การบริโภคสแน็คบาร์ และขนมขบเคี้ยวจากผลไม้ในประเทศเยอรมนีมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจและใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น และมองหาขนมที่พกพาสะดวก อุดมไปด้วยโภชนาการที่ร่างกายต้องการ และรสชาติดี หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของขนมสแน็กบาร์ คือ การเพิ่มขึ้นของความนิยมบริโภคอาหารจากพืชและเน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ผู้บริโภคจำนวนมากกำลังมองหาขนมที่ปราศจากสารปรุงแต่งหรือสารกันบูด มีส่วนผสมของน้ำตาลและไขมันต่ำ หรือไม่มีน้ำตาลเลย นอกจากนี้พวกเขายังให้ความสนใจกับส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ถั่ว เมล็ดพืช และผลไม้อบแห้ง พร้อมกันนั้น ความต้องการขนมเพื่อสุขภาพที่มีเส้นใยและโปรตีนสูง คาร์โบรไฮเดรตต่ำ แต่ให้พลังงานระหว่างวันสูง ก็กำลังเติบโตไปพร้อมๆกัน
ตั้งแต่เกิดการระบาดของโคโรนาไวรัส ผู้บริโภคส่วนมากเริ่มกังวลและหันมาใส่ใจกับสุขภาพของพวกเขามากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดขนมเพื่อสุขภาพ ผู้บริโภคพิถีพิถันเกี่ยวกับส่วนผสมและสารอาหารในผลิตภัณฑ์มากขึ้น สิ่งนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่ออาหารทดแทนเนื้อสัตว์ แต่ยังรวมไปถึงอาหารเฉพาะกลุ่มด้วย จากผลสำรวจพบว่า มูลค่าการขายขนมเพื่อสุขภาพหรือขนมวีแกน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 มีมูลค่าการขายปลีกที่ 2.4 พันล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 พร้อมกันนั้น การตระหนักถึงหลักความยั่งยืนและสวัสดิภาพสัตว์ ยังส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาสนใจขนมวีแกนเพิ่มขึ้นด้วย
ในบรรดาขนมวีแกนทั้งหมด ขนมวีแกนที่มีรสเค็มนั้นมียอดขายสูงที่สุด การปราศจากกลูเตนและแลคโตส ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อขนมวีแกนชนิดเค็มในประเทศเยอรมนีด้วย เพราะผู้บริโภคต้องการบริโภคอาหารที่ดีและมีโภชนาการต่อสุขภาพ เทรนด์การบริโภคขนมวีแกนยังรวมไปถึงขนมบิสกิตใส้ช็อกโกแลต ที่ผู้ประกอบการทำใส้ช็อกโกแลตวีแกนออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
กลุ่มบริษัท Intersnack Group GmbH & Co KG อย่าง Chio และ Funny ยังคงเป็นผู้นำตลาดขนมวีแกนในประเทศเยอรมนี โดยในปี 2565 มีส่วนแบ่งมูลค่าการขายปลีกร้อยละ 16 ส่วนลำดับถัดมา คือ Uniliver’s Magnum และ Ültje
ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีปริมาณไขมันทรานส์ในอุตสาหกรรมการผลิตมากกว่า 2 กรัมต่อน้ำมัน 100 กรัม ไม่สามารถวางขายในประเทศสหภาพยุโรปได้ ไขมันทรานส์นั้นอันตรายต่อสุขภาพ เพิ่มความเสี่ยงของอาการหัวใจวายและโรคหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบบ่อยที่สุดในสหภาพยุโรป ขณะเดียวกันไขมันทรานส์ยังเป็นตัวเพิ่มค่าคอเลสเตอรอล LDL ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และลดคอเลสเตอรอล HDL ที่ดีต่อสุขภาพด้วย
ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ผู้บริโภคเริ่มมองหาอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทั้งยังช่วยเรื่องสุขภาพกระดูกและข้อต่อ ขนมเพื่อสุขภาพที่ทำมาจากถั่วและเมล็ดพืช จึงได้รับความนิยม ถั่วต่างๆ และเมล็ดพืชนั้นอุดมไปด้วยโปรตีน และเป็นแหล่งวิตามินที่มีประโยชน์ ไม่มีกลูเตน อีกทั้งยังพกพาสะดวก จึงเป็นอาหารทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม หรือผู้ที่ใส่ใจสุขภาพกระดูกและข้อต่อ
ปัจจุบันผู้บริโภคมองหาขนมเพื่อสุขภาพที่ตอบสนองต่อรูปแบบการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ และพกพาสะดวก ยอดขายปลีกขนมที่มีโปรตีนสูงจึงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขนมเหล่านี้มักมีสัดส่วนของโปรตีนสูงกว่าขนมทั่วไป และทำมาจาก ถั่ว เมล็ดพืช ถั่วเหลือง หรือเวย์โปรตีน เป็นต้น ตลาดเป้าหมายของขนมเหล่านี้ คือ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะให้พลังงานสูงและอิ่มนานระหว่างวัน หรือสำหรับผู้บริโภคที่ไม่ต้องการรู้สึกผิดต่อการทานของว่างระหว่างมื้อหลัก สำหรับผู้ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ขนมหรือของว่างที่มีโปรตีนสูงมีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงสูงขึ้นหลังจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาและนี่ยังเป็นเทรนด์ด้านสุขภาพด้วย
หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นของขนมขบเคี้ยวที่มีโปรตีนสูง คือ มันฝรั่งทอด ที่ทำมาจาก ถั่ว ถั่วเลนทิล หรือถั่วชิกพี ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานจากพืชที่มีโปรตีนสูง โดยสินค้าเหล่านี้ถูกว่างขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในเยอรมนี เนื่องจากชาวเยอรมันส่วนมากให้ความสำคัญกับสุขภาพ การบริโภคอาหารที่ดีและมีประโยชน์จึงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และมักเลือกซื้อของว่างหรือขนมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า มีการคาดหวังว่านวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอาหารจะช่วยพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายและเพิ่มมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์วีแกนและผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยมและเติบโตต่อไป เนื่องจากผู้บริโภคชาวเยอรมันสนใจและให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และสวัสดิภาพสัตว์มากขึ้น และผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจสุขภาพด้วย มีการขยายตัวและนำเสนอผลิตภัณฑ์จากพืชในอาหารหลากหลายชนิดในท้องตลาด เช่น ไอศกรีมวีแกน ซึ่งก่อนหน้านี้แทบจะไม่เป็นที่รู้จักหรือรู้จักกันเฉพาะกลุ่ม แต่ปัจจุบันสามารถพบเห็นไอศกรีมวีแกนทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ต เมื่อจำนวนผู้บริโภคมังสวิรัติในประเทศเยอรมนีเพิ่มขึ้น ทั้งผู้บริโภคบางกลุ่มต้องการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนม ไอศกรีมวีแกนจึงเข้ามาเป็นหนึ่งตัวเลือกของผู้บริโภคในปัจจุบัน
ผู้บริโภคเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อให้เหมาะกับพวกเขามากที่สุด เริ่มตระหนักถึงส่วนผสมบางตัวในผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น แลคโตส ที่อาจนำไปสู่การแพ้และส่งผลต่อสุขภาพของพวกเขาได้ สิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากกลูเต็น อย่างสแน็คบาร์ มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปกติแล้วผลิตภัณฑ์อาหารที่ปราศจากกลูเต็นนั้นแพร่หลายในกลุ่มผู้แพ้กลูเต็น แต่ปัจจุบัน ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคหลายคนเชื่อว่ากลูเต็นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกเขา ซึ่งก็เหมือนกับกรณีผู้ที่มีอาการแพ้แลคโตส ก็มองหาผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากแลคโตส ปัญหาด้านสุขภาพจึงเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ขนมของชาวเยอรมัน
ที่มา: Euromonitor International
อ่านข่าวฉบับเต็ม : แนวโน้มตลาดขนมในประเทศเยอรมนี