“พาณิชย์-DITP”ชี้เป้าส่งออกสินค้ายั่งยืนปกป้องสิ่งแวดล้อมขายตลาดเนเธอร์แลนด์
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยผู้บริโภคในเนเธอร์แลนด์ ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และการปกป้องสิ่งแวดล้อมเข้มข้นขึ้น แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย ศึกษาแนวโน้ม และนำมาใช้ในการวางแผนการผลิตและการส่งออกสินค้าไปขาย
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวชนรรค์ดา สรภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ถึงเทรนด์ความยั่งยืนในตลาดเนเธอร์แลนด์ ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน ทั้งการใช้ชีวิต การใช้รถ ที่อยู่อาศัย การจัดการขยะ การใช้พลังงานหมุนเวียน เศรษฐกิจหมุนเวียน และโอกาสในการขยายตลาดส่งออกของไทย
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลประกอบว่า เนเธอร์แลนด์ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการพัฒนาและแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน โดยมุ่งมั่นและแน่วแน่ต่อความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แทรกซึมอยู่ใน
ทุกแง่ทุกมุมของชีวิตประจำวัน ทั้งการคมนาคมขนส่ง ที่อยู่อาศัย และแสงสว่าง เป็นต้น ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของเนเธอร์แลนด์ ก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากด้วยการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า ที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
ทั้งนี้ การใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลมีมาตรการจูงใจและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
การอุดหนุนทางการเงิน การเพิ่มสถานีชาร์จ และยังมีการใช้จักรยานไฟฟ้ามากขึ้น จนกลายเป็นประเทศที่ใช้จักรยานมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
สำหรับที่อยู่อาศัย มีการนำแนวคิดเรื่องความยั่งยืนมาปรับใช้ ให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน
การก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการลงทุนใช้แผงโซลาร์เซลล์ ฉนวนประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม ที่มีระบบอัตโนมัติควบคุมการทำงานด้านต่าง ๆ ของบ้าน เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ระบบทำความร้อน และระบบรักษาความปลอดภัย
ส่วนระบบไฟส่องสว่างประหยัดพลังงาน พบว่า เนเธอร์แลนด์มีความก้าวหน้าอย่างมากในเรื่องระบบไฟส่องสว่างประหยัดพลังงาน ซึ่งรวมถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นในการใช้ไฟประดับตกแต่งประเภทไฟสาย ไฟกระพริบ
หรือไฟหิ่งห้อยมากขึ้นทั้งในบ้าน สวน และสถานที่สาธารณะ ไม่เพียงเพราะความสวยงามเท่านั้น แต่รวมถึงคุณสมบัติที่ประหยัดพลังงานอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการลดขยะและการรีไซเคิล ส่งเสริมโครงการปลอดพลาสติก เช่น การคืนขวดน้ำพลาสติกที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ฝาขวดพลาสติกบนขวดน้ำหรือเครื่องดื่มที่มีความจุไม่เกิน 3 ลิตร ต้องติดอยู่กับขวดหลังจากเปิดใช้งาน และมีการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน อาทิ โครงการพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียน อาทิ โครงการรีไซเคิล การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ และโครงการเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน โดยรัฐบาลพร้อมร่วมมือกับภาคธุรกิจในการขับเคลื่อน
“ผู้บริโภคชาวเนเธอร์แลนด์มีความตระหนักและใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นอันดับต้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกพาหนะสำหรับการเดินทาง ที่อยู่อาศัย หรือการเลือกซื้อสินค้าในห้างร้านหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ตาม ชาวเนเธอร์แลนด์มักมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มรักษ์โลกรักษ์สิ่งแวดล้อม ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการเจาะหรือขยายตลาดมายังเนเธอร์แลนด์ควรต้องศึกษาเทรนด์และแนวโน้มของตลาด รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อสามารถสร้างนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนในอนาคต เพื่อที่จะสามารถตอบสนองต่อแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์เองหรือแม้แต่บรรจุภัณฑ์ก็มีสำคัญเช่นกัน วัสดุที่ใช้จะต้องไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบกับสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่มีความยั่งยืน เช่น ไม้ไผ่ เส้นใยธรรมชาติ และวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เป็นต้น รวมถึงการออกแบบที่คำนึงถึงวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ตั้งแต่การผลิตจนถึงการกำจัด เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของสินค้าไทยและโอกาสในการเข้าถึงตลาดเนเธอร์แลนด์มากขึ้น”นายภูสิตกล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169
****************************************
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
… กันยายน 2567
อ่านข่าวฉบับเต็ม : “พาณิชย์-DITP”ชี้เป้าส่งออกสินค้ายั่งยืนปกป้องสิ่งแวดล้อมขายตลาดเนเธอร์แลนด์