จากการวิเคราะห์ตลาดที่นำเสนอในฟอรั่ม WORLDEF Dubai 2024 จัดโดย Dubai CommerCity เผยตลาด e-commerce ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นจาก 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2024 เป็น 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2029 ซึ่งแสดงถึงศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคนี้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจาก Dubai CommerCity เขตปลอดอากรที่จัดตั้งขึ้นเฉพาะสำหรับธุรกิจ e-commerce เพื่อสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ และการพัฒนาระบบโลจิสติกส์
ความได้เปรียบจากนโยบายสนับสนุน
รัฐบาลดูไบสร้าง Dubai CommerCity ซึ่งเป็นเขตสินค้า Free Zone แห่งเดียวในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเพื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ มีการอำนวยความสะดวกให้กับบริษัทที่จะเข้ามาใช้บริการตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้ผู้ประกอบการต่างชาติสามารถเข้ามาทำธุรกิจ e-commerce ในดูไบได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เขตปลอดอากรแห่งนี้จึงมีส่วนสนับสนุนของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ธุรกิจและผู้ค้าปลีก
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
ในขณะเดียวกัน Dnata Logistics (Dubai National Air Transport Association) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการขนส่งทางอากาศของรัฐดูไบ ดำเนินธุรกิจหลายด้าน เช่น การจัดการสนามบิน การบริการผู้โดยสาร และการให้บริการโลจิสติกส์ เพื่อให้การเดินทางของผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าทั่วโลกเป็นไปอย่างราบรื่น มีการดำเนินงานในหลายประเทศและเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการหลักในอุตสาหกรรมการบินระดับโลกขณะนี้ได้ขยายการก่อสร้างคลังสินค้าขนาด 57,000 ตร.ม. ในย่าน Dubai South ใกล้กับสนามบินนานาชาติใหม่ดูไบ (Al Maktoum International Airport) โดยลงทุนสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกมูลค่ากว่า 27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการสินค้า e-commerce และรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
E-Trader Licence
กระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจของดูไบ(Department of Economic Development DED ) อนุญาตให้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-trader licence) สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการ freelance โดยมีค่าธรรมเนียมเริ่มจาก 1,070 dirham (หรือประมาณ 290 เหรียญสหรัฐฯ) และจากข้อมูลของบริษัท Outzised แสดงจำนวนการจดทะเบียนการค้าของกลุ่ม freelance ในภูมิภาคนี้ระหว่างปี 2565-2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ142
โอกาสสำหรับสินค้าไทยในตลาด ยูเออี
การส่งเสริมช่องทางการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการไทยในการแข่งขันในตลาดระดับโลก กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายในการสร้างโอกาสและช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่องทางการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างมากทั่วโลก โดยที่ผ่านมากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้ดำเนินการเปิดร้าน TOPTHAI ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าไทยของกรมฯ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศแล้ว ผ่าน 9 แพลตฟอร์ม ใน 10 ประเทศ
สำหรับภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นตลาดที่สำคัญ โดยเฉพาะตลาดยูเออี ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าไทยจำหน่ายอยู่ทั้งในห้างสรรพสินค้าและเริ่มมีการขายในแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น DITP จับมือ Letstango.com แพลตฟอร์มชั้นนำอันดับต้นๆ ของยูเออีและภูมิภาคตะวันออกกลาง ผลักดันสินค้าไทยขยายไปตลาดตะวันออกกลาง ผ่านโครงการร้าน TOPTHAI บนแพลตฟอร์ม Letstango.com คาดว่าจะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายตลาดสินค้าและเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดศักยภาพอย่างยูเออี และตะวันออกกลางได้
ความเห็นของ สคต.ดูไบ
แนวโน้มการเติบโตของตลาด e-commerce ในยูเออี ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงตัวเลขที่น่าประทับใจ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของประเทศในฐานะผู้นำด้านการพาณิชย์ดิจิทัลระดับโลก ปัจจัยเหล่านี้สร้างโอกาสสำคัญให้กับกลุ่มธุรกิจหลากหลายประเภท ได้แก่:
1) เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของยูเออี เช่น Dubai CommerCity และ e-trader licence เพื่อเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและการสนับสนุนอย่างครอบคลุม
2) ผู้ค้าปลีกที่มองหาโอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่สามารถใช้ยูเออี เป็นฐานในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา เนื่องจากระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อระดับโลก
3) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น คลังสินค้าอัจฉริยะ การจัดส่งสินค้า และการชำระเงินออนไลน์ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในยูเออีส่งผลให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและโลจิสติกส์
ด้วยการเติบโตที่แข็งแกร่งของตลาด e-commerce การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และการส่งเสริมความร่วมมือระดับนานาชาติ ยูเออีกำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของการพาณิชย์ดิจิทัลในระดับโลก ธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ตลาดนี้ควรพิจารณาใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้และวางแผนกลยุทธ์ให้เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการในอนาคตอย่างยั่งยืน
อ่านข่าวฉบับเต็ม : ตลาด E-commerce ของ UAE คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2029