลาดสหรัฐฯได้โดยทันทีหากนาย Donald Trump ขึ้นพิกัดอัตราภาษีศุลกากรจริง ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะนำไปสู่การแสวงหาอุปทานทางเลือกอื่นของภาคธุรกิจค้าปลีกสหรัฐฯ และ การลดการบริโภคของผู้บริโภคสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ธันวาคม 2567
หมายเหตุ: ข่าวข้างบนนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งที่จัดทำและนำเสนอข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณชนทั่วไป และบางส่วนเป็นความเห็นส่วนบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส นำมารวบรวมเผยแพร่เพื่อแก่ผู้สนใจ เนื่องจากเป็นข้อมูลและความเห็นจากบุคคลที่สาม การนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเฉพาะบุคคล สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส ไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้
อ่านข่าวฉบับเต็ม : Walmart และผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายรายลดนำเข้าสินค้าสำหรับเทศกาลคริสมาสปีนี้