สำนักงานวิเคราห์นโยบายเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ (CPB Netherlands Bureau of Economic Policy Analysis) ได้เผยแพร่บทความวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ล่าสุดว่า เศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากวิกฤตไวรัสโคโรนาและวิกฤตภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มปะทุขึ้น เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์กำลังฟื้นตัวและเติบโตในระดับปานกลาง โดยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ในปี 2567 อยู่ที่ 0.6% และเศรษฐกิจจะมีการเติบโตสูงขึ้นที่ 1.6% ในปี 2568 และคาดการณ์ว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคเนเธอร์แลนด์จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.5 ในปี 2567 และเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 1.1% ในปี 2568 แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคที่สูญเสียไปในช่วงภาวะวิกฤตเงินเฟ้อได้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว และคาดว่าการขาดดุลงบประมาณในปีต่อๆ ไปจะสูงกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ใกล้เคียง 3% ของ GDP
การกลับมาเติบโตทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ภาคครัวเรือนมีเงินที่จะสามารถใช้จ่ายได้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราค่าจ้างที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างมาก นอกจากนี้ การส่งออกยังขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการค้าโลกเริ่มฟื้นตัวเช่นกัน แม้ว่าการเติบโตของ GDP ในปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.6% ยังคงแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยในไตรมาสที่ผ่านมา แต่สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเริ่มชัดเจนมากขึ้นในปี 2568 ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ที่ 1.6%
เนเธอร์แลนด์มีการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างปีละ 2 ครั้ง ในช่วงต้นปีและกลางปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อค่อยๆ ปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ แต่ก็มีการกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในบางช่วง โดยอัตราเงินเฟ้อของเนเธอร์แลนด์เดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 3.6% ซึ่งคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2567 จะอยู่ที่ 3.6% และในปี 2568 อัตราเงินเฟ้อจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.2% แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับเป้าหมาย แต่การเติบโตของอัตราค่าจ้างที่สูงเป็นการช่วยวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการฟื้นตัวของกำลังซื้อในปี 2567 และปี 2568 โดยในปี 2567 กำลังซื้อเฉลี่ยของผู้บริโภคทุกกลุ่มเพิ่มขึ้น 2.5% ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคที่ทำงานจะได้รับประโยชน์และมีกำลังซื้อมากกว่าผู้ที่ได้รับเงินบำนาญหรือเงินช่วยเหลือรายได้ และในปี 2568 กำลังซื้อเฉลี่ยของผู้บริโภคทุกกลุ่มจะเพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มที่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการของรัฐจะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นสูงกว่ากลุ่มผู้บริโภคที่ทำงาน
บทวิเคราะห์และความเห็นของ สคต.
แม้ว่าการคาดการณ์สถานการณ์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคจะเป็นข่าวดีในระยะสั้น แต่สถานการณ์เกี่ยวกับการเงินสาธารณะของเนเธอร์แลนด์อาจไม่ดีเหมือนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อ การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากรายจ่ายเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายรับ โดยการขาดดุลงบประมาณในปี 2567 จะอยู่ที่ -2.2% และจะเพิ่มขึ้นเป็น -2.6% ในปี 2568 ทั้งนี้ การคาดการณ์หนี้สำหรับแผนโครงสร้างการคลังของเนเธอร์แลนด์แสดงให้เห็นว่าหนี้ของเนเธอร์แลนด์อาจเพิ่มสูงขึ้นถึง 70% ของ GDP ในปี 2581 ซึ่งตัวเลขหนี้นี้ยังไม่ได้มีการคำนวณต้นทุนที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศเพิ่มเติมเมื่อกองทุนสภาพภูมิอากาศที่มีอยู่หมดอายุลงในปี 2573
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ทั้งหมดนี้เป็นพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของรัฐบาลสำหรับการจัดทำงบประมาณแห่งชาติประจำปี 2568 ซึ่งจะมีการแถลงและเผยแพร่ในวันงบประมาณ (The Anuual Budget Day) ในวันที่ 17 กันยายนนี้
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเฮก
อ่านข่าวฉบับเต็ม : เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์และกำลังซื้อของผู้บริโภคฟื้นตัวอีกครั้ง
