หน้าแรกTrade insightอุตสาหกรรมอื่นๆ > เทศกาลลดราคาหน้าร้อนในฝรั่งเศสเริ่มต้นขึ้นด้วยบรรยากาศซบเซา

เทศกาลลดราคาหน้าร้อนในฝรั่งเศสเริ่มต้นขึ้นด้วยบรรยากาศซบเซา

  • เทศกาลลดราคาหน้าร้อนในฝรั่งเศสปี 2023 นี้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนต่อเนื่องถึงวันที่ 25 กรกฎาคม  นาย Gildas Minville ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจเศรษฐกิจของสถาบันแฟชั่นแห่งชาติฝรั่งเศส –  IFM (Institut Français de la mode)  กล่าวว่าสถานการณ์เศรษฐกิจฝรั่งเศสในปัจจุบันส่งผลให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลงและลดความสำคัญในการจับจ่ายสินค้าเครื่องนุ่งห่ม    ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อผลประกอบการของตลาดสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในเทศกาลลดราคาครั้งนี้  นอกเหนือจากนั้น การที่สินค้าลดราคาพิเศษสามารถหาซื้อได้ตลอดทั้งปีมีผลให้เทศกาลลดราคาครั้งใหญ่ซึ่งจัดขึ้นปีละสองครั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อนหมดความสำคัญลง    อย่างไรก็ตาม ตลาดสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในฝรั่งเศสจำเป็นต้องพึ่งผลประกอบการในช่วงเทศกาลลดราคาเพื่อช่วยให้สถานการณ์โดยรวมของผู้ประกอบการดีขึ้น

ผลสรุปจากแบบสอบถามผู้บริโภคของบริษัทการตลาด Ifop ซึ่งทำให้กับบริษัทค้าปลีกสินค้าแฟชั่นออนไลน์ Spartoo สามารถสรุปได้ว่า

  • ผู้บริโภคฝรั่งเศสร้อยละ 27 วางแผนงดการจับจ่ายสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในช่วงเทศกาลลดราคาในปี 2023
  • ผู้บริโภคร้อยละ 29 ลดงบประมาณในการจับจ่ายสินค้าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

นาย Yahann Petiot ผู้อำนวยการทั่วไปของสมาพันธ์ผู้ประกอบการค้าปลีก (Alliance du commerce) ซึ่งมีสมาชิกเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น Galeries Lafayette, Bon Marché ฯลฯ, จนถึงแบรนด์เสื้อผ้าและรองเท้าอีกกว่า 600 แบรนด์ กล่าวว่าในช่วงเวลานี้ผู้ประกอบการสินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มจำเป็นต้องใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคออกมาใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น   โดยอาจใช้นโยบายปรับลดราคาเป็นพิเศษเพิ่มขึ้นจากระดับที่ลดราคาโดยปกติเพื่อช่วยโน้มน้าวให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าให้ได้มากที่สุด   เนื่องจากตัวเลขยอดขายสินค้าเสื้อผ้าตั้งแต่ในช่วงต้นฤดูกาลก่อนเทศกาลลดราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น     ซึ่งเกิดจากปัญหาหลายประการที่ผู้ประกอบการสินค้าเสื้อผ้าในฝรั่งเศสต้องเผชิญในปัจจุบัน  ได้แก่

  • ปัญหาจากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ จากภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้สินค้าราคาแพง
  • ราคาต้นทุนในการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ทั้งวัตถุดิบและราคาพลังงาน
  • ปัญหาสะสมตั้งแต่สถานการณ์โควิดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่าสามปี
  • การเติบโตอย่างต่อเนื่องของสินค้าออนไลน์และสินค้ามือสองตั้งแต่สถานการณ์โควิด เข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มมากขึ้น

ในปลายปี 2022  แบรนด์เสื้อผ้า Camaieu ปิดตัวลงอย่างฉับพลันส่งผลให้มีการปลดพนักงานโดยทันทีถึง 2,100 คน  เป็นสัญญาณเตือนเริ่มแรกถึงวิกฤตตลาดสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในฝรั่งเศส  โดยภายหลังจากนั้นมีอีกหลายแบรนด์ที่ปิดตัวตามมา ได้แก่ แบรนด์รองเท้า San Marina, André   แบรนด์เสื้อผ้าสำเร็จรูป Kookai, Burton of London และ Gap ฝรั่งเศส   ล่าสุดแบรนด์ Don’t Call Me Jennifer ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก Jennifer ได้เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ในชั้นศาล

ความเห็น สคต.

ผลประกอบการสินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มตลาดฝรั่งเศสปี 2022 คิดเป็นมูลค่า 26,000 ล้านยูโรเพิ่มขึ้นจากปี 2021 ร้อยละ 3.9 แต่ยังคงต่ำกว่าในปี 2019  (ปีที่ใช้เป็นตัวเลขอ้างอิงก่อนสถานการณ์โควิด) คิดเป็นมูลค่า 27,800 ล้านยูโร    สมาพันธ์ผู้ประกอบการค้าปลีก  Alliance du Commerce กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มในปี 2023 ไว้ว่า ผู้ประกอบการยังคงต้องเตรียมรับสถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า    ดังนั้นในช่วงระหว่างนี้ก่อนที่สถานการณ์เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะปรับตัวดีขึ้น เหมาะจะเป็นช่วงเวลาให้ผู้ประกอบการเตรียมปรับตัวและเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ  โดยเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมของแบรนด์และองค์กร ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อให้รองรับ กฎหมายว่าด้วยการลดการกำจัดขยะและของเสียเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนของฝรั่งเศส – AGEC 2020 (Anti-Gaspillage-Economie-Circulaire) ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้กับผู้ประกอบการสินค้าเครื่องนุ่งห่มที่มีผลประกอบการตั้งแต่ 50 ล้านยูโรเป็นต้นไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 และผู้ประกอบการที่มีผลประกอบการตั้งแต่ 10 ล้านยูโรเป็นต้นไปมีผลบังคับใช้ในปี 2025  ใจความสำคัญของกฏหมายฉบับนี้  ได้แก่  การยกเลิกการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง   ผู้ประกอบการต้องให้ข้อมูลการผลิตที่โปร่งใสกับผู้บริโภค  ลดปริมาณขยะตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตและให้นำวัสดุกลับมาใช้หมุนเวียน โดยไม่อนุญาตให้มีการทำลายสินค้าที่เหลือจากการขายทุกชนิดนอกจากสินค้าอาหารเท่านั้น และ ลดการผลิตสินค้าที่มีกำหนดอายุการใช้งานของสินค้าโดยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อให้สินค้าใช้งานได้นานมากขึ้น 

นอกเหนือจากนั้นทาง Alliance du Commerce ยังแนะนำให้ผู้ประกอบการพัฒนาในด้านอื่นๆเพิ่มเติมซึ่งจะเป็นประโยชน์ในอนาคต ได้แก่ การจัดฐานข้อมูลการผลิตเพื่อให้มีความโปร่งใสซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดในกฎหมาย AGEC  การตกแต่งร้านใหม่เพื่อช่วยลดระดับการใช้พลังงานหรือหันมาใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้น,  และลงทุนในด้านดิจิทัล (ไซเบอร์ซีเคียวริตี้, การตลาดออนไลน์ และพัฒนาด้านระบบการขนส่ง ฯลฯ) และอาจปรับแผนการตลาดให้มีการขายสินค้ามือสองของแบรนด์  ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้ผู้ประกอบการสินค้าเครื่องนุ่งห่มของไทย สามารถนำมาปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน และหากสามารถทำได้จะช่วยให้การส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่มมายังฝรั่งเศสและสหภาพยุโรปเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากตอบรับกับความต้องการและข้อกำหนดที่เป็นพื้นฐานของสินค้าแฟชั่นเพื่อความยั่งยืนของฝรั่งเศส

ที่มา :

AFP

ข่าวออนไลน์ หนังสือพิมพ์ Les Echos

https://www.lesechos.fr/industrie-services/conso-distribution/les-soldes-demarrent-dans-un-contexte-morose-1956615

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login