หน้าแรก › เวียดนาม ญี่ปุ่น ร่วมมือกันเพื่อการเติบโตสีเขียว

เวียดนาม ญี่ปุ่น ร่วมมือกันเพื่อการเติบโตสีเขียว

หน่วยงานและผู้ประกอบการญี่ปุน Vietnam News หนังสือพิมพ์ภายใต้สำนักข่าวเวียดนาม และกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท (Ministry of Agriculture and Rural Development: MARD) ร่วมกันจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “ความร่วมมือเวียดนาม-ญี่ปุ่นมุ่งสู่การเติบโตสีเขียว” ในกรุงฮานอย เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

การสัมมนาครั้งนี้ประกอบด้วยคณะผู้แทนจากกระทรวงและภาคส่วนต่างๆ ของเวียดนาม เช่น กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (Ministry of Planning and Investment: MPI) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (Ministry of Industry and Trade: MoIT) ผู้แทนจากสถานทูตเวียดนามในญี่ปุ่น สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) องค์การการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organisation: JETRO) ผู้นำจากหลายจังหวัดและเมืองต่างๆ ในเวียดนาม พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญและธุรกิจจากทั้ง 2 ประเทศซึ่งเป็นโอกาสสำหรับผู้เข้าร่วมในการแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการเติบโตสีเขียว โอกาส และความท้าทายในการบรรลุ ยุทธศาสตร์ การเติบโตสีเขียวของเวียดนามในช่วงปี 2564-2573 และวิสัยทัศน์สำหรับปี 2593 ความสำคัญของการสนับสนุนของญี่ปุ่นสำหรับการเติบโตสีเขียวในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งเสนอแนะและแนะนำแนวทางแก้ไขเพื่อช่วยนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ การสัมมนายังทำหน้าที่เป็นแบ่งปันประสบการณ์และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้ง 2 ประเทศ

นาย ฝ่าม กว๋าง เฮียว (Pham Quang Hieu) เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำในญี่ปุ่นกล่าวในการสัมมนาว่า ความสัมพันธ์    ทวิภาคีเวียดนาม-ญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศ การขยายความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งสร้างขึ้นจากความไว้วางใจ และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน

ในระยะกลางและระยะยาว ทั้ง 2 ประเทศมีศักยภาพที่สำคัญสำหรับความร่วมมือเพิ่มเติมในด้านเทคโนโลยีสีเขียว             การเปลี่ยนแปลงพลังงาน และความร่วมมือด้านการวิจัยทวิภาคีในการประยุกต์เทคโนโลยีของญี่ปุ่นที่สอดคล้องกับความต้องการของเวียดนามและแผนงานการเปลี่ยนแปลง

นาง วู เวียด จาง (Vu Viet Trang) ผู้อำนวยการใหญ่ของสำนักข่าวเวียดนามกล่าวในการสัมมนาว่า เชื่อว่าองค์กรและบริษัทต่างๆ ของญี่ปุ่นจะได้รับความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับลำดับความสำคัญและ กลยุทธ์ของนโยบายการเติบโตสีเขียวของเวียดนาม ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆสำหรับ ความร่วมมือในพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพมากขึ้น

ณ เดือนสิงหาคม 2566 ญี่ปุ่นมีโครงการลงทุนที่ดำเนินอยู่ 5,168 โครงการ โดยมีทุนจดทะเบียนรวมกว่า 71,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบันญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 3 จาก 143 ประเทศที่ลงทุนในเวียดนาม

องค์การการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organisation : JETRO) ในเวียดนามเน้นย้ำว่า การมุ่งเน้นไปที่การเติบโตสีเขียวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในเวียดนาม รวมถึงคุณภาพน้ำ มลพิษทางอากาศ การรีไซเคิล ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอน JETRO แนะนำให้รัฐบาลเวียดนามใช้กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น ขยายความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ผลิต และเร่งการเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน

ในขณะเดียวกัน หน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ยืนยันความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเวียดนามในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดการทรัพยากรน้ำ และความร่วมมือกับบริษัทการเกษตรในการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ

                                         (จาก https://vietnamnews.vn/)

ข้อคิดเห็น สคต

ความร่วมมือเวียดนาม – ญี่ปุ่นในการพัฒนาการเติบโตสีเขียว ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในอนาคตของทั้ง 2 ประเทศ การพัฒนาที่ยั่งยืนและการเติบโตสีเขียวกลายเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับต้นๆ ในเป้าหมายการพัฒนาของเวียดนาม โดยการที่เวียดนาม – ญี่ปุ่น ร่วมมือกันเพื่อการเติบโตสีเขียว เป็นโอกาสในการพัฒนาของเวียดนามเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับการลงทุนและเรียนรู้จากญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นจะส่งเสริมในการพัฒนาการเกษตรไฮเทคที่ยั่งยืนด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และการฝึกอบรมวิชาชีพในทุกๆ ด้าน จัดทำคู่มือเพื่อเป็นแนวทางแก่ผู้ประกอบการต่างๆ ผู้ประกอบการเวียดนามจำเป็นต้องมีทีมงานด้านเทคนิคที่มีคุณสมบัติและมีประสบการณ์ เพราะด้วยทรัพยากรมนุษย์เช่นนั้น การถ่ายโอนและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีจึงสามารถทำได้ดี นอกจากนี้สำหรับภาคเกษตรกรรมผู้ประกอบการเวียดนามต้องการความอดทนในการเรียนรู้จากกระบวนการร่วมมือกับหุ้นส่วนญี่ปุ่น เนื่องจากความแตกต่างของสภาพภูมิอากาศ ดิน น้ำ และสภาพแวดล้อม ทำให้ต้องทดสอบหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ นักลงทุนชาวญี่ปุ่นมีศักยภาพที่ดีในแง่ของเทคโนโลยี ดังนั้นเมื่อร่วมมือกับญี่ปุ่นในการพัฒนาการเกษตร เวียดนามสามารถนำเทคโนโลยีของญี่ปุ่นไปใช้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีขั้นสูงและเทคโนโลยีสีเขียวได้ดี

Login