กระทรวงเกษตรอิสราเอล (Ministry of Agriculture) ได้ออกมาตรการจัดทำประกันภัยสำหรับเกษตรกรเพื่อประกันความเสียหายจากธรรมชาติ เหตุสุดวิสัย โรคและแมลงศัตรูพืช มูลค่า 247 ล้าน NIS นับว่าสูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรซื้อกรมธรรม์ประกันภัยและรับประกันความต่อเนื่องในการผลิตอาหารเพื่อประชาชนชาวอิสราเอล นาย Avi Dichter รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรอิสราเอล กล่าวถึงความสำคัญของการปกป้องภาคการเกษตรของอิสราเอลจากความเสียหายที่คาดไม่ถึงจากภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลิตผลทางการเกษตร โดยรัฐบาลได้จัดทำงบประมาณให้ความช่วยเหลือในรูปแบบค่าเบี้ยประกัน เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานที่จำเป็นต่อไปได้โดยไม่ต้องกลัวภาระทางการเงินที่ไม่พึงประสงค์ และสามารถยังคงอุตสาหกรรมการเกษตรที่ยั่งยืนมั่งคั่ง และร่วมกันต่อสู้ภัยธรรมชาติได้ เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีปรากฏการณ์สุดขั้วของสภาพอากาศที่รุนแรงซึ่งนำไปสู่ความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร รวมถึงเหตุการณ์คลื่นความร้อน (Heatwaves) อุณหภูมิสูงที่รุนแรง การแพร่กระจายของศัตรูพืชและโรคในพืชผลทางการเกษตร ตลอดจนภัยหนาว ดังนั้นเพื่อลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ กระทรวงเกษตรและการเงินจะอุดหนุนเบี้ยประกันเพื่อให้ครอบคลุมความเสียหายทางธรรมชาติในภาคเกษตรสำหรับพืชและสัตว์
แผนการอุดหนุนเงินดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความเสียหายทางเศรษฐกิจของเกษตรกร ประกอบกับการคาดการณ์โดยวางขอบเขตของกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับปี 2023 ที่บริษัทประกันภัยได้เสนอต่อกระทรวงเกษตร จากการประมวลผลข้อมูลด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เยียวยาความเสียหายได้นั้น ต้องใช้เงินจำนวนมากกว่า 20 พันล้าน NIS ต่อปี โดยรัฐจะมีส่วนร่วมในการจัดหาเงินเบี้ยประกันภัยสำหรับเกษตรกรในอัตราสูงถึง 80% ของจำนวนเงินเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันความเสี่ยงภัยจากธรรมชาติในภาคการเกษตรในปี 2023
Dr. Muamar Haj Ihie ผู้อำนวยการฝ่ายประกันภัยการเกษตรของกระทรวงเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการจะสนับสนุนเกษตรกรและกระตุ้นให้เขาซื้อประกันภัยสำหรับพืชผลของเขา ซึ่งเกษตรกรสามารถเลือกกรมธรรม์ประกันภัย ในระดับรัฐระหว่างการผลิตอาหารและความมั่นคงทางอาหารสำหรับจำนวนประชากร
ที่มา : Press Release www.gov.il/th/departments/news/ministryagricultureparticipatefinancingfarmerspurchaseinsurance Againstnaturaldamage247million และ www.timesofisrael.com
—————————————
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ
ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งอิสราเอล นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบอื่นๆ ที่รัฐบาลอิสราเอลกำลังพยายามแก้ไขอย่างเร่งด่วน ได้แก่ ประชาชนต่อต้านการปฏิรูประบบตุลาการ และเหตุการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวเกี่ยวกับคลื่นความร้อนในอิสราเอลที่หุบเขาจอร์แดนมีอุณหภูมิแตะ 46°C อุณหภูมิสูงสุดที่จะมาถึงในวันที่ 13 กค.2023 โดยอุณหภูมิ 33°C ในเทลอาวีฟ และ 37°C ในเยรูซาเล็ม ประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนเผชิญคลื่นความร้อน อิสราเอลจะร้อนมากอุณหภูมิสูงมากตามรายงานของนักอุตุนิยมวิทยา
อิสราเอลจะพบกับจุดสูงสุดของแนวความร้อนที่เรียกว่า “Cleon” เส้นทางคมนาคมระยะสั้นในสวนสาธารณะจะเปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวโดยมีจุดพักระหว่างทาง แต่บริการระบุว่าผู้เข้าชมควรวางแผนสำหรับการปิดเส้นทางที่ยาวกว่าบางเส้นทาง หน่วยงานธรรมชาติและอุทยาน (The Nature and Parks Authority) กล่าวว่าจุดที่ให้เข้าในทะเลทรายจูเดียนจะปิดในช่วงคลื่นความร้อน นอกจากนี้ ตัวแทนจาก บริษัทจัดการไฟฟ้า Noga นำเสนอแผนต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไฟฟ้าดับในช่วงคลื่นความร้อน ในขณะที่ประเทศประสบปัญหาความร้อนจัด บ้านเรือนราว 300,000 หลัง จะไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงที่ไฟดับ
ความถี่ ความรุนแรงและระยะเวลาของคลื่นความร้อนทั่วโลก รวมทั้งในอิสราเอลกำลังเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาโลก (The World Meteorological Service) กล่าวว่าต้นเดือนกรกฎาคม 2023 เป็นสัปดาห์ที่ร้อนที่สุด ที่เคยบันทึกไว้บนโลก เป็นที่ทราบกันดีว่าอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรงทำให้ผู้คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในกลุ่มประชากรที่เปราะบาง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ
————————————–
สคต.เทลอาวีฟ
7 ส.ค.66
Disclaimer :ข้อมูลต่างๆที่ปรากฏ เป็นข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และการเผยแพร่ข้อมูลเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเทลอาวีฟ จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดใดที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดและโดยทางใด