ข้อตกลงการค้าเสรีที่ลงนามระหว่างอิสราเอลและเวียดนามจะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2567 และจะนำไปสู่การผ่อนปรนภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามายังอิสราเอล เช่น รถยนต์ ปลาทูน่ากระป๋อง และผลไม้แห้ง ในเวลาเดียวกัน ข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะนำไปสู่การผ่อนปรนภาษีศุลกากรในเวียดนามสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากอิสราเอล เช่น อินทผลัม อุปกรณ์พลาสติก และอุปกรณ์ทางการแพทย์
การผ่อนปรนข้อจำกัดที่คาดว่าจะเกิดขึ้น หมายความว่าการส่งออกของอิสราเอลไปยังเวียดนามจะได้รับความได้เปรียบทางการแข่งขันและเข้าสู่ตลาดในประเทศได้ง่ายขึ้น อุตสาหกรรมขั้นสูง เช่น สารเคมี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การแพทย์ และผลผลิตทางการเกษตรสด คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงดังกล่าว ในเวลาเดียวกัน การยกเลิกภาษีศุลกากรจะส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากอิสราเอลในเวียดนามลดลง ตัวอย่างเช่น การส่งออกอินทผลัมไปยังเวียดนามจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีศุลกากร ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 30% ภาษีศุลกากร 50% สำหรับน้ำส้มเข้มข้นและน้ำส้มจะถูกยกเลิกภายใน 7 ปี ภาษีศุลกากรสำหรับไวน์ของอิสราเอลซึ่งอยู่ที่ 50% จะถูกยกเลิกภายใน 7 ปี ภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์พลาสติก อุปกรณ์ชลประทาน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งอยู่ที่ 15% จะถูกยกเลิกทันที ภาษีศุลกากรสำหรับผ้าไม่ทอ (nonwoven fabrics) ซึ่งอยู่ที่ 12% จะถูกยกเลิกทันที ภาษีศุลกากรสำหรับอุปกรณ์ออปติกสำหรับใช้ทางการแพทย์ที่ลดลงเหลือ 20% จะถูกยกเลิกภายใน 7 ปี และภาษีนำเข้าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม 22% จะถูกยกเลิกภายใน 5 ปี
ในปี 2566 การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่าประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์ และข้อมูลจากครึ่งแรกของปี 2567 บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นตามการประมาณการของสำนักงานบริหารการค้าต่างประเทศอิสราเอล (The Foreign Trade Administration) แม้จะมีสงครามในอิสราเอลและความท้าทายในเส้นทางนำเข้าทางทะเลจากเอเชีย สำนักงานบริหารการค้าต่างประเทศของกระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้นำการเจรจากับพันธมิตรจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตร กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการคลัง สำนักงานประชากรและการตรวจคนเข้าเมือง และ สำนักงานศุลกากร ประมาณการว่าข้อตกลงดังกล่าวจะสนับสนุนเศรษฐกิจของอิสราเอลเป็นจำนวนหลายสิบล้านเชคเกลต่อปี
ควบคู่ไปกับการยกเลิกภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากอิสราเอลไปยังเวียดนาม ภาษีศุลกากรสำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากเวียดนามไปยังอิสราเอลจะลดลง นอกจากนี้ ภาษีศุลกากรสำหรับยานพาหนะซึ่งอยู่ที่ 7% จะถูกยกเลิกภายใน 7 ปี ภาษีศุลกากรสำหรับผลไม้แห้ง บลูเบอร์รี่ และเชอร์รี่แช่แข็งซึ่งอยู่ที่ 8% จะถูกยกเลิกภายใน 7 ปี ภาษีศุลกากรสำหรับมะม่วงหิมพานต์ซึ่งอยู่ที่ 4% จะถูกยกเลิกภายใน 5 ปี ปลาทูน่ากระป๋องที่นำเข้าสู่อิสราเอลจะได้รับโควตา 1,000 ตันต่อปีปลอดอากร และภาษีศุลกากรสำหรับผลิตภัณฑ์ทดแทนชีสซึ่งอยู่ที่ 12.5% จะถูกยกเลิกภายใน 10 ปี
ข้อตกลง ที่ลงนามเมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจ นาย Nir Barkat และรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม ไม่เพียงแต่รวมถึงการยกเลิกภาษีศุลกากรอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการขจัดอุปสรรคในด้านต่างๆ อีกด้วย รวมถึงการลงทุน
ที่มา : Ministry of Economy, Daily Newspapers 10/2024
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
สินค้าจากเวียดนามเป็นคู่แข่งกับสินค้าจากไทยในตลาดนำเข้าของอิสราเอล สินค้าที่สำคัญ เช่น ข้าวขาว ภาษีนำเข้า 0% และทูน่ากระป๋อง โดยสิทธิประโยชน์ FTA อิสราเอล-เวียดนาม ทูน่ากระป๋องจากเวียดนามที่นำเข้าสู่อิสราเอลจะได้รับโควตาปลอดภาษี 1,000 ตันต่อปี ดังนั้น เป็นไปได้ว่า ทูน่ากระป๋องจากไทยอาจถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดนำเข้าอิสราเอล
ข้อตกลงการค้าระหว่างไทย-อิสราเอล ได้แก่ Joint trade Committee ตั้งแต่เมื่อประมาณ ปี 2555 โดยอิสราเอลมีท่าทีต้องการเจรจา FTA กับไทยมาโดยตลอด ซึ่งทางฝ่ายไทยก็ยินดีที่จะเปิดเจรจา หากสถานการณ์ในตะวันออกกลางคลี่คลาย เพื่อให้ FTA ช่วยขยายตลาดเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทย-อิสราเอล
——————————————————
สคต.เทลอาวีฟ
16 พ.ย. 2567
อ่านข่าวฉบับเต็ม : FTA อิสราเอล-เวียดนาม เริ่มมีผลตั้งแต่พฤศจิกายน 2567