ธนาคารแห่งชาติเช็ก (Czech National Bank : CNB) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานไว้ที่ร้อยละ 7 ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ นายโทมาส คูเดลา นักวิเคราะห์จาก SAB Finance ระบุว่า ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ค่อย ๆ ชะลอตัวลง ทำให้ธนาคารฯ ยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยหลักที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บโดยธนาคารแห่งชาติเช็กเมื่อให้เงินกู้ยืมระยะสั้นแก่ธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารที่เรียกเก็บจากการให้เงินกู้แก่ธนาคาร โดยยังคงไว้ที่อัตราเดิม คือร้อยละ 8 และร้อยละ 6 ตามลำดับ ทั้งนี้ การปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของธนาคารแห่งชาติเช็กมีขึ้นเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2565 โดยปรับขึ้นจากร้อยละ 5.75 เป็นร้อยละ 7
ธนาคารแห่งชาติเช็กระบุว่า การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในอัตราเดิมที่ร้อยละ 7 แทนการลดอัตราดอกเบี้ยนั้น เพื่อป้องกันการผันผวนของค่าเงินสกุลเช็กคราวน์ต่อไป โดยขณะนี้อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินเช็กคราวน์มีการซื้อขายอยู่ที่ 1 ยูโร ต่อ 23.76 เช็กคราวน์ ซึ่งดีกว่าเมื่อช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 1 ยูโร ต่อ 24.7 เช็กคราวน์ หลังจากที่ค่าเงินเช็กคราวน์แข็งค่าขึ้นอยู่ที่ 23.3 เช็กคราวน์ ต่อ 1 ยูโร
หากธนาคารแห่งชาติเช็กปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พื้นฐาน ธนาคารพาณิชย์จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้การกู้ยืมเงินของผู้บริโภคมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และทำผู้คนมีแนวโน้มออมเงินมากขึ้น ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่สูงขึ้นสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น ในทางกลับกัน อัตราดอกเบี้ยฐานที่ต่ำกว่าจะทำให้มีการกู้ยืมและการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นแต่อาจจะทำให้เงินอ่อนค่าลงเนื่องจากสกุลเงินเช็กคราวน์จะน่าสนใจลดน้อยลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส Martin Gürtler จาก Komer
ční banka ระบุว่าในสิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยน่าจะลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.25 เนื่องจากธนาคารแห่งชาติเช็กได้ทำนายอัตราเงินเฟ้อว่าจะอยู่ที่เลขหลักเดียวในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 โดยคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเดือนกันยายน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 11 ซึ่งธนาคารแห่งชาติเช็กคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับร้อยละ 2 ได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ซึ่งหวังว่าธนาคารแห่งชาติเช็กจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับปัจจุบัน
ข้อเสนอแนะ/แนวทาง/โอกาส
จากการตัดสินใจล่าสุดโดยธนาคารแห่งชาติเช็กที่ให้คงอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานไว้ที่ร้อยละ 7 ทำให้เห็นแนวโน้มตลาด ว่าในช่วงถัดไป การบริโภคภายในประเทศจะยังคงไม่ขยายตัวมากนัก เนื่องจากผู้บริโภคยังต้องการลดการใช้จ่ายอย่างน้อยที่สุดในช่วงไตรมาสที่ 4 อย่างไรก็ดีปัจจัยบวกสำหรับเศรษฐกิจเช็กในภาพรวมยังคงมีอยู่ โดยมีแนวโน้มว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มเห็นว่าการลงทุนในช่วงนี้น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ระดับเดิม ซึ่งการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติจะทำให้ภาคธุรกิจในเช็กเริ่มมีความคึกคักและมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น
สำหรับสินค้ากลุ่มอาหาร คาดว่าจะในช่วงครึ่งปีหลังจะมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยปริมาณความต้องการสินค้าจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงฤดูร้อน ประกอบกับธุรกิจการท่องเที่ยวตลอดจน Food Service ทำให้กลุ่มธุรกิจ HORECA เริ่มมีความคึกคักขึ้นในช่วงฤดูร้อนต่อเนื่องไปจนถึงปลายปีที่เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลฉลองเทศกาล
คริสต์มาส ผู้ประกอบการไทยควรติดตามข้อมูลเศรษฐกิจการค้าของตลาดเป้าหมายโดยเตรียมความพร้อมในการวางแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อตอบสนองกับสภาวะตลาดที่ยังคงต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังคงค่อนข้างสูงไปจนถึงสิ้นปีนี้
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)