หน้าแรกTrade insight > โอกาสทางการค้ากับการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ของ Walmart Chile

โอกาสทางการค้ากับการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ของ Walmart Chile

Walmart Chile ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการจัดทำแพลตฟอร์ม “Walmart Marketplace Chile” หรือ www.lider.cl ที่เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 แต่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 โดย Walmart Chile ใช้เทคโนโลยีการจัดทำแพลตฟอร์มจาก Walmart US ที่อำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ ทั่วประเทศสามารถขายสินค้าบนแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยในช่วงเริ่มต้น Walmart Chile จะเน้นการเข้าร่วมแพลตฟอร์มของผู้ประกอบการในประเทศและในปี 2567 Walmart Chile จะขยายโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศให้สามารถเสนอขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม

การจัดทำแพลตฟอร์มดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น และเป็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการชิลีด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มมีการให้บริการแพลตฟอร์ม Walmart Marketplace Chile มีบริษัทในชิลีจำนวนกว่า 1,000 บริษัท ทั่วประเทศเข้าร่วมในแพลตฟอร์มดังกล่าว ซึ่งยอดการจำหน่ายสินค้าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12 ของยอดการจำหน่ายสินค้าทั้งหมดของ Walmart Chile  โดยสินค้าเป้าหมายหลักในการเสนอขายจะอยู่ในกลุ่มที่ไม่ใช่อาหาร (non-food products) อาหารและเครื่องดื่ม และภายในสิ้นปีนี้จะให้มีการเสนอขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การจัดทำ Walmart Marketplace Chile เป็นโครงการที่อยู่ในแผนดำเนินงานของ Walmart US ซึ่งก่อนมีการจัดทำแพลตฟอร์มดังกล่าวในชิลี Walmart US ได้จัดทำ Walmart Marketplace ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ทั้งนี้ การขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการชิลีสามารถขายสินค้าไปยังต่างประเทศในปีหน้านั้น ทำให้ Walmart Chile ต้องมีการจัดทำกลยุทธ์ทางการตลาดเพิ่มเติม เนื่องจากคู่แข่งสำคัญในแพลตฟอร์มระดับเดียวกัน ได้แก Amazon และ Shein

แผนการลงทุนในชิลี

Walmart มีแผนในการขยายการลงทุนในชิลี โดยจะเพิ่มจำนวนสาขาให้บริการอีก 6 สาขา เนื่องจากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส (โควิด-19) Walmart Chile ต้องปิดสาขาให้บริการจำนวน 4 สาขา และมีการปรับปรุงสาขาที่ให้บริการจำนวนกว่า 20 สาขา โดยการดำเนินการดังกล่าวใช้เงินลงทุนจำนวนกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี รวมทั้ง การเพิ่มการจ้างงานประมาณ 1,000 ตำแหน่งภายในปีนี้[1]

ชิลีเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส (โควิด-19) แต่มีการฟื้นตัวและมีการขยายตัวของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) อย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของ E-Commerce มีการขยายตัวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 77 ในปี 2563 ทำให้ชิลีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการขยายตัวและการพัฒนาด้าน E-Commerce มากที่สุดในภูมิภาคลาตินอเมริกา ส่งผลให้ตลาดค้าปลีกของชิลีมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย

          ตลาดค้าปลีกของชิลีมีการแข่งขันน้อยราย ผู้ให้บริการหลักที่สำคัญ ได้แก่ Walmart, Cencosud (ห้าง Jumbo) และ Falabella โดย Walmart เป็นผู้นำในกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่วน Cencosud และ Falabella เป็นผู้นำในกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า และห้างจำหน่ายอุปกรณ์ปรับปรุงบ้าน ที่มีสาขากระจายอยู่ในภูมิภาคลาตินอเมริกา

ชาวชิลีให้ความนิยมเพิ่มขึ้นในการซื้อหาสินค้าในห้างสรรพสินค้า จากเดิมที่ประชาชนส่วนใหญ่นิยมซื้อสินค้าในห้างสะดวกซื้อในท้องถิ่น และปัจจุบัน E-Commerce เป็นทางเลือกยอดนิยมหนึ่งที่ผู้บริโภคชิลีใช้ในการซื้อหาสินค้าและบริการ ทำให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์[1]

การซื้อขายสินค้าทางออนไลน์หรือ E-Commerce ของชิลี มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีการขยายตัวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.2 – 10.3  และมีแนวโน้มขยายตัวต่อไป นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ อาทิ Amazon และ Alibaba ก็ให้ความสนใจต่อตลาด E-Commerce ในชิลี แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งด้าน E-Commerce ของชิลี นอกจากนี้ จากข้อมูลของ Americas Market Intelligence[1] พบว่า ผู้บริโภคชิลีมีการซื้อสินค้าทางออนไลน์เฉลี่ยคิดเป็นมูลค่า 1,500 เหรียญสหรัฐต่อปี โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด 10 อันดับแรก ที่ผู้บริโภคชิลีสั่งซื้อทางออนไลน์ ได้แก่ (1) เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม (2) รองเท้า (3) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (4) กระเป๋าและเครื่องประดับ (5) อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน (6) เครื่องประดับ (7) เครื่องสำอาง (8) อาหารและเครื่องดื่ม (ไม่รวมที่ผ่านบริการจัดส่งอาหาร) (9) ยาและเวชภัณฑ์ และ (10) เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่ง ตามลำดับ

ดังนั้น การลงทุนจัดทำแพลตฟอร์มของ Walmart จะช่วยสนับสนุนระบบนิเวศน์ของการแข่งขันด้าน E-Commerce และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่จะมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งการจัดทำ Walmart Marketplace Chile เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในการเข้าร่วมเป็นผู้เสนอขายสินค้าในแพลตฟอร์มดังกล่าว และจะทำให้ผู้บริโภคชาวชิลีสามารถเข้าสินค้าไทยได้สะดวกมากขึ้น อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยจะต้องตระหนัก ได้แก่ คุณภาพสินค้าหรือสินค้าที่ตรงต่อความต้องการของตลาด  การสร้างความแตกต่างหรือภาพลักษณ์ที่น่าจดจำของสินค้า การกำหนดราคาที่แข่งขันได้ ต้นทุนการขนส่งสินค้า หากเป็นสินค้าอาหารจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 เดือน

ทั้งนี้ Walmart Chile ยังไม่มีการระบุเงื่อนไขหรือรายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับผู้ประกอบการต่างประเทศที่จะเข้าร่วมในแพลตฟอร์มฯ โดย สคต. ณ กรุงซันติอาโก จะติดตามความคืบหน้าต่อไป

_____________________________

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก

กันยายน 2566

[1] https://americasmi.com/insights/chile-e-commerce-market-data/

[1] Consulting firm – https://oosga.com/e-commerce/chl/

[1] Local online newspaper – https://www.df.cl/empresas/retail/walmart-lanza-oficialmente-su-marketplace-en-chile-para-compras

Retail online news – https://www.america-retail.com/chile/walmart-chile-lanza-de-manera-oficial-su-marketplace-para-compras-nacionales-e-internacionales/

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login