หน้าแรกTrade insightธุรกิจ Wellness > จับตาตลาดน้ำมันหอมระเหยในจีน กับความต้องการและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

จับตาตลาดน้ำมันหอมระเหยในจีน กับความต้องการและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการมุ่งเน้นที่การดูแลสุขภาพส่วนบุคคลและสุขภาพจิตมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยคลายความเครียด เพิ่มความผ่อนคลาย และเพิ่มการประสิทธิภาพการนอนหลับ มีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ข้อมูลจาก iiMedia Research ระบุว่า ในปี 2566 ขนาดตลาดของอุตสาหกรรมเครื่องหอมและน้ำหอมในจีนมีมูลค่า 43,900 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ผ่านมา 2.6% และคาดว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดจะทะลุ 50,000 ล้านหยวน

 

การเติบโตของตลาดน้ำมันหอมระเหย เป็นที่จับตามองของผู้ประกอบการไทยในการเข้ามาขยายตลาดในประเทศจีน เนื่องจากมองเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดดังกล่าว THANN แบรนด์เครื่องหอมสัญชาติไทยที่เติบโตและขยายสาขาแรกเข้ามาในประเทศจีนเมื่อปี 2555 และอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงหลายห้างหรูและสนามบินในหลายมณฑลของประเทศจีน เช่น ปักกิ่ง ฉงชิ่ง เซี่ยงไฮ้ ไห่หนาน เจียงซู อู๋ซี รวมถึงห้างหรูอย่าง MixC ในมณฑลฝูเจี้ยน เมืองเซี่ยเหมินและนครฝูโจว อีกทั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา แบรนด์ HARNN เองก็เตรียมบุกเข้าขยายตลาดในประเทศจีน โดยเน้นผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิว หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดออนไลน์ในจีนบน TMall Global ไปเมื่อปี 2563 การเข้ามาขยายตลาดของผู้ประกอบการไทย แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของตลาดน้ำมันหอมระเหยในประเทศจีน ที่จะยังมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : THANN

 

 

แนวโน้มในการพัฒนาของตลาดน้ำมันหอมระเหยในจีน

1. ขนาดของตลาดขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ด้วยการเพิ่มขึ้นของความตระหนักด้านสุขภาพและการดูแลตัวเองของผู้บริโภค ความต้องการผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและออร์แกนิคจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขนาดของตลาดน้ำมันหอมระเหยคาดว่าจะขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและมูลค่าของสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น จะผลักดันการการเติบโตของตลาดนี้ในระดับกลางถึงสูง

 

2. ความหลากหลายและความของผลิตภัณฑ์
ในอนาคตผลิตภัณฑ์ของน้ำมันหอมระเหยจะพัฒนาไปในทิศทางที่มีคุณสมบัติ และใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ เช่น ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติการบำรุงผิว รักษาโรค และดูแลสุขภาพ หรือจำนวนผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยที่เจาะจงกลุ่มคนหรือความต้องการเฉพาะจะเพิ่มขึ้น เช่น น้ำมันหอมระเหยสำหรับทารก หรือน้ำมันหอมระเหยสำหรับนักกีฬาที่ใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย

 

3. การสร้างแบรนด์และการกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐาน
การสร้างแบรนด์จะกลายเป็นแนวโน้มสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรม ผู้บริโภคจะมีแนวโน้มเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือ เมื่อมาตลาดเติบโตและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น อุตสาหกรรมจะมีการกำกับดูแลที่เป็นมาตรฐานมากขึ้น มาตรฐานของรัฐและอุตสาหกรรมอาจจะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

 

4. การพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและช่องทางค้าปลีกใหม่
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการขายน้ำมันหอมระเหย โดยผ่านการถ่ายทอดสดขายสินค้า การค้าผ่านโซเชียลมีเดีย และการค้ารูปแบบใหม่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จะขยายขอบเขตการตลาดให้กว้างขึ้น เพื่อยกระดับประสบการณ์และความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค

 

 

ทิศทางการตลาดของน้ำมันหอมระเหยในจีน

    • ขนาดของตลาดน้ำมันหอมระเหยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
    • สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ
    • การสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
    • สร้างพื้นที่ในอีคอมเมิร์ซและช่องทางการค้าในรูปแบบต่างๆ

 

  • ขนาดของตลาดน้ำมันหอมระเหยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากเทรนด์รักสุขภาพที่ต้องมาคู่กับการรักสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคชาวจีนใส่ใจมากยิ่งขึ้น ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย และผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่างน้ำมันหอมระเหย ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่หญิงสาวชาวจีนเป็นอย่างมาก โดยผู้บริโภค 54% ส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับความสามารถในการให้ความชุ่มชื้นของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยมากที่สุด

ที่มา https://www.huaon.com

 

  • สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ

ผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบันมีแนวโน้มบริโภคสินค้าที่มีแบรนด์เป็นเอกลักษณ์ เห็นผ่านตาบ่อยครั้ง เป็นที่น่าจดจำ และมีความน่าไว้วางใจ มากกว่าจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไม่มีแบรนด์ ที่ราคาถูก โดยมีความกังวลว่าจะมีสารอันตรายประกอบอยู่โดยไม่รู้ตัว สังเกตได้จากผู้บริโภคชาวจีนมักนิยมซื้อสินค้าแบรนด์ต่างประเทศ เช่น L’occitane, The body shop, Innisfree เนื่องจากแบรนด์เหล่านี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์คุณภาพสูงและเชื่อถือได้ อีกทั้งยังสะท้อนรสนิยมที่ดีของผู้ใช้งานอีกด้วย และยังพบว่าจากแพลตฟอร์มแชร์รีวิวอย่าง Little Red Book (小红书) ผลิตภัณฑ์จำพวกเครื่องหอม หรือผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยจากแบรนด์ในประเทศไทย เช่น THANN, PANPURI, HARNN, KARMAKAMET ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก รวมถึงมีการบอกต่อถึงสรรพคุณของน้ำมันหอมระเหยในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และสถานที่ตั้งของหน้าร้านออฟไลน์ในประเทศไทย ให้ผู้บริโภคชาวจีนท่านอื่นสามารถตามไปซื้อกันได้

ที่มา www.xiaohongshu.com/

 

  • สร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการสกัดพืชหอม หรือที่เรียกกันว่า Aromatherapy สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้มีทิศทางว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างดี ข้อมูลจาก iiMedia Research แสดงให้เห็นว่าในสัดส่วนตลาดเครื่องหอมนั้น ผู้บริโภคชาวจีนซื้อน้ำมันหอมระเหยในสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดถึง 57.4% และอีกเหตุผลหนึ่ง เนื่องจากการพัฒนาระดับชีวิต และการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางในประเทศจีน แสดงให้เห็นว่าผู้คนมีรายได้ และมีกำลังจับจ่ายใช้สอยสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็นิยมหันมาซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น คาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีการใช้งานน้ำมันหอมระเหยอย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ การเกษตร ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและทารก และการแพทย์

 

  • สร้างพื้นที่ในอีคอมเมิร์ซและช่องทางการค้าในรูปแบบต่างๆ

ข้อมูลจาก iiMedia Research แสดงให้เห็นว่า ในปี 2567 ผู้บริโภคชาวจีนเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องหอมได้จาก แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ 43.0% แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น 38.0% แพลตฟอร์มแชร์รีวิว 36.3% หน้าร้านออฟไลน์ 35.7% โดยที่หน้าร้านออฟไลน์หรือป๊อปอัพสโตร์ถือเป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับช่องทางออฟไลน์อื่นๆ และในอนาคตมีแนวโน้มว่าช่องทางสำหรับผู้บริโภคในการรับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องหอมจะมีความหลากหลายมากขึ้น

ที่มา iiMedia Research

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Douyin (TikTokเวอร์ชันจีน) และ Little Red Book (小红书) เป็นช่องทางที่ทรงประสิทธิภาพในการกระจายชื่อเสียงของสินค้าออกไปสู่ผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากผู้ใช้งานแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นกลุ่มสังคมของผู้ที่ชื่นชอบการแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้งานผลิตภัณฑ์ต่างๆ และมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเข้าถึงกลุ่มประชากรอายุน้อยที่สนใจดูแลสุขภาพและการดูแลตัวเองมากขึ้น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนอย่าง JD, Taobao, TMall ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ผู้ซื้อจะสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ได้รับจะเป็นของแท้และมีคุณภาพ

ขณะเดียวกันการสร้างหน้าร้านออฟไลน์ หรือป็อปอัพสโตร์ ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์จริง โดยการเข้ามาทดลองใช้งานในรูปแบบสปา ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือการเข้ามาเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเอง ก็ยังเป็นหนึ่งในวิธีการดึงดูดลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ได้มากขึ้น

 

 

ความเห็นสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน : น้ำมันหอมระเหยที่ได้มาจากการสกัดพืชหอมธรรมชาติ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบัน ที่มองหาตัวเลือกในการผ่อนคลายในรูปแบบการใช้กลิ่นบาบัด อีกทั้งผู้บริโภคชาวจีนยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์มีเอกลักษณ์ชัดเจน คุณภาพสูง และมีมาตรฐาน การให้ความใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคชาวจีนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจกับกระแสโลกที่มุ่งให้ความสาคัญต่อความยั่งยืนของธรรมชาติ การทำความเข้าใจถึงแนวโน้มเหล่านี้ และปรับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ประกอบการจะต้องตีโจทย์เพื่อที่จะสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศจีน

 

https://www.huaon.com/channel/trend/996682 .html

https://thestandard.co/tanachira-group-chinese -market-entry/

https://ecommercechinaagency. com

https://www.sohu.com/a/793329921_120113054

https://mp.weixin.qq.com/s/_y9idl7ROIDtenvFUUP_aA

เรียบเรียงโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
16 สิงหาคม 2567

อ่านข่าวฉบับเต็ม : จับตาตลาดน้ำมันหอมระเหยในจีน กับความต้องการและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Login