หน้าแรกTrade insightถั่วเหลือง >  เทรนด์ผลิตภัณฑ์กาแฟในสหรัฐอเมริกา

 เทรนด์ผลิตภัณฑ์กาแฟในสหรัฐอเมริกา

เทรนด์ผลิตภัณฑ์กาแฟในสหรัฐอเมริกา

ข้อมูลการวิจัยตลาดของ Mordor intelligence คาดการณ์ว่าขนาดของตลาดกาแฟในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 28,060 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 33,640 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2572 โดยในช่วงระหว่างปี 2567-2572 อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีคาดว่าจะอยู่ที่ 3.69%

ภาพรวมอุตสาหกรรมกาแฟของสหรัฐอเมริกา

ตลาดกาแฟในสหรัฐฯ มีการแข่งขันเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างสูง เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายเล็กใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก โดยบริษัทรายใหญ่มักนิยมเข้าควบรวมกิจการและร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีกว่าคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภค ทั้งนี้ eattlecoffeegear.com สื่อออนไลน์ได้ระบุแนวโน้มความนิยมการดื่มกาแฟในสหรัฐอเมริกาไว้ 5 เทรนด์ดังนี้

 

 

1.นวัตกรรมกาแฟสกัดเย็น

ปัจจุบันกาแฟสกัดเย็นกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ว่ากาแฟสกัดเย็นจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของชาวอเมริกัน แต่ในอดีตนวัตกรรมเครื่องดื่มสกัดเย็นจะพบเห็นได้เพียงตามร้านอาหารหรือคาเฟ่เท่านั้น แต่ในปัจจุบันพบว่าตามครัวเรือนของชาวอเมริกันมีความต้องการเครื่องทำกาแฟไนโตรโคลบรูว์หรือเครื่องทำกาแฟสกัดเย็นที่นำไปอัดผสานกับไนโตรเจนไว้ในบ้านมากขึ้น เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นฟองละเอียด คล้ายกับฟองเบียร์สด จึงทำให้ดูแตกต่างจากเครื่องดื่มกาแฟทั่วไป ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเทรนด์การบริโภคเครื่องดื่มสกัดเย็นจะเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันคาดหวังที่จะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ และตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

เครื่องทำกาแฟไนโตรโคลบรูว์

  1. สุนทรีย์ภาพในการนั่งดื่มกาแฟ

ผู้รักการดื่มกาแฟส่วนใหญ่  ชื่นชอบการนั่งดื่มกาแฟตามคาเฟ่และร้านกาแฟต่างๆ ซึ่งนอกจากจะชื่นชอบกลิ่นหอมๆ ของกาแฟแล้ว ยังชื่นชอบบรรยากาศที่ดี ความสุนทรีย์จากการนั่งดื่มกาแฟภายในร้าน มุมอ่านหนังสือ หรือมุมนั่งทำงาน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเอง และนับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ชาวอเมริกันมักจะหาโอกาสทำในวันหยุด นั้นหมายความว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเหล่านี้ กำลังสร้างความท้าทายให้กับร้านกาแฟและคาเฟ่ ที่ต้องอัปเกรดคุณภาพของร้าน ตกแต่งสถานที่ตามเทรนด์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้สามารถดึงดูดให้ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการอีกครั้ง

3.ค็อกเทลกาแฟ

ปัจจุบัน “ค็อกเทลกาแฟ” ถูกนำไปต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าของกาแฟ โดยค็อกเทลกาแฟนั้น ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2566 ที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าเทรนด์การบริโภคเครื่องดื่มชนิดนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2567

การดื่มกาแฟเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวอเมริกัน และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อชาวอเมริกันเริ่มมีครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซและเครื่องทำน้ำดื่มเย็นในบ้านมากขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสในการทดลองวิธีการชงเครื่องดื่มด้วยตนเองที่บ้าน และสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มสูตรเครื่องดื่มที่ชื่นชอบได้มากขึ้น โดยผู้บริโภคที่ชื่นชอบค็อกเทลต่างมองหาสูตรการชงกาแฟผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ การชงเอสเปรสโซมาร์ตินี่ ผ่านการใช้เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ ซึ่งกำลังกลายเป็นค็อกเทลสุดฮิตอีกหนี่งตัวในสหรัฐฯ ที่สายกาแฟต้องห้ามพลาด

ค็อกเทลกาแฟ

  1. กาแฟรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ จากต้นกำเนิดที่แตกต่าง

อุตสาหกรรมและโลกของกาแฟได้ขยายตัวอย่างมากในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา กล่าวคือ เมื่อย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผู้บริโภคอาจคาดเดาต้นกำเนิดของกาแฟทั้งหมดที่พบเห็นภายในร้านกาแฟได้ แต่ในปัจจุบัน กรรมวิธีการปลูกและผลิตกาแฟได้พัฒนาไปมาก จากแรงขับเคลื่อนหลายปัจจัย ส่งผลให้ผู้บริโภคคาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดื่มกาแฟที่หลากหลายชนิด หลากหลายรสชาติและโดยเฉพาะจากแหล่งกำเนิดใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคไม่เคยลิ้มลองมาก่อน

5.กาแฟที่ผสมนมพืช

เทรนด์ที่กำลังมาแรงมากในปัจจุบันที่ชาวอเมริกันนิยม และมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมกาแฟ คือ การนำนมจากพืชมาใช้เป็นส่วนผสมในกาแฟ ในอดีตผลิตภัณฑ์นมจากพืช อย่างนมข้าวโอ๊ต นมอัลมอนด์ และนมถั่วเหลืองนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่หายากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน และแต่ก่อนนมจากพืชถูกมองว่านำมาผสมกาแฟสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการดื่มลาเต้หรือคาปูชิโน่แต่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงนมวัวหรือแพ้นมวัว แต่ในปัจจุบัน นักดื่มกาแฟจำนวนมากหันมาชื่นชอบรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของนมข้าวโอ๊ต นมอัลมอนด์ และนมถั่วเหลือง โดยนำมาผสมกาแฟแทนการใช้นมวัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงเห็นได้ว่าตามร้านคาเฟ่ต่างๆ มักจะมีเมนูเครื่องดื่มจากบาริสต้า ที่มีตัวเลือกของนมจากพืชให้กับผู้บริโภคมากขึ้น

ความคิดเห็นของสคต. นิวยอร์ก

ในปัจจุบัน ชาวอเมริกันมีสัดส่วนการดื่มกาแฟที่บ้านมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ทำงานที่บ้านเพิ่มมากขึ้น แต่ถึงอย่างไร หลังสถานการณ์โควิดพบว่าการนั่งดื่มกาแฟที่ร้านก็ยังเป็นที่นิยม เพราะไม่ใช่เป็นเพียงดื่มกาแฟอย่างเดียว แต่ร้านกาแฟสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกันที่ชื่นชอบกาแฟนั้น เปรียบเสมือนทั้งสถานที่ทำงาน ที่พบปะผู้คนและพักผ่อนในเวลาเดียวกัน ดังนั้น นอกจากรสชาติกาแฟ เมนูที่หลากหลายแล้ว การตกแต่งภายในร้านที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงบรรยากาศภายในร้านยังเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์กาแฟให้ได้มากขึ้น

 

อ่านข่าวฉบับเต็ม :  เทรนด์ผลิตภัณฑ์กาแฟในสหรัฐอเมริกา

Login