ที่มา : สำนักข่าว astro AWANI
อาเซียนและจีนได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีนฉบับปรับปรุง หรือ ACFTA 3.0 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในภูมิภาค พร้อมผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนและทั่วถึง
พิธีลงนามจัดขึ้นในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมี นายเต็งกู ดาโต๊ะ ซรี ซาฟรูล เต็งกู อับดุล อาซีซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย และ นายหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน เป็นผู้ลงนาม
พิธีดังกล่าวมี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน รวมถึงผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน ร่วมเป็นสักขีพยาน
ข้อตกลง ACFTA 3.0 ถือเป็นการยกระดับความร่วมมือทางการค้าระหว่างอาเซียนและจีนให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นในประเด็นสำคัญ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว การเสริมความยืดหยุ่นของ
ห่วงโซ่อุปทาน การคุ้มครองผู้บริโภค และการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
ก่อนหน้านี้ นายซาฟรูลระบุว่า ข้อตกลงฉบับใหม่นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของอาเซียนและจีนในการพัฒนากลไกการค้าชายแดนให้ทันต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และตอบสนองต่อความท้าทายของระบบการค้าในยุคใหม่
ด้าน นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน–จีน ครั้งที่ 28 ว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเสริมสร้างเอกภาพภายในภูมิภาค และต่อต้าน
การแทรกแซงจากอำนาจภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “สถานการณ์โลกในปัจจุบันเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน หลายประเทศเผชิญแรงกดดันจากนโยบายปกป้องทางการค้าและภาษีที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก”
นายหลี่อ้างถึงถ้อยคำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ระบุว่า “ความสามัคคีคือพลัง และความร่วมมือ
จะนำมาซึ่งชัยชนะร่วมกัน” โดยย้ำว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างจีนและอาเซียนคือกุญแจสำคัญใน
การรักษาเสถียรภาพและการเติบโตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในระยะยาว
บทวิเคราะห์ผลกระทบ
ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีน (ACFTA 3.0): ก้าวใหม่ของภูมิภาค และทิศทางใหม่ของไทย การลงนามในความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีนฉบับปรับปรุง หรือ ACFTA 3.0 ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับ
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาค โดยเน้นเรื่อง เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน
1. ผลเชิงบวกต่อการค้าไทย
การปรับปรุงข้อตกลงใหม่นี้จะช่วยให้ การค้าระหว่างไทยและจีนมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป และสินค้าดิจิทัล ซึ่งไทยมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ มาตรการส่งเสริม เศรษฐกิจสีเขียว จะเป็นแรงผลักดันให้ไทยเร่งพัฒนามาตรฐานสิ่งแวดล้อมและลดคาร์บอนในภาคการผลิต เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ของตลาดจีนและอาเซียน3. มิติยุทธศาสตร์ในภูมิภาค
2. โอกาสในเศรษฐกิจดิจิทัลและนวัตกรรม
ACFTA 3.0 ให้ความสำคัญกับการค้าอิเล็กทรอนิกส์ การคุ้มครองข้อมูล และการเชื่อมโยงด้านเทคโนโลยี ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs และสตาร์ตอัป สามารถขยายตลาดออนไลน์ไปยังจีนและประเทศอาเซียนอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้นอย่างไรก็ตาม ไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล กฎระเบียบ
ด้านข้อมูล และระบบโลจิสติกส์ข้ามแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ความท้าทายที่ไทยต้องเตรียมรับ
ข้อตกลงนี้อาจทำให้สินค้าจากจีนเข้ามาในตลาดอาเซียนมากขึ้น ซึ่งอาจกระทบต่อ ผู้ผลิตรายย่อยของไทย โดยเฉพาะในสินค้าที่แข่งขันด้านราคาดังนั้น ไทยควรมุ่งเน้นการพัฒนา สินค้าเกษตรคุณภาพสูง นวัตกรรม และสินค้ามีมูลค่าเพิ่ม (value-added products) เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน
ความคิดเห็น สคต.
สำนักงานฯ เห็นว่า ข้อตกลง ACFTA 3.0 จะช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนและจีนให้มีความทันสมัยและครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล พลังงานสะอาด และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคโดยรวม รวมถึงประเทศไทย
สำนักงานฯ เห็นควรให้ไทยเร่งปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้อย่างเต็มที่ทั้งใน
ด้านการยกระดับมาตรฐานสินค้า การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และการสร้างเครือข่ายธุรกิจร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนและจีน โดยเฉพาะในภาค SMEs และสตาร์ตอัป ที่สามารถขยายตลาดในระบบออนไลน์
ได้อย่างกว้างขวาง
ในขณะเดียวกัน ไทยควรติดตามผลกระทบจากการนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อผู้ประกอบการภายในประเทศ และวางนโยบายสนับสนุนการผลิตสินค้ามูลค่าสูง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดอาเซียนและตลาดโลก
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
อ่านข่าวฉบับเต็ม : อาเซียน–จีน ลงนามความตกลงการค้าเสรี ACFTA 3.0 เสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเติบโตในภูมิภาค
