หน้าแรกTrade insightอุตสาหกรรมอื่นๆ > ผู้ครองตลาดค้าปลีกสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับในสหรัฐฯ

ผู้ครองตลาดค้าปลีกสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับในสหรัฐฯ

เนื้อหาสาระข่าว: สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Retail Federation: NRF) ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับ 100 ห้างค้าปลีก (Retailer) ตามปริมาณยอดขายในสหรัฐฯในปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการจัดอันดับในภาพรวม พบว่า 5 อันดับห้างค้าปลีกแรก ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในสหรัฐฯอย่าง Walmart ได้ครองอันดับที่หนึ่งต่อเนื่องจากปีก่อนหน้าด้วยยอดขายกว่า 6.35 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามด้วยอันดับที่สองอย่าง Amazon ซึ่งมียอดขายกว่า 3.59 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ห้างค้าส่งอย่าง Costco อยู่ในอันดับที่สามซึ่งมียอดขายกว่า 2.34 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ห้าง Home Depot ห้างสรรพสินค้าสินค้าเฉพาะทางอุปกรณ์การช่างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ซึ่งมียอดขายกว่า 1.50 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และห้าง Kroger ซึ่งมียอดขายกว่า 1.49 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามในบทความข่าวประจำสัปดาห์นี้ จะพามาเจาะลึกเฉพาะห้างค้าปลีกกลุ่มสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับรายใหญ่ที่น่าสนใจจากการจัดอันดับข้างต้น ซึ่งมียอดขายรวมกันอยู่ในร้อยละ 10 ของกลุ่มสินค้าเดียวกันทั้งหมด

ตารางแสดงข้อมูล 10 อันดับบริษัทค้าปลีกที่มียอดขายสูงสุดในปี 2023 (เฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ)

เมื่อพิจารณาข้อมูลจากการจัดอันดับในตารางจะพบว่าบริษัท TJX Companies ซึ่งมีห้างค้าปลีกชื่อดังอาทิ TJ Max และ Marshall เป็นต้น ถือเป็นอันดับที่หนึ่งของบริษัทค้าปลีกในกลุ่มสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ (อันดับที่ 15 ของบริษัทค้าปลีกทั้งหมด) ซึ่งมีข้อสังเกตที่น่าสนใจอยู่ที่อัตราการเติบโตของยอดขายของบริษัทดังกล่าวที่ก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องในช่วงปีก่อนหน้า โดยในปี 2023 มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณร้อยละ 3.6 ในปี 2022 ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งยอดดังกล่าวเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 51 ในปี 2021 จากการที่ห้างค้าปลีกในเครือ TJ Companies ซึ่งมีจุดเด่นในการขายสินค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป (Discounted) ซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงวิกฤติโรคระบาดโควิด-19เป็นต้นมา ทั้งนี้ สำหรับปีนี้ได้มีการคาดการณ์ยอดขายของบริษัทนี้จะมีมอัตราเติบโตอยู่ที่ประมาณร้อยละ 6 ซึ่งอัตราดังกล่าวถือว่าใกล้เคียงกันกับห้างค้าปลีกอื่น ๆ ที่มีลักษณะและจุดเด่นใกล้เคียงกัน ได้แก่ บริษัท Ross Stores ซึ่งมีร้านค้าปลีกกลุ่มสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับราคาส่วนลดอย่าง Ross for Dress และบริษัท Burlington ซึ่งมีร้านค้า Burlington อยู่ทั่วประเทศเช่นกัน

อีกหนึ่งบริษัทที่น่าสนใจคือบริษัท Signet Jewelers ซึ่งจากการจัดอันดับในครั้งนี้ ได้ถูกขยับอันดับลงไปอยู่ที่อันดับที่ 67 ของบริษัทค้าปลีกทั้งหมด จากที่ปีก่อนหน้าอยู่ที่อันดับที่ 56 ซึ่งเป็นผลมาจากการควบรวมกิจการบริษัท Blue Nile และ Diamond Direct ซึ่งในกรณีการปรับตัวลงของยอดขายครั้งนี้คุณ David Marcotte รองประธานอาวุโสฝ่ายค้าปลีกต่างประเทศและเทคโนโลยีของบริษัทได้แสดงความคิดเห็นซึ่งสื่อให้เห็นว่าจากสภาวะทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมการค้าปลีกในสหรัฐฯประสบกับสภาวะเงินเฟ้อพอสมควร ทำให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคค่อนข้างจะรัดกุมมากขึ้น กลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไปที่ประสบสถานการณ์ขายที่ยากอยู่แล้วนั้น ทำให้แทบไม่ต้องพูดถึงกลุ่มสินค้าเครื่องประดับที่จะขายยากขนาดไหน อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบประการหนึ่งของธุรกิจสินค้าเครื่องแต่งกายและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องประดับ คือประสบปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) น้อยกว่าธุรกิจสินค้าอื่น ๆ โดยเปรียบเทียบ ทำให้ในภาพรวมคุณ David เชื่อว่าสถานการณ์ในธุรกิจนี้กำลังเซ็ตตัว

บทวิเคราะห์และข้อเสนอแนะ: ข้อมูลจากการจัดอันดับในข้างต้นถือว่ามีประโยชน์ในการวางแผน สำหรับผู้ประกอบการและผู้ส่งออกสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับจากประเทศไทย ที่จะทำให้สามารถเข้าใจภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มสินค้าดังกล่าวได้มากขึ้น สามารถกะเกณฑ์ได้ว่าบริษัทค้าปลีกใดเป็นผู้ครองตลาด  ไม่ว่าจะด้วยยอดขาย หรือด้วยปริมาณ/จำนวนร้านค้าปลีกในเครือที่กระจายตัวอยู่ทั่วสหรัฐฯ ทั้งยังสามารถช่วยในการทำความเข้าใจจุดเด่นของร้านค้าปลีกแต่ละบริษัทอีกด้วย กล่าวคือ ในตลาดสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับของสหรัฐฯนั้น นอกเหนือจากร้านค้าปลีกประเภท Official Store ของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังแล้วนั้น อีกหนึ่งตลาดร้านค้าปลีกที่ได้รับความนิยมสูงมากไม่แพ้กันก็คือกลุ่มร้านค้าปลีกสินค้าราคาพิเศษ อาทิ Ross for Dress, Burlington, Marshall เป็นต้น โดยมีลักษณะคล้ายกับร้านค้าปลีกที่เรียกกันว่า Outlet ซึ่งจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับที่มียี่ห้อ สินค้ามือหนึ่งในราคาที่ถูกกว่า Official Store และที่มีกลุ่มฐานลูกค้าบุคคลผู้มีรายได้ปานกลางซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ข้อมูลส่วนนี้อาจมีประโยชน์ในการกำหนดยุทธศาสตร์ในการส่งออกสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

*********************************************************
ที่มา: National Retail Federation
เรื่อง: “A look at the apparel and jewelry power players on the NRF’s 2024 Top 100 Retailers List

โดย: Sandy Smith
สคต. ไมอามี /วันที่ 18 กรกฎาคม 2567

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ผู้ครองตลาดค้าปลีกสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับในสหรัฐฯ

Login