Economist Intelligence Unit (EIU) สหราชอาณาจักรได้ประกาศผลการจัดอันดับคุณภาพชีวิตของประชากรในเมืองต่างๆ ทั่วโลก (Global Livability Index) ประจำปี 2024 โดยพิจารณาทั้งสิ้น 173 เมืองทั่วโลก ปรากฏว่าปีนี้กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ยังรักษาฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม รั้งตำแหน่งอันดับที่หนึ่งสามปีซ้อน (ปี 2022, 2023 และ 2024) ตามมาด้วยกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และเมืองแคลกะรี ประเทศแคนาดา ตามลำดับ ทั้งนี้ กรุงเวียนนา ได้รับคะแนนสูงลิ่วในหลายๆ ด้าน และได้รับคะแนนเต็มในด้านความมั่นคง การบริการสาธารณสุข การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน และก่อนหน้านี้กรุงเวียนนาเคยได้รับการจัดอันดับหนึ่งของ EIU มาแล้วในปี 2018 และ 2019 และก่อนหน้านั้นมักอยู่ในอันดับสองมาโดยตลอด
นอกเหนือจากการจัดอันดับของ EIU แล้วกรุงเวียนนายังเป็นที่หนึ่งของเมืองที่ประชากรมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสาร Monocle (Monocle’s Quality of Life Survey 2023) และขึ้นแท่นอันดับหนึ่งจากการจัดอันดับของ Mercer (Mercer’s Quality of Living Ranking) ติดต่อกันเป็นประจำตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา การจัดอันดับของ Mercer น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่มุ่งเน้นด้านทรัพยากรบุคคลทั่วโลก โดยพื้นฐานแล้วจะมีการกำหนดเมืองที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทที่จะส่งพนักงานไป หรือสถานที่ที่จะจัดตั้งสำนักงานและโรงงาน ส่วนเมืองอื่นๆที่ติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของการจัดอันดับโดย EIU ในครั้งนี้ ได้แก่ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น และนครโอคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ อย่างไรก็ดี ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้เมืองหลายๆ เมืองในยุโรปมีอันดับลดลงไปจากเดิม แต่โดยรวมยุโรปตะวันตกยังคงเป็นภูมิภาคที่มีเสถียรภาพในด้านคุณภาพชีวิตที่ดีลำดับต้นๆ ของโลก
ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ
เวียนนาเป็นศูนย์กลางของยุโรปมาโดยตลอดในฐานะจุดเปลี่ยนทางภูมิรัฐศาสตร์ตลอดประวัติศาสตร์ นอกเหนือจากการเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่งดงามแล้ว เวียนนาไม่เพียงมีผลงานดีเยี่ยมตามเกณฑ์การให้คะแนน แต่ยังมีบทบาทเป็นผู้กำหนดมาตรฐานใหม่อีกด้วย ปัจจุบันกรุงเวียนนาเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับสองในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน เป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งและเต็มไปด้วยนักศึกษานานาชาติ และยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ (UN) องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างยุโรปตะวันตกและตะวันออก แสดงให้เห็นว่าเมืองนี้ยังคงมีความเป็นสากลมากขึ้นเรื่อยๆ ดึงดูดคนหนุ่มสาวและเศรษฐกิจการลงทุนมากขึ้นต่อเนื่อง กรุงเวียนนาจึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมันและภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออก
อ่านข่าวฉบับเต็ม : Economist ยกเวียนนาขึ้นเบอร์หนึ่งสามปีซ้อน คุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก