แรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อกำลังทวีความรุนแรงมากขี้น โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 2.4% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขการประมาณจากสำนักงานสถิติประจำประเทศเยอรมนี (Statistisches Bundesamt) ที่อ้างอิงจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่ยังไม่รวมราคาพลังงานและอาหารที่มีความผันผวน โดยนักเศรษฐศาสตร์ต่างก็ได้ออกมาคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นแล้ว และจากการสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ โดยสำนักข่าวรอยเตอร์สคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีของเยอรมนีน่าจะอยู่ที่ 2.3% เรียกได้ว่า ในปี 2025 อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีพุ่งสูงขึ้นเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่าน สำหรับปีนี้ ในเดือนสิงหาคม 2025 อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.2% ด้านนาย Michael Heise หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ HQ Trust กล่าวว่า “การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดแต่อย่างใด” และเขาคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะไม่ลดลงต่ำกว่า 2% ภายในสิ้นปีนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อรายปีมักจะอยู่ที่ 2.1% หรือ 2.0% ในระยะกลางเป้าอัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยในยูโรโซนที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตั้งไว้อยู่ที่ 2% ซึ่ง ECB ถือว่า อัตรานี้เหมาะสมที่สุดสำหรับเศรษฐกิจในยูโรโซน นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ECB ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงถึง 8 ครั้ง เนื่องจากโดยรวมแรงกดดันด้านราคาผ่อนคลายลง จากนั้น ECB ก็ได้หยุดพักการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมและกันยายน แม้จะมีข่าวเงินเฟ้อออกมาให้นักลงทุนต้องระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นเยอรมนีอยู่ โดยปัจจุบันดัชนีการซื้อขายในตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคต่างก็สังเกตเห็นราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างสินค้าที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยนาย Friedrich Heinemann ผู้แทนจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW – Zentrum für Europäische Wirtschaftsforschung) กล่าวว่า “ราคาสินค้าบริโภคที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนด้านการบริการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีไม่สามารถลดลงได้” ข้อมูลจากรัฐบาลกลางเยอรมนีระบุว่า ในเดือนกันยายน 2025 ผลไม้ และผลิตภัณฑ์นมต่าง ๆ (เนยและนม) มีราคาสูงขึ้น โดยเฉลี่ยทั่วประเทศในเดือนกันยายน 2025 ประชาชนต้องจ่ายค่าอาหารเพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนในเดือนสิงหาคม 2025 ราคาสินค้าบริโภคเพิ่มขึ้น 2.5% อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ด้วยเงินหนึ่งยูโรพวกเขาสามารถซื้ออาหารได้น้อยลง เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ราคาอาหารแพงขึ้นกว่าปีที่แล้วอย่างมาก และผู้บริโภคยังต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นกับสินค้าบริการต่าง ๆ เช่น การเดินทาง และการใช้บริการร้านอาหาร เนื่องจากผู้ให้บริการได้ส่งต้นทุนด้านแรงงานที่สูงขึ้นให้กับผู้บริโภคต่อผ่านราคาอาหารเป็นต้น
ในเดือนกรกฎาคม 2025 อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ในระดับ 2.0% ตามเป้าหมายที่ ECB ตั้งไว้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ข้อมูลราคาผู้บริโภคที่จะประกาศในไม่ช้าจะแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเป็น 2.2% ในเดือนกันยายน หลังจากที่ ECB ระงับการปรับอัตราดอกเบี้ยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นาง Christine Lagarde ประธาน ECB ได้เปิดกว้างสำหรับทิศทางด้านนโยบายการเงินในอนาคต เธอกล่าวในการประชุมที่กรุงเฮลซิงกิเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ในแง่ของนโยบายการเงินในปัจจุบันธนาคารกลางฯ อยู่ในสถานะที่ดี อย่างไรก็ตาม ECB จำเป็นต้องทำงานอย่างคล่องตัว และทำงานบนพื้นฐานของข้อมูลที่แข็งแกร่งเพื่อให้มั่นใจว่า นโยบายการเงินจะยังคงอยู่ในสถานะที่ดีต่อไป นาง Lagarde เน้นย้ำว่า “เราไม่สามารถยึดมั่นกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ไม่ว่าจะด้วยการกระทำ หรือการไม่กระทำใด ๆ” สิ่งสำคัญคือ ECB ต้องมีความยืดหยุ่น และต้องเตรียมพร้อมรับมือกับข้อมูลที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าภาวะช็อกจากวิกฤติเงินเฟ้อครั้งใหญ่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว นาง Lagarde กล่าวว่า เมื่อมองไปข้างหน้าความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อทั้งด้านบวก และด้านลบน่าจะถูกควบคุมไว้ได้เป็นส่วนใหญ่
จาก Handelsblatt 24 ตุลาคม 2568
อ่านข่าวฉบับเต็ม : อัตราเงินเฟ้อเยอรมันสูงสุด ในปี 2025
