ธุรกิจบริการอาหารในโมร็อกโกเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 5.87 ต่อปี [1] และคาดการณ์ว่า ชาวโมร็อกโกจะใช้จ่ายไปกับอาหารและโรงแรมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.9 ต่อปี (ระหว่างปี ค.ศ. 2022-2026) [2] เนื่องจากพฤติกรรมของชาวโมร็อกโกเปลี่ยนแปลงไป โดยมีเวลาในการทำอาหารที่บ้านน้อยลง ผู้หญิงทำงานนอกบ้านมากขึ้น วัยแรงงานมีชั่วโมงทำงานที่ยาวนานขึ้น ต้องใช้เวลาเดินทางเพื่อมาทำงานนานขึ้น ขนาดครอบครัวเล็กลง จำนวนคนโสดมากขึ้น จึงทำให้ชาวโมร็อกโกมีความต้องการซื้อหรือสั่งอาหารนอกบ้านมารับประทานมากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองที่อยู่กันอย่างหนาแน่น เช่น Casablanca และ Rabat ทำให้ธุรกิจบริการอาหาร ร้านอาหาร รวมทั้งบริการจัดส่งอาหาร ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ รายงานของ Euromonitor International ชี้ว่า ร้อยละ 70 ของจำนวนร้านอาหารทั้งหมดในโมร็อกโก เป็นลักษณะคาเฟ่ รองลงมาร้อยละ 21.4 เป็นลักษณะร้านฟาสฟูดส์ และอื่น ๆ คือ ร้านอาหารข้างถนน คีออส เป็นต้น [3] อีกทั้งธุรกิจอาหารต่างชาติในโมร็อกโกกำลังได้รับความที่นิยม โดยเฉพาะในหมู่ชาวโมร็อกโกที่มีฐานะ ซึ่งเลือกรับประทานในร้านอาหารที่มีระดับตามเมืองใหญ่ เช่น อาหารญี่ปุ่น ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในคาซาบลังกา ราบัต มาร์ราคิช และแทงเจียร์ รวมทั้งอาหารไทย แม้จะยังมีให้บริการไม่มากเท่าอาหารญี่ปุ่นหรืออาหารยุโรป แต่จัดอยู่ในร้านอาหารระดับหรู มีคุณภาพ และให้บริการแบบพรีเมี่ยม
ความเห็น/ข้อเสนอแนะ
ประเทศไทยมีประเพณีการทำอาหารที่หลากหลายซึ่งสร้างความประทับใจให้กับคนทั้งโลกมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ อาหารไทยมีชื่อเสียงในด้านรสชาติที่หลากหลาย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ด้วยกระแส โลกาภิวัตน์ ความต้องการอาหารไทยเพิ่มขึ้นทั่วโลกเนื่องจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และความสำคัญทางวัฒนธรรม โมร็อกโกขึ้นชื่อเรื่องอาหารแปลกใหม่ ด้วยการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของรสชาติอาหรับ และเมดิเตอร์เรเนียน เป็นการเปิดโอกาสส่งออกอาหารไทยไปโมร็อกโก
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในโมร็อกโกเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการส่งออกอาหารไทย โมร็อกโกเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง เครือร้านอาหารไทยสามารถเปิดในพื้นที่ท่องเที่ยวของโมร็อกโกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาเยือนพื้นที่เหล่านี้
อาหารไทยมีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งเป็นที่ชื่นชมของผู้คนมากมายทั่วโลก ผู้ส่งออกไทยจะนำเสนอส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรม สิ่งนี้จะทำให้เกิดโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ ไม่ใช่แค่ในอุตสาหกรรมอาหารแต่รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ ด้วย
ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ โดยเฉพาะข้าวและอาหารแปรรูป นอกจากนี้ อาหารไทยยังมีเอกลักษณ์และแตกต่างด้วยส่วนผสมของสมุนไพรและเครื่องเทศ เช่น ตะไคร้ ข่า และขมิ้น การผสมผสานของส่วนผสมเหล่านี้ทำให้เกิดรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเทียบได้กับอาหารอื่นๆ วัตถุดิบเหล่านี้สามารถส่งออกไปยังโมร็อกโก ซึ่งสามารถใช้ปรุงอาหารฟิวชันที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นได้
สินค้าเกษตร เช่น ข้าวและผลไม้ ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดเหล่านี้เพื่อแนะนำอาหารไทยแก่ผู้บริโภค ข้าวไทยถือเป็นข้าวที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเนื่องจากเนื้อสัมผัส กลิ่น และรสชาติ การแนะนำข้าวหอมมะลิไทยถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเจาะตลาด เนื่องจากโมร็อกโกบริโภคขนมปังเป็นหลัก การนำข้าวเข้าไปเจาะตลาดจะกลายเป็นรสชาติใหม่ที่สามารถผสมผสานกับอาหารท้องถิ่นได้
ผลไม้ไทย เช่น มังคุด แก้วมังกร และเงาะ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในโมร็อกโก แต่มีความต้องการในหมู่ผู้บริโภคชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในโมร็อกโก ผลไม้เหล่านี้มีศักยภาพที่จะเป็นที่นิยม เนื่องจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และคุณค่าทางโภชนาการสูง ผู้ส่งออกของไทยจะต้องให้ความรู้แก่ผู้บริโภคชาวโมร็อกโกเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพของผลไม้เหล่านี้
ชาวโมร็อกโกชอบเครื่องเทศและรสชาติในอาหาร ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมอาหารไทยจึงมีศักยภาพที่จะเป็นที่นิยมในโมร็อกโก อาหารโมร็อกโกส่วนใหญ่ประกอบด้วยเนื้อย่าง ปลา ผัก สตูว์เข้มข้น และทาจิน ซึ่งเป็นอาหารที่ปรุงสุกช้าในหม้อดินเผา อาหารไทยมีรสชาติที่คล้ายคลึงกันโดยเน้นที่วัตถุดิบสดใหม่และเครื่องเทศ ผู้ส่งออกไทยมีโอกาสที่จะสร้างสรรค์อาหารฟิวชั่นที่ดึงดูดใจชาวโมร็อกโก
ผลิตภัณฑ์อาหารไทย เช่น เครื่องแกง ซอส เครื่องปรุงต่างๆ ขนส่งง่าย และมีอายุการเก็บรักษานาน จึงเหมาะสำหรับการส่งออกไปยังโมร็อกโก น้ำพริกแกงไทยมีประโยชน์หลายอย่างและสามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง รวมทั้งสตูว์และทาจีนสไตล์โมร็อกโก ซอสพริกหวานของไทยเป็นเครื่องปรุงที่ดีที่สามารถใช้เป็นเครื่องจิ้มหรือหมัก ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้ประโยชน์จากเอกลักษณ์เฉพาะของผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพื่อสร้างสรรค์อาหารใหม่ๆ ที่ดึงดูดใจผู้บริโภค
หนึ่งในความท้าทายของการส่งออกอาหารไทยไปยังโมร็อกโกคือการขาดความตระหนักในอาหารไทยในหมู่ผู้บริโภค ซึ่งส่วนใหญ่คุ้นเคยกับรสชาติแบบดั้งเดิม และการแนะนำอาหารใหม่ๆ อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ผู้ส่งออกจะต้องสร้างโปรแกรมการรับรู้เพื่อแนะนำอาหารไทย การฝึกอบรมเชฟเกี่ยวกับเทคนิคการทำอาหารไทยและการนำเครื่องเทศไทยมาผสมผสานกับอาหารโมร็อกโกก็จะเป็นประโยชน์เช่นกัน
ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือการขาดเครือข่ายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารไทย ผู้ส่งออกไทยจะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้าปลีกเพื่อสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้ สามารถเสนอสิ่งจูงใจ เช่น ข้อเสนอเบื้องต้น ตัวอย่างฟรี และการสนับสนุนด้านการตลาดเพื่อกระตุ้นให้ผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้าปลีกชาวโมร็อกโกสต็อกผลิตภัณฑ์ของตน ผู้ส่งออกไทยจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของตนเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารของโมร็อกโก
การส่งออกอาหารไทยไปยังโมร็อกโกถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทย รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยมีศักยภาพที่จะเป็นที่นิยมในโมร็อกโก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกไทยจะต้องเอาชนะความท้าทายหลายประการ ซึ่งรวมถึงการขาดความตระหนักในอาหารไทยในหมู่ผู้บริโภคชาวโมร็อกโก การขาดเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่มั่นคง และความจำเป็นในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์จากไทยเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารของโมร็อกโก โดยควรทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำเข้า ในด้านกฎระเบียบทางการค้ารวมถึงศึกษาความนิยมของผู้บริโภคในการเปิดตลาดโมร็อกโก
[1] https://www.statista.com/outlook/cmo/food/morocco
[2] https://www.fitchsolutions.com/food-drink/solid-growth-moroccos-food-services-sector-supported-rising-wages-and-strong-investment-26-01-2022
[3] http://fic.nfi.or.th/mena/index.php/morocco/moroc-channels
——————————————–
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)