สำนักงานสถิติแห่งชาติไนจีเรียเปิดเผยว่าหลังจากการปรับฐานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ใหม่ซึ่งใช้วัดอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและสินค้าโภคภัณฑ์ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมกราคมอยู่ที่ 24.48% ซึ่งลดลงจาก 34.80% ในเดือนธันวาคม 2567 นั่นหมายความว่าราคาสินค้าและบริการทั่วไปในประเทศลดลงเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมซึ่งใช้รูปแบบเดิม
การปรับฐาน CPI หมายถึงการอัปเดตปีอ้างอิงที่ใช้วัดระดับราคาในประเทศ โดยพื้นฐานแล้วคือการเปลี่ยนแปลงตะกร้าสินค้าและบริการที่ใช้วัดอัตราเงินเฟ้อเพื่อให้สะท้อนรูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปัจจุบันได้ดีขึ้นและเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลอัตราเงินเฟ้อสะท้อนถึงสถานะปัจจุบันของเศรษฐกิจได้อย่างถูกต้องโดยเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนสินค้าที่ล้าสมัยด้วยสินค้าใหม่ที่สามารถแสดงถึงสิ่งที่ผู้คนกำลังซื้อในปัจจุบันได้ดีกว่า
สำหรับอัตราเงินเฟ้ออาหารที่ปรับฐาน CPI ใหม่อยู่ที่ 26.08 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคมซึ่งแสดงถึงการลดลงในดัชนีอาหารเมื่อเทียบกับ 39.84 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีที่บันทึกไว้ในเดือนก่อนหน้า ในทำนองเดียวกัน ดัชนีพื้นฐานที่ปรับฐานใหม่ซึ่งไม่รวมราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ผันผวนและพลังงานอยู่ที่ 22.59 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม ซึ่งอยู่ที่ 29.28 เปอร์เซ็นต์ในเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อในเขตเมืองที่ปรับฐานใหม่อยู่ที่ 26.09 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีซึ่งอยู่ที่ 37.29 เปอร์เซ็นต์ในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ภายใต้เทมเพลตที่ปรับฐานใหม่ อัตราเงินเฟ้อในเขตชนบทอยู่ที่ 22.15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปีซึ่งอยู่ที่ 32.47 เปอร์เซ็นต์ในเดือนธันวาคมเมื่อใช้วิธีการเดิม
สำนักงานสถิติแห่งชาติฯ ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับฐานใหม่สะท้อนถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและรูปแบบการบริโภคของประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศในปัจจุบันและได้ชี้ให้เห็นว่าการลดลงของอัตราเงินเฟ้อที่ปรับฐานใหม่ไม่ได้หมายความว่าระดับราคาทั่วไปกำลังลดลงโดยปัจจัยหลักที่มีผลต่อการลดลงคือปีฐานที่ใกล้เคียงกับช่วงปัจจุบันซึ่งไม่เหมือนในอดีตที่ปีฐานคือปี 2009 โดยที่ปีฐานของดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับฐานใหม่คือปี 2024 ซึ่งหมายความว่ากำลังเปรียบเทียบราคาในปี 2025 กับราคาในปี 2024 แทนที่จะเป็นปี 2009 นอกจากนี้ ตะกร้าดัชนีราคาผู้บริโภคก็ไม่เหมือนกัน
ผู้บริหารสูงสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติได้อธิบายว่าเหตุผลในการเสนอให้ปรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของประเทศไนจีเรียก็เพื่อให้แน่ใจว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจสะท้อนโครงสร้างเศรษฐกิจปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง และการดำเนินการดังกล่าวจะรวมถึงภาคส่วนใหม่และภาคส่วนเกิดใหม่ การปรับปรุงตะกร้าการบริโภค และการปรับปรุงวิธีการรวบรวมข้อมูลซึ่งการวัดตัวชี้วัดเหล่านี้มีความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่ารัฐบาล ผู้กำหนดนโยบาย องค์กรภาคประชาสังคม และผู้ใช้รายอื่นๆ ทั้งหมดสามารถเข้าถึงตัวเลขที่ถูกต้องและล่าสุดได้เพื่อให้สามารถติดตามผลกระทบของนโยบายและโครงการของตน รวมถึงผลกระทบที่มีต่อประชาชน และที่สำคัญการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังของใครหรือหน่วยงานใด แต่เพียงเพื่อวัดอย่างถูกต้องตามมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติระดับโลก รวมทั้งช่วยให้ประเทศสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ ทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนและเกี่ยวข้องมากขึ้นเกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของไนจีเรียช่วยให้สำนักงานสถิติแห่งชาติสามารถออกแบบ วางแผน ดำเนินนโยบายและโปรแกรมที่จะนำไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์ระดับชาติเพื่อประโยชน์ของชาวไนจีเรียได้ รวมทั้งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของสหประชาชาติเกี่ยวกับสถิติอย่างเป็นทางการโดยเฉพาะหลักการที่ 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบและความโปร่งใส
ทั้งนี้ ทั่วโลกกำลังจับตาดูการปรับฐานดัชนี CPI ของไนจีเรียอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากอาหารมีอิทธิพลเหนือประวัติศาสตร์ในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังเชิงตรรกะก็คือ การปรับฐานดัชนีจะไม่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจนบิดเบือนความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ แต่จะช่วยให้มองเห็นพลวัตของอัตราเงินเฟ้อได้ชัดเจนขึ้นและอัปเดตมากขึ้น ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายและธุรกิจต่างๆ ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ในขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเตรียมที่จะเผยแพร่ตัวเลขเงินเฟ้อชุดใหม่ สิ่งสำคัญที่ควรเรียนรู้ก็คือ แม้ว่าการปรับวิธีการจะปรับปรุงวิธีการวัดอัตราเงินเฟ้อให้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ขจัดแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่เป็นพื้นฐานซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ราคาเพิ่มขึ้นการปรับฐานดัชนีถือเป็นก้าวแรกในทิศทางที่ถูกต้อง แต่การต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อของไนจีเรียยังไม่จบสิ้น
อ่านข่าวฉบับเต็ม : อัตราเงินเฟ้อของไนจีเรียลดลงเหลือ 24.48% หลังจากปรับฐานใหม่ในเดือนมกราคม
