เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา momo หนึ่งใน Top 3 แพลตฟอร์มอี-คอมมิร์ซชื่อดังของไต้หวัน ได้เผยตัวเลขยอดขายสินค้าสัตว์เลี้ยง โดยยอดขายสินค้าที่เกี่ยวข้องบนแพลตฟอร์มของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งขยายตัวเกือบร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า พร้อมชี้เทรนด์ที่น่าสนใจ 2 ด้านสำหรับสินค้าสัตว์เลี้ยงในปีนี้ คือ ในด้านการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง และ การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแบบอัจฉริยะ
ปัจจุบันชาวไต้หวันหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยอดสะสมของจำนวนการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมวในไต้หวันรวมทั้งสิ้นมากกว่า 2 ล้านตัว ในปี 2565 มีมูลค่าตลาดของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงของไต้หวัน คิดเป็นมูลค่ารวมสูงถึงประมาณ 42,900 ล้านบาท (กระทรวงการคลังไต้หวัน) ทำให้ momo เห็นโอกาสทางธุรกิจและหันมาบุกเบิกตลาดด้วยการนำสินค้าสัตว์เลี้ยงมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงจำหน่ายอยู่มากกว่า 70,000 รายการ ครอบคลุมอาหารสัตว์เลี้ยง เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์สำหรับการพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน โดยมีบริการส่งสินค้าถึงบ้าน อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักสูงได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 3 ปีมานี้ ยอดขายสินค้าสัตว์เลี้ยงในแต่ละเดือนมีอัตราการขยายตัวเป็นเลขสองหลักมาโดยตลอด ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ (2566) ก็มีการขยายตัวถึงร้อยละ 40 โดย momo ยังชี้ว่า ปัจจุบัน ผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงในไต้หวันจะให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว จึงยินดีที่จะจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง เป็นผลให้คุณภาพชีวิตของเหล่าสัตว์เลี้ยงในไต้หวันได้รับการยกระดับให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยสินค้าดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงและการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแบบอัจฉริยะ มีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้น เช่น เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ เครื่องดื่มน้ำอัตโนมัติ รวมถึงปลอกคออัจฉริยะ ที่สามารถระบุตำแหน่งและตรวจวัดข้อมูลด้านสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
นอกจากนี้ momo ยังประกาศการจัดอันดับผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดขายดี ซึ่งสินค้าที่ติดอันดับ 1 และ 2 ซึ่งมียอดขายรวมกันมากกว่าร้อยละ 35 ของสินค้าในประเภทนี้ ต่างก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นความเป็นมิตรต่อท้องทะเล เนื่องจากแนวคิดเกี่ยวกับการร่วมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมได้กลายมาเป็นกระแสนิยมในหมู่ผู้บริโภคในไต้หวันไปแล้ว
ทั้งนี้ นอกจากแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซแล้ว momo ยังมีช่องทางการตลาดที่เป็นธุรกิจในเครืออีกหลายอย่าง ทั้งในส่วนของ TV Shopping และการขายตรงผ่านแคตาลอค โดยผลประกอบการในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีรายได้รวมประมาณ 10,208 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขประจำเดือนมิถุนายนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ มีการขยายตัวจากช่วงเดียวกันนของปีก่อนหน้าร้อยละ 4.6 โดยรายได้จากแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซมีการขยายตัวร้อยละ 5.7 จากเดือนมิถุนายน 2565 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 96.5 ของรายได้ทั้งหมด โดยที่รายได้รวมในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าประมาณ 56,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ร้อยละ 6.8 และถือเป็นตัวเลขช่วง 6 เดือนแรกที่สูงที่สุดเท่าที่เคยเก็บสถิติมา
ที่มา: China Times / Economic Daily News (July 13, 2023)
ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.
ไทยเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าอาหารสุนัขหรือแมวที่สำคัญอันดับ 1 ของไต้หวัน โดยมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 37 ของการนำเข้าอาหารสุนัขและแมวทั้งหมดของไต้หวัน ในขณะเดียวกัน การเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นเพื่อนในไต้หวันก็มีแนวโน้มสูงขึ้นตามสภาพสังคมผู้สูงอายุรวมถึงอัตราการแต่งงานและมีบุตรที่ลดน้อยลง ประกอบกับประชากรมีรายได้ต่อหัวต่อคนสูงที่สุดในเอเชียตะวันออก จึงทำให้ไต้หวันเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย ล่าสุดหน่วยงานไต้หวันก็ได้ประกาศผ่อนคลายความเข้มงวดของกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าอาหารสุนัขและแมว โดยลดขอบเขตสินค้าที่ต้องควบคุมหรือจัดระเบียบการนำเข้า ส่งผลให้สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนสูง เช่น อาหารกระป๋อง หรืออาหารแห้งฉีดอัดเป็นเม็ด ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปเม็ดหรือแคปซูล ที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์ดั้งเดิมจากโรงงาน ไม่เป็นสินค้าที่ต้องควบคุม อันจะทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีส่วนผสมจากเนื้อสัตว์ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูงและบรรจุในบรรจุภัณฑ์มิดชิดไปไต้หวันโดยไม่มีข้อจำกัด จึงส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)