การเติบโตในตลาดสินค้าข้าวของโลกในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการบริโภคของกลุ่มประเทศในทวีปเอเชีย เช่น จีน และเวียดนาม เป็นต้น นอกจากนี้ จีนและเวียดนามมีแนวโน้มที่จะบริโภคข้าวที่มีมูลค่าสูงขึ้นจากบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีขึ้น
.
ทั้งนี้ แม้ว่าปริมาณการบริโภคข้าวในบางประเทศจะลดลง แต่มูลค่าของสินค้าข้าวที่ผู้บริโภคเลือกซื้อจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในประเทศอินเดีย และประเทศที่พัฒนาแล้วจะบริโภคสินค้าข้าวที่มีมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากประชากรหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น
การบริโภคข้าวในประเทศจีนมีการเติบโตคงที่แต่การบริโภคธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด อาทิ ข้าวฟ่าง (Millet) และข้าวบัควีท (Buckwheat) นอกจากนี้ พบว่า
ร้อยละ 73 ของผู้บริโภคจีนเลือกบริโภคอาหารและเครื่องดื่มพรีเมียมที่ดีต่อสุขภาพ
ร้อยละ 59 เลือกบริโภคอาหารธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพ
ร้อยละ 83 เลือกบริโภคอาหารครบ 5 หมู่ และ
ร้อยละ 39 เลือกบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบพรีเมียม
การบริโภคข้าวในประเทศสหรัฐอเมริกามีการเติบโตลดลง เนื่องจากประชาชนหันไปบริโภคธัญพืชที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น อาทิ ข้าวบัควีท (Buckwheat) ทั้งนี้ การบริโภคข้าวกล้องยังมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต สำหรับสินค้าข้าวที่ได้รับความนิยม มากที่สุด ได้แก่
.
ข้าวเมล็ดยาว (Long Grain Rice) ร้อยละ 59
ข้าวกล้อง (Brown Rice) ร้อยละ 58
ข้าวป่า (Wild Rice) ร้อยละ 39
.
อเมริกายังสนใจรับประทาน Rice Bowls ในร้านอาหารและเลือกรับประทาน Rice Bowls ที่มีส่วนผสมของ คีนัว ข้าวกล้อง และข้าวหอมมะลิมากขึ้น
โอกาสการค้าข้าว ได้แก่
.
การคิดค้นเมนูใหม่ ๆ โดยใช้ข้าวและธัญพืชเป็นส่วนประกอบ เช่น ข้าวผงชงพร้อมดื่ม โจ๊กข้าวผสมธัญพืช (เมนูเพื่อสุขภาพ) และขนมและอาหารว่างเพื่อสุขภาพ
พัฒนาเมนูอาหารแช่แข็งด้วยการใช้วัตถุดิบข้าวและธัญพืชมากขึ้น เช่น อาหารแช่แข็งเพื่อสุขภาพ อาหารเจแช่แข็ง เป็นต้น
ใช้เทคโนโลยีในการผสมข้าวกับวัตถุดิบอื่น ๆ และเปลี่ยนแปลงวิธีที่ทำให้ง่ายต่อการบริโภค เช่น อาหารที่มีข้าวผสมกับธัญพืชที่ให้โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และพลังงานมากกว่าการบริโภคข้าวเพียงอย่างเดียว
ในประเทศสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (เยอรมนี และฝรั่งเศส) การบริโภคข้าวในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ข้าวที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ข้าว Pilau หรือข้าวที่ใช้ประกอบอาหารอินเดีย นอกจากนี้ ประชากรกลุ่มนี้ยังชอบรับประทานอาหารที่มีข้าวผสมธัญพืชเป็นส่วนประกอบ
Bio-Based Products
ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาสนใจกับ
1. แหล่งที่มาของวัตถุดิบและวิธีการผลิต
2. บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
3. สินค้าออแกนิคที่รักษ์โลก
4. ข้าวและพืชจากสถานที่ปลูกที่มีการดูแลอย่างยั่งยืน
ดังนั้น ผู้ผลิตจะต้องให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค และใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
นอกจากข้าวหอมนิล (Black Rice) ที่เป็นที่นิยมในตลาดจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และเยอรมนีแล้ว ประเทศไทยควรส่งเสริมการขายข้าวไรส์เบอรี่ (Riceberry Rice) ด้วยการโฆษณาถึงคุณประโยชน์ที่มีเหมือนกับข้าวกล้องในตลาดต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้เป็นที่นิยมเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
สำหรับสินค้าข้าวในทวีปแอฟริกา เนื่องจากประเทศไนจีเรีย แอฟริกาใต้ และเคนยาสามารถผลิตข้าว fonio ที่เป็นหนึ่งในธัญพืชโบราณที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก
เมื่อเปรียบเทียบคุณประโยชน์ของข้าว fonio กับธัญพืชโบราณชนิดอื่น ๆ เช่น คีนัว และเมล็ดเจีย (Chia seed) ข้าว fonio มีโปรตีน เหล็ก ฟอสฟอรัส และใยอาหารสูงกว่า ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นจุดขายให้กับสินค้าชนิดนี้
สำหรับประเทศที่นิยมบริโภคธัญพืชโบราณในขณะนี้คือสหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร โดยเฉพาะผู้บริโภคอาหารกลูเตนฟรี (Gluten Free) และผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ
.
นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบว่าในปี 2557 – 2560 ผู้บริโภคทั่วโลกนิยมรับประทานคีนัวสูงสุด
.
ร้อยละ 30 คีนัว
ร้อยละ 27 เมล็ดเจีย
ร้อยละ 22 ข้าวฟ่าง
ผู้ผลิตและแปรรูปข้าวของไทยควรให้ความสำคัญต่อการกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคข้าวทั่วโลกให้ชัดเจน เช่น
– ผู้บริโภคต้องการข้าวราคาถูกเน้นปริมาณมาก
– ผู้บริโภคที่เน้นข้าวราคาแพงไม่เน้นปริมาณ หรือ
– ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพนิยมบริโภคข้าวที่ให้คุณประโยชน์เยอะ
ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ผลิตและส่งออกสินค้าข้าวไทยในการเจาะตลาดและเพิ่มยอดขาย