หน้าแรกTrade insightเครื่องดื่ม > การบริโภคในประเทศยังคงน่าห่วง เพราะไม่ขยายตัวขึ้น

การบริโภคในประเทศยังคงน่าห่วง เพราะไม่ขยายตัวขึ้น

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การวัดค่าดัชนีบรรยากาศความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่จัดทำโดยสมาคมผู้ค้าปลีกชาวเยอรมัน (HDE – Handelsverband Deutschland) หรือ HDE-บารอมิเตอร์เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวเท่านั้น คือ ขยายตัวขึ้น 5 ครั้งติดต่อกัน แต่ตอนนี้ดัชนี HDE-บารอมิเตอร์ได้เริ่มกลับมาเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง ในเดือนกรกฎาคม 2024 โดยค่าดัชนีฯ ส่งสัญญาณลดลงมาอยู่ที่ 97.76 จุด หรือเป็นการปรับตัวลงของค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ เป็นครั้งแรกในปี 2024 HDE-บารอมิเตอร์ถูกคำนวณทุกเดือน โดยสถาบันวิจัย HDE และอิงจากการสำรวจตัวผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 1,600 ครัวเรือน โดยค่าดัชนี HDE-บารอมิเตอร์เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ความคาดหวังในการขยายตัวทางเศรษฐกิจส่วนบุคคล และรายได้ส่วนบุคคลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และแนวโน้มในการบริโภคก็ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าด้วย

 

แนวโน้มการออมของประชาชนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยยังมีการออมในระดับที่สูงมาก จากข้อมูลอย่างเป็นทางการจากภาครัฐ ในไตรมาสแรกของปีนี้ ตัวเลขอัตราการออมอยู่ที่ 14.9% ซึ่งสูงกว่าอัตราการออม 13.4% ของปีที่ผ่านมา โดยช่วงเวลาก่อนเกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 อัตราการออมเฉลี่ยอยู่ที่ 10% โดยประมาณเท่านั้น ในเวลาเดียวกัน อัตราการออมที่สูงนี้ยังหมายความว่า สัดส่วนรายได้ที่จำนวนมากไม่ถูกนำไปบริโภคในระยะสั้น หมายความว่า เมื่อผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความพึงพอใจของภาคการค้าปลีก ดัชนีการประเมินค่าความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจระดับผู้บริหาร (Geschäftsklimaindex) โดยสถาบันเพื่อการวิจัยทางเศรษฐกิจมหาวิทยาลัยมิวนิค (Ifo – Institut für Wirtschaftsforschung an der Universität München) ส่วนธุรกิจค้าปลีก ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ดัชนีฯ ลดลงเป็น -19.5 จุด หลังจากที่อยู่ที่ -13.3 จุด ในเดือนก่อนหน้า ผู้ค้าปลีกประเมินสถานการณ์ทางธุรกิจในปัจจุบันแย่ลง และค่าประเมินสถานการณ์ทางธุรกิจในอนาคตในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าก็แย่ลงอย่างหนักเช่นกัน

 

กระทรวงเศรษฐกิจฯ ออกมายอมรับในรายงานประจำเดือนว่า ความหวังที่เศรษฐกิจจะขยายตัวขึ้นนั้น ยังคงต้องรอต่อไปอีกสักระยะ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจนาย Robert Habeck ให้เหตุผลว่า หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตัวชี้วัดแรกของไตรมาสที่สองก็เริ่มแสดงตัวให้เห็นว่า “ตัวชี้วัดต่างๆ ในปัจจุบันยังคงมีความไม่สอดคล้องกันอยู่เป็นจำนวนมาก” นอกจากนี้พวกเขากล่าวเสริมว่า “การที่ตัวชี้วัดในช่วงต้นปีปรับปรุงที่ดีขึ้น และกรอบการประกอบธุรกิจทั่วไปที่ดีขึ้นนั้น ค่อย ๆ สะท้อนให้เห็นบนข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม” โดย Bloomberg ได้สอบถามนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมาก พวกเขาคาดการณ์ว่า ในไตรมาสที่สอง เศรษฐกิจของเยอรมนีน่าจะขยายตัวขึ้นเพียง 0.1% เท่านั้น นอกจากนี้รายงานล่าสุดเกี่ยวกับการประกาศล้มละลายระลอกใหม่ของบริษัทเยอรมันจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความกังวลในหมู่พนักงานส่วนใหญ่ หน่วยงานสินเชื่อ Creditreform (Credit Bureau) ระบุว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2024 มีการแจ้งล้มละลายถึง 11,000 ราย ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเกือบ 30% นาย Patrik-Ludwig Hantzsch หัวหน้ากลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ และโฆษกของ Creditreform ออกมาเตือนว่า “การล้มละลายในเยอรมนีมีระดับสูงสุดในรอบเกือบสิบปี” บริษัทต่าง ๆ กำลังต่อสู้กับ (1) ผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจถดถอย (2) วิกฤตการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และ (3) ปัญหาขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในปีนี้ โดยเขาเน้นย้ำว่า “ในปัจจุบันเสถียรภาพของบริษัทเยอรมันมีความสั่นคลอนสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมามาก” ความซบเซาทางเศรษฐกิจโดยรวมที่กินเวลานานกว่าสี่ปีก็ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานมากขึ้นเช่นกัน นาง Andrea Nahles ซึ่งเป็น CEO ของสำนักงานจัดหางานของรัฐบาลกลางเยอรมนี (BA – Bundesagentur für Arbeit) กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า “ในเดือนมิถุนายนหลังจากหักค่าว่าแปรปรวนตามฤดูกาลแล้ว ความอ่อนแอของตลาดแรงงานยังคงดำเนินต่อไป อัตราการว่างงาน และการทำงานต่ำระดับ (Underemployment) ยังเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บริษัทต่าง ๆ ยังคงลังเลที่จะจ้างงานพนักงานใหม่” นาง Nahles อธิบายถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า การว่างงานหักค่าว่าแปรปรวนตามฤดูกาลเมื่อเทียบกับเดือนก่อนเพิ่มขึ้น 19,000 ราย หรือเพิ่มขึ้นเป็น 2.781 ล้านคน โดยเมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดในฤดูใบไม้ผลิปี 2019 หลังจากหักค่าว่าแปรปรวนตามฤดูกาลแล้วปัจจุบันมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นถึง 550,000 คนโดยประมาณ ในเวลาเดียวกันจำนวนตำแหน่งงานที่ว่างอยู่ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในเดือนมิถุนายนมีการแจ้งกับ BA ว่า มีความประสงค์ที่จะจ้างงานถึง 701,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว 69,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา (Economic stagnation) ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีความกังวลก็ดูเหมือนจะลดลง

 

จาก Handelsblatt 22 กรกฎาคม 2567

อ่านข่าวฉบับเต็ม : การบริโภคในประเทศยังคงน่าห่วง เพราะไม่ขยายตัวขึ้น

Login