เก็บภาษีเม็กซิโกสะเทือนออสเตรีย

สภาหอการค้าออสเตรีย (WKO) ให้ความเห็นว่านโยบายการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกจะกระทบต่อบริษัทออสเตรียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมีบริษัทออสเตรียกว่า 100 บริษัทลงทุนอยู่ในประเทศเม็กซิโก และหนึ่งในสามของบริษัทเหล่านี้เป็นซัพพลายเออร์ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเม็กซิโกเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 7 ของโลก ณ ปัจจุบัน เม็กซิโกเป็นประเทศคู่ค้านอกสหภาพยุโรปที่สำคัญที่สุดอันดับสามของออสเตรีย รองจากสหรัฐอเมริกาและจีน โดยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกล เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม ส่วนผลกระทบจะรุนแรงแค่ไหนนั้นจะต้องรอกูควาชัดเจนของนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์อีกที

ด้านสภาอุตสาหกรรมออสเตรีย (IV) เห็นว่ายังต้องรอดูความชัดเจนของหลายๆ อย่างอีกเช่นกัน อย่างเช่นทีแรกประกาศไว้ว่าจะเก็บภาษีสินค้าจากจีนในอัตราร้อยละ 60 แต่ล่าสุดประกาศเพียงร้อยละ 10 และเบื้องต้นนโยบายการขึ้นภาษีมีรากฐานมาจากการต้องการกำจัดการค้ายาเสพติด ไม่ได้มุ่งหมายทำลายการค้า อีกอย่างต้องดูว่าในทางปฏิบัติจะสามารถดำเนินการตามนโยบายได้จริงอย่างไร และสำหรับบริษัทออสเตรียที่เข้าไปลงทุนในเม็กซิโกก็มีเหตุผลในการตัดสินใจมากกว่าเพียงแค่ต้องการใช้ประโยชน์ของข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น อย่างไรก็ดี สิ่งที่จำเป็นต้องผลักดันให้เกิดขึ้นในโอกาสนี้คือข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ตลอดจนข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่าสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศละตินอเมริกา (Mercosur)

ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นสำนักงานฯ

สหรัฐอเมริกาคู่ค้าเป็นที่สำคัญและมั่นคงของสหภาพยุโรปรวมถึงออสเตรียตลอดมา การกลับมาครั้งนี้ของ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกได้ว่าสหภาพยุโรปแทบไม่ได้มีการตั้งตัวเตรียมความพร้อมรับมือนโยบายการค้าที่ค่อนข้างรุนแรง อย่างไรก็ดี เชื่อว่านับจากนี้จะได้เห็นภาคส่วนต่างๆ ในสหภาพยุโรปผลักดันการสร้างความร่วมมือทางการค้าทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะข้อตกลงเขตการค้าเสรี ให้เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น

อ่านข่าวฉบับเต็ม : เก็บภาษีเม็กซิโกสะเทือนออสเตรีย