ตามรายงานข่าว China Economic net รายงานว่า กวาวเครือขาวที่อยู่ในป่าลึกในภาคเหนือของประเทศไทยลักษณะคล้ายมันสำปะหลัง เป็นพืชที่หายากและถูกนำมาใช้บำรุงรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง เมื่อประมาณปี 2560 ทีมผู้ก่อตั้งของแบรนด์เครื่องสำอาง Liu Yan Brew ได้เดินทางไปประเทศไทยตอนเหนือหลายครั้งเพื่อค้นหาและค้นพบกวาวเครือขาว ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ากวาวเครือขาวเป็นจุดสนใจของแบรนด์ การประยุกต์แปรรูปใช้กวาวเครือขาวได้มีการพัฒนาปรับปรุงการผลิตอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงแบรนด์ Liu Yan Brew ยังเร่งปรับปรุงและสร้างแพลตฟอร์มการขายในภาคอุตสาหกรรมอีกด้วย
เนื่องจากผลลัพธ์ของกวาวเครือขาว ส่งผลให้เกิดกระแสของสินค้า เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2566 ทีมงานหลักของแบรนด์ Liu Yan Brew ได้รับเชิญจากคณะกรรมการจัดงานให้เข้าร่วมในการประชุมสุดยอดผู้นำทางธุรกิจ ASEAN Belt เหตุการณ์นี้รวบรวมแบรนด์ผู้นำองค์กรของจีนและไทยหลายแบรนด์ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะตระหนักถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูล อีกทั้งมีการแบ่งปันของผู้ประกอบการทวิภาคีด้วยการสนับสนุนนโยบายพิเศษต่าง ๆ ในประเทศไทยเพื่อดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจและการลงทุนเพื่อการพัฒนาต่อไป
ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ นายหลิว จุน ประธานของแบรนด์เครื่องสำอาง Liu Yan Brew ได้แนะนำและแบ่งปันความสำเร็จจากการสกัดแปรรูปสารจากกวาวเครือขาวในป่าลึกซึ่งสามารถปกป้องและหล่อเลี้ยงฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงได้ลึกกว่าเนื้อสกัดกวาวเครือขาวทั่วไป เพื่อเพิ่มประโยชน์ของกวาวเครือขาวป่า ให้มีประโยชน์สูงสุด และยังได้มีการจัดตั้งศูนย์การวิจัยและพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยซูโจวจนได้สารสกัดกวาวเครือขาวป่าที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างมาก
การเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและการแลกเปลี่ยนของจีน
ประเทศไทยและจีนเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ามาอย่างยาวนาน โดยรัฐบาลท้องถิ่นของไทยมีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนากวาวเครือขาวป่า แบรนด์ Liu Yan มีแผนจะสร้างแพลตฟอร์มกับอุตสาหกรรมไทย เพื่อส่งเสริมโครงสร้างอุตสาหกรรมสุขภาพระหว่างประเทศ มุ่งเน้นที่การแลกเปลี่ยนและสร้างความร่วมมือโดยเฉพาะในการส่งเสริมสุขภาพของผู้หญิงทั่วโลกและผนวกภูมิปัญญาของอุตสาหกรรมสุขภาพเข้าร่วมกัน
ข้อคิดเห็นของสคต.เซี่ยงไฮ้
เราจะเห็นได้ว่ากวาวเครือขาวป่ามีสรรพคุณอย่างมากโดยเฉพาะกับเพศหญิง บริษัทเจ้าของแบรนด์ Liu Yan Brew เองก็ได้เพิ่มทุนวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แสดงถึงสัญญาณที่ดีและแนวโน้มของสินค้าสุขภาพและความงามที่อาจมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทยอื่นเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของสินค้า สร้างจุดขายและเรื่องราวของสินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ หรือใช้โอกาสในการร่วมวิจัยและพัฒนาสินค้ากับบริษัทจีนต่อไป ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาและติดตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่ต้องการส่งออก เพื่อการดำเนินการที่เหมาะสมและถูกต้องต่อไป
ที่มา :
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
https://www.cet.com.cn/itpd/itxw/3358224.shtml