หน้าแรกTrade insight > แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไต้หวันโชว์รายได้กว่า 1,100 ล้านบาทผ่านการไลฟ์สดเพียง 8 เดือน

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไต้หวันโชว์รายได้กว่า 1,100 ล้านบาทผ่านการไลฟ์สดเพียง 8 เดือน

กลุ่ม Eastern Multimedia Group ซึ่งเป็นผู้บริหารแพลตฟอร์ม ET Mall หนึ่งในสี่แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซชั้นนำของไต้หวัน ได้ประกาศความสำเร็จจากการทดลองเปิดการไลฟ์สดขายสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก EHS. Channel 5 ซึ่งได้ทดลองออกอากาศมา 8 เดือน โดยมีตลาดหลักคือไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ มาเลเซียและสิงคโปร์ ว่า สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1,100 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้จะสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท โดยทางกลุ่มได้ตั้งเป้าหมายสำหรับปีหน้าไว้ว่าจะทำยอดขายให้ได้ 10,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา Eastern Multimedia Group ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวช่อง EHS. Channel 5 อย่างเป็นทางการ นายหวังลิ่งหลิง ประธานกลุ่ม Eastern Multimedia Group ชี้ว่า ผู้บริโภคในตลาดผู้ใช้ภาษาจีน เช่น ไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ สิงคโปร์ ต่างมีกำลังซื้อในระดับสูง การไลฟ์สดขายสินค้าในไต้หวัน 2 ชั่วโมงสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 11 ล้านบาท ส่วนตลาดสิงคโปร์สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 16 ล้านบาทจากการไลฟ์สด 2 ชั่วโมงเช่นกัน ในขณะที่ตลาดจีนสามารถขายได้ถึง 550 ล้านบาทจากการไลฟ์สดใน 3 แคมเปญในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีผู้ชมมากกว่า 10 ล้านคน พร้อมนี้ นายหวังฯ ยังชี้ว่า การไลฟ์สดขายสินค้าของแพลตฟอร์มออนไลน์ ถือเป็นแนวโน้มหลักของโลกในปัจจุบัน โดยเห็นว่า จำนวนสมาชิกเคเบิลทีวีในไต้หวัน ลดจาก 6.6 ล้านครัวเรือนในปี 2537 เหลือเพียง 4.6 ล้านครัวเรือนในปีนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ชมที่เคยรับชมผ่านทางโทรทัศน์ในแบบเดิมกำลังลดลงเรื่อยๆ และเปลี่ยนมารับชมผ่านช่องทางออนไลน์แทน โดยการไลฟ์สดมีข้อดีคือ ทางรายการสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ทันทีผ่านการโพสต์ข้อความ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็น หรือซักถามรายละเอียดที่สนใจ ไม่เหมือนกับการรับชมทางโทรทัศน์ที่เป็นการสื่อสารทางเดียว ทำให้มีความน่าสนใจมากกว่า อีกทั้งกลุ่มผู้บริโภคมิได้มีเพียงกลุ่มวัยรุ่น หากแต่ยังครอบคลุมถึงกลุ่มวัยทำงานที่อายุ 45 ปีขึ้นไปด้วย ทำให้ครอบคลุมตลาดได้ในวงกว้างมากกว่า พร้อมชี้ว่า ขณะนี้ การไลฟ์สดขายสินค้ากำลังเป็นที่นิยมในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก ตลาดมีการขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ การที่กลุ่ม Eastern Multimedia Group มีสื่ออยู่ในมือ เช่น เว็บข่าว ETtoday ที่มีจำนวนผู้เข้าชมจากทั่วโลกวันละประมาณ 18 ล้านครั้ง รวมถึง ET Mall ที่มี TV Shopping จำนวน 5 ช่อง และเป็นแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซชื่อดัง อีกทั้ง ทางกลุ่มยังมีบริษัทลูกที่สามารถจัดการด้านการบริหารคำสั่งซื้อ โลจิสติกส์ การชำระเงิน บริการหลังการขาย รวมถึงบริการหลังบ้าน เช่น ระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning) การจัดการคำสั่งซื้อและสินค้าคงคลัง โดยนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาใช้งาน ผู้ขายจึงไม่ต้องกังวลเรื่องบริการหลังการขายรวมถึงการคืนสินค้า ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่เคยมีในตลาดของการไลฟ์สดขายสินค้ามาก่อน ทำให้สามารถบูรณาการทรัพยากรในกลุ่มมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ จึงหวังว่า EHS. Channel 5 จะสามารถนำสินค้าและแบรนด์ต่างๆ รวมถึงเหล่า Supplier และ Streamer ให้เข้าถึงตลาดผู้ใช้ภาษาจีนที่มีถึง 1,500 ล้านคนทั่วโลกได้

นอกจากนี้ Eastern Multimedia Group ยังเห็นความสำคัญของการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด ซึ่งจะมีการลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาทในการจัดตั้งสถาบันฝึกอบรม Streamer เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด โดยคาดว่าจะสามารถสร้าง Streamer  รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพได้มากกว่า 3,000 คนเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดไลฟ์สดขายสินค้าต่อไป

ที่มา : United Daily News / ETtoday / Commercial Times (October 3, 2023)

ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.

จากข้อมูลของ Mirai Business Research Institute ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านเศรษฐกิจของภาคเอกชนไต้หวันชี้ว่า มูลค่าค้าปลีกของไต้หวันในปี 2565 มีมูลค่ารวมมากกว่า 4.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 7.43 ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นการขยายตัวในสัดส่วนที่มากที่สุดตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา โดยการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 ของมูลค่าค้าปลีกรวม และประมาณการมูลค่าซื้อขายสินค้าผ่านการไลฟ์สดอยู่ที่ประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี จึงถือเป็นช่องทางการค้าที่มีศักยภาพสูง และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการไทยในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคจึงสามารถใช้การไลฟ์สดเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคในตลาดที่ใช้ภาษาจีนได้ แต่สำหรับผู้ที่สนใจเข้าทำตลาดในตลาดผู้ใช้ภาษาจีน อาจต้องจัดเตรียมบุคลากร / Streamer ที่พูดภาษาจีนได้ทั้งนี้ การขายสินค้าผ่านการไลฟ์สดของ EHS. Channel 5 ต้องติดต่อผ่านบริษัทที่มีการจดทะเบียนในไต้หวันเท่านั้น

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login