“สถาบันสี Pantone เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสีรายใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลต่อทิศทาง เทรนด์ในตลาดซึ่งผู้ประกอบการทั่วโลกเชื่อถือมาเป็นระยะเวลานานหลายทศวรรษ”
ในช่วงปลายปีผู้เชี่ยวชาญด้านสีจากทั่วโลกมักจะเปิดเผยรายงานพยากรณ์ทิศทางแนวโน้มสีที่จะได้รับความนิยมในปีต่อไปเป็นประจำทุกปี เช่นเดียวกันกับปีนี้ที่สถาบันสี Pantone (Pantone Color Institute) ผู้เชี่ยวชาญด้านสีรายใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อวงการมากที่สุด โดยได้รับการเชื่อถือและยอมรับจากผู้ประกอบการในวงการธุรกิจและแฟชั่นทั่วโลกได้พยากรณ์เทรนด์สีที่จะได้รับความนิยมในปี 2567 จะเป็นโทนสีสดใส ฉูดฉาด โดดเด่นแนวสีชมพูสดใส สีฟ้าน้ำทะเล และสีน้ำตาลเข้ม ในขณะที่โทนสีไม่ฉูดฉาด (Neutral) และโทนสีธรรมชาติจะยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง แต่อาจจะมีการเพิ่มลูกเล่นของสีให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เช่น การเพิ่มสีชมพูระเรื่อในสีขาวนวลเพื่อให้มีความน่าสนในมากขึ้น เป็นต้น
Ms. Laurie Pressman ตำแหน่งรองประธานสถาบันสี Pantone ให้ความเห็นว่า สีมีบทบาทเปรียบเสมือนภาษาที่สามารถเป็นสื่อในการแสดงออกถึงตัวตนของแต่ละบุคคลได้ บางคนนิยมเลือกใช้โทนสีฉูดฉาดในขณะที่บางคนนิยมเลือกใช้สีโทนอ่อนและสีโทนพาสเทล ซึ่งการเลือกใช้สีแท้จริงแล้วไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ตายตัวขึ้นอยู่กับ บุคลิก อารมณ์ รสนิยม และความชอบของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านสีในตลาดอีกหลายรายได้พยากรณ์เทรนด์สีสันที่จะได้รับความนิยมในปี 2567 ซึ่งสามารถรวบรวมได้ทั้งสิ้น 7 สี ดังนี้
1. สีเขียวธรรมชาติ (Earthy Green) สีเขียวเป็นโทนสีธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สงบ และผ่อนคลาย โดยบริษัทสีแบรนด์ Graham & Brown สัญชาติอังกฤษ ได้เลือกให้สี Viridis (สีเขียวเฉด Midtone) เป็นสีแห่งปี 2567 ในขณะที่บริษัทสี Dutch Boy ได้เลือกให้สี Ironside สีเขียวเข้มเป็นสีแห่งปี 2567
2. สีเหลืองและสีส้มสดใส (Lustrous Yellows and Oranges) โดยบริษัท Veranda ได้เลือกให้สีเหลืองอำพัน (Electric Amber) ซึ่งเป็นเฉดสีที่ผสมผสานระหว่างสีเหลืองและสีส้มแสดงถึงความสวยงาม สว่างไสว เป็นสีแห่งปี 2567 และแนะนำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ รวมถึงของใช้เลือกนำไปใช้ผลิตเป็นสินค้าในอนาคต นอกจากนี้ บริษัท HGTV Home ยังได้เลือกให้สี Persimmon เป็นสีแห่งปี รวมถึงบริษัท WGSN และ บริษัท Coloro ที่ได้เลือกให้สี Apricot Crush เป็นปีแห่งปี 2567
3. สีชมพูและสีแดง (Unapologetic Pinks and Reds) สีของตุ๊กตาบาร์บี้จะยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสีแทบจะทุกราย เช่น บริษัท Sherwin-Williams บริษัท Dunn-Edwards และสถาบันสี Pantone ต่างคาดว่า สีชมพูจะยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีหน้า โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจากผู้บริโภคจะหนีจากโทนสีอบอุ่น เปลี่ยนไปเป็นโทนสีชมพูธรรมชาติ ทั้งนี้ บริษัท Little Greene ได้เลือกให้สี Masquerade (ชมพูโทนธรรมชาติ) ซึ่งเป็นสีให้ความรู้สึกสงบตามธรรมชาติเป็นสีแห่งปี 2567 นอกจากนี้ บริษัท Sherwin-Williams ได้ให้ความเห็นว่า โทนสีแดงและกลุ่มสีดินเผาจะกลับมาได้รับความนิยมในปีหน้าด้วย
4. สีเข้มและสีน้ำตาลช็อคโกแลต (The Dark And Chic Side) แม้ว่า กลุ่มโทนสีสว่างสดใสอย่างสีชมพูจะมาแรงในปีหน้า แต่โทนสีเข้มที่ตรงกันข้ามจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสมดุลเหมือนหยินและ หยางที่จำเป็นต้องมีการปรับให้สมดุลด้วยโทนสีเข้ม เช่น สีน้ำตาลช็อคโกแลต ทั้งนี้ บริษัท Behr ได้เลือกสี Cracked Pepper (เทาเข้ม) เป็นสีประจำปี 2567
5. สีฟ้าอมเขียวและสีฟ้าน้ำทะเล (The Rise of Teal and Aqua) สีฟ้าเป็นสีที่ได้รับความนิยมมาตลอด โดยสีฟ้าให้ความรู้สึกสดชื่น ใกล้ชิดกับธรรมชาติ นอกจากนี้ สีฟ้าอมเขียว (Teal) และสีฟ้าทะเล ยังให้ความรู้สึกเย็นสบายและสงบ ซึ่งตอบโจทย์ความสนใจของผู้คนในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทสี Valspar ได้เลือกให้สี Renew Blue (สีฟ้าอมเขียวเข้ม) เป็นสีแห่งปี ในขณะที่บริษัท C2 Paint ได้เลือกให้สี Thermal (สีฟ้าอ่อน) เป็นสีประจำปี
6. สีม่วง (Intriguing Purples) แม้ว่าสีม่วงจะเป็นสีที่นำมาใช้งานในการออกแบบตกแต่งค่อนข้างยาก แต่คาดว่าปีหน้าโทนสีม่วงอ่อนจะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเข้ากันได้ดีกับโทนสีชมพู ฟ้า และเขียว
7. สีอบอุ่นไม่ฉูดฉาด (Warming Neutrals) ไม่ว่าจะเป็นสีขาวเฉด (Off – Whites) และสีขาวนวล (Buttery Tones) จะเป็นสีที่ได้รับความนิยมในปีนี้ โดยเฉพาะสีโทนไม่ฉูดฉาดและสีโทนธรรมชาติซึ่งเป็นที่นิยมเนื่องจากให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อโดนแสงไฟ ทั้งนี้ โดยบริษัท Sherwin-Williams และบริษัท Gidden ได้เลือกให้สี Limitless เป็นสีแห่งปี 2567
ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
สีเป็นปัจจัยสำคัญและมีความใกล้ชิดกับการออกแบบสินค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน อีกทั้ง ยังมีอิทธิพลสำคัญต่อการตัดสินในเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มผู้บริโภคด้วย
ทั้งนี้ ตามธรรมชาติในการตัดสินใจเลือกสี ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกจากความชอบ รสนิยม และความต้องการแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของบุคคลนั้นๆ เป็นหลัก แต่บ่อยครั้งการเลือกสียังมักจะได้รับอิทธิพลจากลุ่มนักออกแบบ ศิลปิน และผู้เชี่ยวชาญด้านสีที่เป็นผู้ให้ความเห็นและนำกระแสสีสันต่างๆ ซึ่งในแต่ละปีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างจะพยากรณ์สีที่จะเป็นกระแสและจะได้รับความนิยมในปีถัดไปด้วย
แม้ว่าในปีนี้ปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวอันเนื่องมาจากปัจจัยด้านภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงจะส่งผลกระทบต่อการ ค้าปลีกรวมถึงการใช้จ่ายของชาวอเมริกันโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย แต่โดยรวมคาดว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันจะยังคงใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้ากลุ่มแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันมักจะเลือกซื้อสินค้าใหม่สำหรับตอนรับฤดูกาลใหม่
ในส่วนของตลาดของใช้ของตกแต่งบ้านเอง แม้ว่าปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ยในตลาดจะส่งผลกระทบทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ ชะลอตัว แต่พบว่าปริมาณอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว (Single House) ซึ่งมีจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการยังเป็นที่ต้องการของชาวอเมริกันในตลาด ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างยังคงต้องเร่งสร้างบ้านเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งล้วนน่าจะเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านไทยไปยังตลาดสหรัฐฯ
ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรพิจารณานำข้อมูลแนวโน้มสีที่จะได้รับความนิยมในอนาคตดังกล่าวไปปรับใช้ร่วมกับข้อมูลตลาดที่สำคัญอื่นๆ เช่น แบบและวัสดุที่เป็นที่นิยมในตลาด เพื่อใช้ออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถรักษาสัดส่วนตลาดในตลาดได้ในอนาคต
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าพฤติกรรมความต้องการบริโภคสินค้าแฟชั่นของชาวอเมริกันในตลาดปัจจุบันที่เริ่มให้ความสนใจกับกระแสแฟชั่นหรูหราแบบเงียบ “Quiet Luxury” ตามกระแสดังกล่าวผู้บริโภคจะให้ความสำคัญเลือกสินค้าที่มีสีสันและการออกแบบที่ดูเรียบง่าย ไม่ติดตราแบรนด์สินค้าขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน รวมถึงการเลือกซื้อสินค้าที่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงผลิตและตัดเย็บอย่างประณีตใช้งานได้ทนทาน ไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งกระแสนิยมดังกล่าวน่าจะเป็นผลดีกับกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยที่มีความสามารถในการออกแบบและผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของตลาดแต่เสียเปรียบคู่แข่งที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า เช่น จีน และอินเดีย เป็นต้น
“คนดังกับแฟชั่นหรูหราแบบเงียบ “Quiet Luxury” ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน”
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)