นักการตลาดน้ำมันกล่าวว่าวิกฤตอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในไนจีเรียและการดำเนินการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7.5 สำหรับน้ำมันแก๊สรถยนต์หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าดีเซล ได้ผลักดันให้ต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์นั่นคือราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 900 ถึง 950 ไนร่าต่อลิตรในหลายรัฐและการไม่สามารถเข้าถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ขัดขวางความสามารถในการนำเข้าน้ำมันดีเซลซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ผู้ผลิตในท้องถิ่นปิดโรงงานบางแห่งและมีการตกงาน โดยที่ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 650 ไนร่าต่อลิตรก่อนที่รัฐบาลกลางจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7.5 สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์น้ำมันดีเซล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการขาดแคลนเงินดอลลาร์ซึ่งรัฐบาลต้องเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์เงินดอลลาร์และมีการเรียกร้องประธานาธิบดีช่วยให้โรงกลั่นน้ำมันของไนจีเรียกลับมาดำเนินงานได้เป็นปกติซึ่งวิศวกรชาวไนจีเรียสามารถซ่อมแซมโรงกลั่นที่หยุดปฏิบัติการเหล่านี้ได้แทนที่จะให้ประเทศขึ้นอยู่กับการนำเข้าน้ำมันดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการใหญ่สมาคมผู้ผลิตสิ่งทอไนจีเรียกล่าวว่าผู้ผลิตสิ่งทอหลายรายกำลังใคร่ครวญที่จะปิดการดำเนินงานเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากผู้ผลิตสิ่งทอไม่สามารถซื้อน้ำมันดีเซลได้ ในราคานี้/ต้นทุนน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นของบริษัทจึงเรียกร้องให้รัฐบาลหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน หากราคาน้ำมันดีเซลขึ้นเมื่อไหร่ก็ทำให้ต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งของทุกคนเพิ่มขึ้น
อนึ่ง ในขณะนี้ธุรกิจส่วนใหญ่ในไนจีเรียอยู่ในภาวะถดถอยโดยเฉพาะผู้ผลิตกำลังได้รับผลกระทบทุกวัน และรัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น ไม่เพียงแต่การให้เงินช่วยเหลือประชาชนเท่านั้น ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตไนจีเรียกล่าวว่าสภาพการจ้างงานในปัจจุบัน (อัตราการจ้างงาน) ลดลงจาก 51.3 จุดในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 มาเป็น 50.7 จุดในไตรมาสแรกของปี 2566 จึงคาดการณ์ถึงวิกฤตการว่างงานในภาคธุรกิจจริงโดยในรายงานดัชนีความเชื่อมั่นซีอีโอของสมาคมผู้ผลิตที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆนี้ว่าสภาพการจ้างงานจะลดลงอีกเป็น 47.8 จุดในเดือนต่อๆไป โดยรายงานข้อมูลนี้เป็นสิ่งพิมพ์การวิจัยและการสนับสนุนรายไตรมาสของสมาคมฯ ซึ่งวัดการเปลี่ยนแปลงของผู้ประกอบการและแนวโน้มในภาคการผลิตเป็นรายไตรมาส โดยตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจจ้างงานของผู้ผลิตนั้น ‘ยากมาก’ เนื่องจากความคาดเดาไม่ได้และความยากลำบากในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)