โรคอ้วนถือเป็นหนึ่งใน 10 โรคเรื้อรังที่ถูกระบุโดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ซึ่งไม่เพียงแต่ทําให้เกิดโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด ฯลฯ แต่ยังนําไปสู่การที่ความดันกระดูกมากเกินไป และส่งผลต่อข้อต่อทั่วร่างกาย โดยปัจจุบัน พบว่ามีประชากรทั่วโลกรวมเกือบ 2,000 ล้านคนที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 2.8 ล้านคนต่อปี จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานได้ทำการวิเคราะห์วิจัยถึงตลาดอุตสาหกรรมลดน้ำหนัก และแนวโน้มการลงทุนและพัฒนาของอุตสาหกรรมลดน้ำหนัก เช่นเดียวกับสถาบันวิจัย Puhua ของจีนที่ได้ทำการวิจัยและจัดทำรายงาน China Weight Loss Industry Market In-depth Research (ค.ศ. 2023 – 2028) โดยมีผลการวิจัยตลาดเชิงลึกและวิเคราะห์การลงทุนของอุตสาหกรรมลดน้ำหนักของจีน โดยสรุปดังนี้
แนวทางการรักษาทางการแพทย์สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนในประเทศจีน แสดงให้เห็นว่าวิธีการต่างๆ เช่น การรับประทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Glycemic Index: GI) และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำมีบทบาทสําคัญในการควบคุมน้ำหนักในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ GI ต่ำส่วนใหญ่ รวมถึงบิสกิตมัลติเกรน ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ รวมถึงเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูงทุกชนิด อาหารทดแทนมื้ออาหารยังมียอดขายอยู่ในระดับสูง สําหรับสารอาหารสำหรับลําไส้ที่มีส่วนผสมเพื่อสุขภาพ ก็พบว่าได้รับความสนใจและมีบริษัทอาหารรายใหญ่หลายรายได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สำหรับการควบคุมน้ำหนักและเครื่องดื่มควบคุมน้ำหนักต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าในปี ค.ศ. 2022 วิธีการลดน้ำหนักที่ถูกนํามาใช้โดยกลุ่มเครือข่ายการลดความอ้วนของจีนมากที่สุด คือ การออกกําลังกาย ร้อยละ 69.9 รองลงมา ได้แก่ การอดอาหาร ร้อยละ 59.3 การใช้ยา ร้อยละ 27.8 และการผ่าตัด ร้อยละ 20.0 ตามลำดับ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ พบว่ามีผลิตภัณฑ์และวิธีการลดน้ำหนักจํานวนมากเกิดขึ้นในตลาดจีน รวมถึง การออกกําลังกาย การควบคุมอาหาร การใช้อุปกรณ์ออกกําลังกาย การเปลี่ยนอาหาร ยาลดน้ำหนัก และแอปพลิเคชันควบคุมสุขภาพ และการลดน้ำหนักอย่างครบวงจรโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าผู้อดอาหารส่วนใหญ่คิดว่าเป็นการยากที่จะทนต่อความหิวและอาหารที่น่ารับประทานในระหว่างการลดน้ำหนัก และเป็นเรื่องยากที่จะยึดติดกับวิธีการลดน้ำหนักผ่านการออกกําลังกาย ในขณะที่ การทานยาเพื่อลดน้ำหนักก็จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมากต่อร่างกาย และหากใช้เป็นเวลานานก็จะไม่คุ้มค่ากับการสูญเสียสุขภาพในระยะยาว โดยเหตุผลที่ผู้บริโภคมากกว่าร้อยละ 35 เลิกทานอาหารทดแทนมื้ออาหารเพื่อลดน้ำหนัก เนื่องจากไม่สามารถที่จะใช้อาหารทดแทนมื้ออาหารขณะที่ไม่รู้สึกอยากรับประทานอาหารได้ และอาหารทดแทนมื้ออาหารไม่มีผลต่อการลดน้ำหนักหลังรับประทาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความอิ่มหรือความสบายใจที่เกิดจากการรับประทานอาหารและผลต่อการลดน้ำหนักจากการรับประทานอาหารเป็นข้อกังวลอันดับแรกของผู้บริโภค
ภายใต้วิถีชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้อาหารที่มีไขมัน เกลือ และน้ำตาลส่งผลกระทบต่อการลดน้ำหนักของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และทำให้ปัญหาของโรคอ้วนรุนแรงขึ้นและเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยจากข้อมูลของสหพันธ์โรคอ้วนโลก (World Obesity Federation) เปิดเผยว่าจํานวนผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนกําลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก และหากไม่มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการชะลอจำนวนดังกล่าว จะทำให้ผู้คนมากกว่า 4,000 ล้านคนทั่วโลกจะเป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินภายในปี ค.ศ. 2035
ปัจจุบันวิธีการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพของจีนแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ (1) การใช้อุปกรณ์ออกกําลังกายขนาดเล็กที่บ้าน (2) การใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนอาหาร และ (3) การใช้บริการออนไลน์สําหรับการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ (ในที่นี้รวมถึงแอปพลิเคชัน มินิโปรแกรม และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ด้วย) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลดน้ำหนักยังเป็นที่ต้องการอย่างมากในจีน และมีพื้นที่ขนาดใหญ่สําหรับการพัฒนาในอนาคต
เมื่อพิจารณาความต้องการของตลาดลดน้ำหนักในจีนพบว่าในปี ค.ศ. 2020 คนอ้วนในจีนมีจำนวนมากถึง 220 ล้านคน และประชากรมากกว่าร้อยละ 50 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในประเทศจีนมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ส่วนเด็กที่มีอายุตั้งแต่อายุ 6 – 17 ปี และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19 และร้อยละ 10.4 ตามลําดับ ขณะที่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16.4 และมีน้ำหนักที่เกินคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 34.3 ทำให้การควบคุมน้ำหนักสําหรับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกินและโรคอ้วนได้กลายเป็นความต้องการที่เร่งด่วนของจีน และสืบเนื่องจากความสนใจด้านโภชนาการและสุขภาพยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการอาหารเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคจึงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก่อให้เกิดแรงผลักดันใหม่ๆ มาสู่นวัตกรรมและการพัฒนาของอุตสาหกรรมอาหาร ประกอบกับนับตั้งแต่การดําเนินการตามโครงการ “Healthy China 2030” จึงมีผลทำให้อุตสาหกรรมสุขภาพได้กลายเป็น Blue Ocean ในตลาดจีนที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก โดย “Healthy China 2030” มีเป้าหมายที่จะร่วมสร้างและแบ่งปันสุขภาพที่ดีสำหรับประชาชนชาวจีนทุกคน ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ในการสร้างจีนที่มีสุขภาพดี และให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนเป็นจุดศูนย์กลาง และวางแผนว่าภายในปี ค.ศ. 2030 อัตราการเติบโตของประชากรที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนจะชะลอตัวลงอย่างมาก ควบคู่ไปกับการใช้นโยบายและกลยุทธ์การเปิดตลาดยาลดน้ำหนักที่เหมาะสม เนื่องจากชาวจีนให้ความสำคัญต่อปัญหาการควบคุมน้ำหนักที่มากขึ้นเรื่อยๆ และมีความต้องการอย่างมากในการลดน้ำหนัก โดยผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าโรคอ้วนมีความสัมพันธ์ต่อการพัฒนาของมะเร็งบางชนิด รวมทั้งโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งยิ่งจะนำไปสู่ความต้องการที่แข็งแกร่งของตลาดยาลดน้ำหนัก โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดยาลดน้ำหนักของจีนจะมีมูลค่าเกิน 12,000 ล้านหยวน (60,000 ล้านบาท) ในปี ค.ศ. 2025 และในขณะเดียวกัน ก็มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าของตลาดยาลดน้ำหนักทั่วโลกคาดว่าจะสูงถึง 6,400 ล้านเหรียญสหรัฐ (224,000 ล้านบาท) ภายในปี ค.ศ. 2025 และจะเติบโตอย่างรวดเร็วเป็น 11,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (391,000 ล้านบาท) ภายในปี ค.ศ. 2030
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
ปัจจุบันชาวจีนที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนมีจำนวนสูงขึ้น ในขณะที่ชาวจีนส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญต่อการลดน้ำหนัก และมีความต้องการต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก ดังนั้น ตลาดอุตสาหกรรมลดน้ำหนักของจีนจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจ และน่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำ น้ำตาลต่ำ แคลอรีต่ำ แต่ยังมีโภชนาการอาหารครบถ้วน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน นอกจากนี้ จากที่มีการคาดการณ์ว่าตลาดยาลดน้ำหนักของจีนและของโลกจะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากจะมีผู้ที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนมากขึ้นเรื่อยๆ นั้น ก็ทำให้ตลาดยาลดน้ำหนักของจีนเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจาก ยาลดน้ำหนักถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยต่อชีวิตของชาวจีน จึงทำให้การนำเข้ายาและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมีกฎระเบียบและมาตรการที่ซับซ้อน ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่สนใจตลาดอุตสาหกรรมลดน้ำหนักของจีน อาจจะพิจารณาที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบอื่นๆ ที่ใช้ขั้นตอนและระยะเวลาในการเจาะตลาดน้อยกว่ายาลดน้ำหนัก เช่น อาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์กีฬาและสันทนาการ เป็นต้น โดยต้องศึกษาพฤติกรรมและรสนิยมของผู้บริโภคแต่ละช่วงอายุที่มีความต้องการลดน้ำหนักที่แตกต่างกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้ง กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดและกลยุทธ์ด้านราคาได้อย่างเหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม นอกจากนี้ เนื่องจากการลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการบริโภคผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งก่อนจึงจะเห็นผล ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยต้องมีผลการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นตัวอย่างและเป็นประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์และบริการลดน้ำหนักของไทย อันจะนำไปสู่การยอมรับและทดลองใช้งานด้วยตนเอง และถ้าเห็นผลภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะทำให้เกิดการบอกต่อการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการลดน้ำหนักดังกล่าวไปยังผู้ใช้รายอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในตลาดจีนในปัจจุบัน และจะทำให้ผลิตภัณฑ์และบริการลดน้ำหนักของไทยสามารถขยายช่องทางและกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
https://www.chinairn.com/scfx/20230707/160726102.shtml
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)