- กัมพูชาและอินโดนีเซีย เตรียมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) การค้าข้าว และเที่ยวบินตรงระหว่างกัน ในอนาคตอันใกล้นี้
- บันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว บรรลุในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีกัมพูชา-อินโดนีเซีย หรือ JCBC ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ระหว่าง นาย Sok Chenda Sophea รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา และนาง Retno Marsudi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย
- โดยมุ่งจะเสริมสร้างการเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม รวมทั้งส่งเสริมเที่ยวบินตรงระหว่างทั้งสองประเทศมากขึ้น
- นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะขยายความร่วมมือระหว่างสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชาและกระทรวงการลงทุนของอินโดนีเซียอีกด้วย และกัมพูชายินดีกับบริษัท Perum BULOG ของอินโดนีเซียที่จะเข้ามาลงทุนในกัมพูชาในด้านการเกษตร เช่น โรงสีข้าว และคลังสินค้า
- ในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค. – ก.ค.) ของปี 2567 มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชาและอินโดนีเซีย เท่ากับ 664 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 1 การส่งออกมีมูลค่า 62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 155 การนำเข้ามีมูลค่า 601 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปี 2566
ความเห็นของสำนักงานฯ
- อินโดนีเซีย เป็นตลาดข้าวสำคัญของกัมพูชา โดยบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยการค้าข้าวของกัมพูชาและอินโดนีเซีย จะทำให้กัมพูชาสามารถส่งออกข้าวไปยังอินโดนีเซียได้สูงถึง 250,000 ตันต่อปี ตั้งแต่ปี 2567 ถึง 2571 ซึ่งบันทึกความเข้าใจ (MoU) นี้ อยู่ภายใต้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซียและกัมพูชาผ่าน State Logistics Agency (บริษัท Bulog) ของอินโดนีเซีย และ Green Trade ของกัมพูชา ทั้งนี้ การลงนาม MoU ว่าด้วย การค้าข้าว และเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศนี้ จะช่วยขยายตลาด และการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในอนาคต
- ใน 7 เดือนแรกของปี 2567 กัมพูชาส่งออกข้าวไปยังอินโดนีเซีย ได้จำนวน 22,500 ตัน ทั้งนี้ หากบันทึกความเข้าใจ (MoU) ว่าด้วยการค้าข้าวของกัมพูชาและอินโดนีเซียมีผลบังคับใช้ จะทำให้การค้าข้าวและการท่องเที่ยวระหว่างกัมพูชาและอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยให้กัมพูชามีตลาดการส่งออกเพิ่มขึ้นอีกด้วย
————————–
ที่มา: Phnom Penh Post
สิงหาคม 2567
อ่านข่าวฉบับเต็ม : MoU การค้าข้าว และเที่ยวบินตรงระหว่างกัมพูชา-อินโดนีเซีย
