นาย Chirs Lim ประธานสมาคมแฟรนไชส์ฟิลิปปินส์ (Philippine Franchise Association: PSA) เปิดเผย ในระหว่างการจัดงานแสดงสินค้า Franchise Asia Philippines Expo ว่าแบรนด์แฟรนไชส์ต่างประเทศจะมีส่วนแบ่งตลาดในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นอีกในไม่กี่ปีข้างหน้าจากความต้องการเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์ เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากฟิลิปปินส์เป็นตลาดขนาดใหญ่ ประชากรพูดภาษาอังกฤษได้ และฟิลิปปินส์เป็นประตูสู่เอเชียนอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงศักยภาพในการจัดงานแสดงสินค้า Franchise Asia Philippines Expo และการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่คู่ขนานสองการประชุมระหว่างสมาพันธ์แฟรนไชส์แห่งเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Franchise Confederation: APFC) และสภาแฟรนไชส์โลก (World Franchise Council: WFC) ซึ่งถือเป็นความพยายามที่จะช่วยดึงดูดแบรนด์แฟรนไชส์ระดับนานาชาติเข้ามาในประเทศมากขึ้น โดยภายในงานปีนี้ มีแบรนด์แฟรนไชส์ต่างชาติเข้าร่วมคิดเป็นร้อยละ 20 ของผู้แสดงสินค้าทั้งหมดจากกว่า 35 ประเทศ ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงความสนใจจากแบรนด์ แฟรนไชส์ต่างประเทศ ประธานสมาคม PSA ระบุว่าแบรนด์ต่างประเทศในตลาดฟิลิปปินส์จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต โดยคาดว่าอาจจะเติบโตสูงถึงร้อยละ 30 หรือมากกว่าและคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มมากขึ้นซึ่งไม่ใช่สาเหตุจากแบรนด์แฟรนไชส์ท้องถิ่น หดตัว แต่เนื่องจากมีพื้นที่ของตลาดที่ใหญ่มากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อถูกถามว่าประเทศใดที่แสดงความสนใจในการเข้าขยาย แฟรนไชส์ในฟิลิปปินส์มากที่สุด ประธานสมาคม PSA ระบุว่าประเทศส่วนใหญ่มาจากเอเชีย โดยประเทศเกาหลีใต้นับเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ และประเทศไทย รวมทั้งยังมีแบรนด์จากประเทศสิงคโปร์และไต้หวันที่ต้องการเข้ามาในฟิลิปปินส์เช่นกัน
ประธานสมาคม PFA กล่าวเพิ่มเติมว่าด้วยประชากรวัยหนุ่มสาวของประเทศเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งในการดึงดูด แบรนด์แฟรนไชส์ระดับนานาชาติเข้ามาในประเทศ โดยฟิลิปปินส์มีประชากรกว่า 100 ล้านคน และอยู่ในวัยหนุ่มสาวอายุเฉลี่ยเพียงประมาณ 24 ปี และสามารถใช้ภาษาอังกฤษ ดังนั้น จึงทำให้แบรนด์แฟรนไชส์ต่างชาติมองเห็นว่าตลาดฟิลิปปินส์จะมีลูกค้าในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามถึงความท้าทายที่แบรนด์แฟรนไชส์ต่างประเทศต้องเผชิญเมื่อเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์ ประธานสมาคม PFA ระบุว่าการมองหาพันธมิตร ในท้องถิ่นและการปรับผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับตลาดฟิลิปปินส์สามารถช่วยลดความท้าทายได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ Philippine Star
บทวิเคราะห์/ข้อคิดเห็น
– อุตสาหกรรมแฟรนไชส์ในฟิลิปปินส์นับเป็นภาคส่วนที่มีการขยายตัวอย่างโดดเด่นและกลายเป็นกำลังสำคัญในระบบเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่องทำให้ฟิลิปปินส์ได้รับการขนานนามว่า เป็นศูนย์กลางแฟรนไชส์ แห่งเอเชีย (The Franchising Hub in Asia) นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังถือเป็นตลาดแฟรนไชส์ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก และเป็นหนึ่งในตลาดแฟรนไชส์ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอุตสาหกรรมแฟรนไชส์ฟิลิปปินส์มีมูลค่ารวม 6.05 แสนล้านเปโซ คิดเป็นร้อยละ 7.8 ของผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ มีส่วน สร้างงาน 2 ล้านงานทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งนี้ อุตสาหกรรมแฟรนไชส์ในฟิลิปปินส์เริ่มมีการเติบโตอย่างโดดเด่นและเป็นที่นิยมในช่วง 10 กว่าที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีจำนวนแฟรนไชส์อยู่ประมาณ 2,000 แห่ง จากเพียงประมาณ 50 แห่งในปี 2538 ซึ่งครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจอาหาร การค้าปลีกและบริการ โดยแบ่งเป็นแฟรนไชส์ต่างชาติคิดเป็นร้อยละ 34 และแฟรนไชส์ท้องถิ่น (Local Franchise) ร้อยละ 66 นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา การทำธุรกิจแฟรนไชส์ในฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีอัตราประสบความสำเร็จที่สูงถึงร้อยละ 90 ซึ่งดีกว่าธุรกิจค้าปลีกที่มีอัตราสำเร็จเพียงร้อยละ 25 เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อย จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่มีจำนวนผู้ประกอบการจำนวนมากสนใจและต้องการเข้าสู่ตลาดแฟรนไชส์ โดย ประเภทธุรกิจแฟรนไชส์ที่เป็นที่นิยมในฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ
– อุตสาหกรรมแฟรนไชส์ในฟิลิปปินส์จึงเป็นหนึ่งในตลาดที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการจะขยายธุรกิจแฟรนไชส์ ไปยังตลาดต่างประเทศ โดยแบรนด์แฟรนไชส์จากประเทศไทยได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี และ มีจำนวนธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยเข้ามาขยายตลาดฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง เช่น ร้านชาตรามือ ร้านชาเสือพ่นไฟ ร้าน Nara Thai และร้าน Greyhound เป็นต้น สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจขยายตลาดแฟรนไชส์สู่ฟิลิปปินส์ กุญแจสำคัญที่จะช่วยนำไปสู่ความสำเร็จ คือ การมีพันธมิตรท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสถานที่ตั้งหรือทำแลที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการไทย ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ โดยผู้ประกอบการไทยควรร่วมกับพันธมิตรในการจัดทำแผนการตลาด เชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์นิยมติดตามเทรนด์ต่างๆ ผ่านโซเซียลมีเดียและสื่อโฆษณาอื่นๆ ทำให้แฟรนไชส์ชาวฟิลิปปินส์มักนิยมลงทุนในแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ในฟิลิปปินส์อยู่แล้ว หากแบรนด์ไม่เป็นที่รู้จักในฟิลิปปินส์จะต้องลงทุนมากขึ้นในการสร้างการรับรู้ถึงเบรนด์และพันธมิตรในท้องถิ่นอาจคาดหวังกับการลงทุนจำนวนมากจากเงินทุนจากแฟรนไชส์ต่างประเทศ รวมถึง ควรการคำนึงถึงการพัฒนาฐานลูกค้าที่มั่นคงซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความต่อเนื่องทางธุรกิจด้วย
——————————————————
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา
17 พฤศจิกายน 2566
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)