หน้าแรกTrade insight > ห้าง Leclerc ครองตำแหน่งผู้นำตลาดห้างค้าปลีก (Hypermarket) ภายใต้สถานการณ์เงินเฟ้อในฝรั่งเศส

ห้าง Leclerc ครองตำแหน่งผู้นำตลาดห้างค้าปลีก (Hypermarket) ภายใต้สถานการณ์เงินเฟ้อในฝรั่งเศส

จากผลการสำรวจของ Kantar World Panel เพื่อศึกษาข้อมูลการบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภค ของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่และห้างค้าปลีกรายย่อยทั่วประเทศฝรั่งเศสซึ่งทำเป็นประจำทุกเดือนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเน้นการสำรวจมูลค่าการบริโภคสินค้าอุปโภคและบริโภคมากกว่าสินค้าประเภทผัก ผลไม้และอาหารสด   สามารถสรุปได้ว่า

ในปี 2023 นี้ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ Leclerc ยังคงสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่องไว้ได้ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา หลังจากที่เคยเป็นอันดับสองรองจากห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ Carrefour

อย่างไรก็ตามในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมาห้าง Leclerc ดำเนินนโยบายและทำการโฆษณาที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีส่งผลให้ Leclerc  เพิ่มส่วนแบ่งตลาดถึงเดือนละจุดต่อเนื่องกัน  โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาส่วนแบ่งตลาดของ Leclerc เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.4  ส่งผลให้ Leclerc มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23.9 ในตลาดห้างค้าปลีกฝรั่งเศส  ทิ้งระยะห่างจากห้างค้าปลีกเจ้าอื่นๆในตลาด ได้แก่ Carrefour เป็นอันดับที่สองร้อยละ 20.1   อันดับที่สามได้แก่ Intermarché ร้อยละ 15.1  หลังจากที่ในปี 2017  ส่วนแบ่งตลาดระหว่าง Leclerc และ Carrefour มีความใกล้เคียงกันมาก (Leclerc ร้อยละ 20.9, Carrefour ร้อยละ 20.8)

ระยะห่างของส่วนแบ่งตลาดจากผู้นำอันดับหนึ่ง Leclerc ที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้ นาย Alexandre Bompard ผู้อำนวยการใหญ่ของห้าง Carrefour ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ Cora และ ห้างค้าปลีก Match จากประเทศเบลเยี่ยม  โดยเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Carrefour ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งการลงทุนครั้งสำคัญนี้สามารถส่งผลให้ Carrefour เพิ่มส่วนแบ่งตลาดห้างค้าปลีกในประเทศขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 22.3    ซึ่งในขณะเดียวกัน ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ Intermarché เข้าซื้อกิจการห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ Casino จำนวนทั้งสิ้น 180 สาขา ส่งผลให้ Intermarché เพิ่มส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

นโยบายที่ช่วยให้ Leclerc ครองอันดับหนึ่งในตลาดห้างค้าปลีกถึงแม้ว่าฝรั่งเศสจะประสบกับปัญหาเงินเฟ้อ ได้แก่

–           นโยบายด้านราคาสินค้าที่ต่ำกว่าห้างอื่นๆ และนำเสนอสินค้าลดราคาอย่างต่อเนื่อง โดยทาง Leclerc ไม่ลังเลที่จะลดราคามากขึ้นเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิก ถึงแม้ว่าบางครั้งการลดราคานั้นจะส่งผลให้ทางห้างไม่ได้กำไรก็ตามแต่เพื่อจะช่วยให้ทางห้างสามารถรักษาฐานลูกค้าไว้ได้อย่างเหนียวแน่    โดยรายได้ทดแทนในส่วนนี้ได้มาจากการให้เช่าพื้นที่ในบริเวณห้าง

–           ค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการของห้างต่ำกว่าห้างอื่นๆร้อยละ 2-3

–           การวางระบบ drive (ระบบสั่งออนไลน์และขับรถมารับสินค้าที่ห้าง) เพิ่มช่องทางรายได้ให้กับห้าง

–           โฆษณานโยบายราคาสินค้าราคาถูกอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงเวลาเดียวกันห้าง Carrefour พยายามปรับตัวเรื่องราคาสินค้าที่วางขาย และพัฒนาระบบการจัดการด้านพื้นที่เช่าของห้างเพื่อช่วยให้ห้างแต่ละแห่งมีความเป็นเอกเทศของตัวเองเพิ่มมากขึ้น

ถึงแม้ว่าทั้ง Carrefour และ Intermarché ต่างพยายามเพิ่มส่วนแบ่งตลาด แต่นาย Michel-Edouard Leclerc ผู้วางนโยบายให้กับห้าง Leclerc กลับมองว่าคู่แข่งรายสำคัญของห้างได้แก่ห้างค้าปลีกราคาถูก Lidl และ ห้าง Aldi จากประเทศเยอรมนี เนื่องจากผู้บริโภคของห้าง Leclerc เลือกจับจ่ายสินค้าจากทั้งห้าง Lidl และ ห้าง Aldi รองจากห้าง Leclerc

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาห้าง Lidl ดำเนินนโยบายโฆษณาอย่างต่อเนื่องจนสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในฝรั่งเศสได้จนถึงร้อยละ 7.5 นำหน้าห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ Auchan ถึงแม้ว่าจะมีการปรับตัวลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  อย่างไรก็ตามนโยบายโฆษณาและการลงทุนเพื่อขยายตลาดของ Lidl ในฝรั่งเศสใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมหาศาล  การเปิดห้าง Lidl ในฝรั่งเศสต้องใช้เงินลงทุน 3,200 ยูโรต่อตารางเมตรในขณะที่การลงทุนในเยอรมนีประเทศต้นกำเนิด  ใช้เงินลงทุนเพียง 1,600 ยูโรต่อตารางเมตร  ส่งผลให้ Lidl กลายเป็นผู้นำด้านการลงทุนอันดับหนึ่งในฝรั่งเศสรองจากบริษัทรถยนต์ Renault

ในขณะที่ห้าง Lidl ได้รับการตอบรับอย่างดีในฝรั่งเศส แต่ห้างค้าปลีกสินค้าราคาประหยัด Aldi ซึ่งมาจากประเทศเยอรมนีเช่นเดียวกันกับห้าง Lidl กลับไม่สามารถขยายตลาดเพิ่มในฝรั่งเศสได้ ถึงแม้ว่าจะซื้อกิจการห้างค้าปลีกสินค้าราคาประหยัด Leader Price ของฝรั่งเศสเพื่อขยายสาขาแล้วก็ตาม

ความเห็น สคต.

ผลประกอบการของห้าง Leclerc ในปี 2022 จากจำนวนห้างทั้งสิ้น 721 สาขาทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่า 43,900 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ร้อยละ 4 ซึ่งเมื่อรวมกับรายได้จากจากสถานีบริการน้ำมันของห้างจะส่งผลให้ผลประกอบการรวมของ Leclerc คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น  55,600 พันล้านยูโรเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 จากปี 2021     ห้าง Leclerc สามารถรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำตลาดห้างค้าปลีกในฝรั่งเศสและมีผลประกอบการสูงที่สุดในประเทศ (รองลงมาได้แก่ Carrefour 42,000 ล้านยูโร, Intermarché 36,000 พันล้านยูโร ไม่รวมรายได้จากสถานีบริการน้ำมัน)

จากข้อมูลของ Leclerc มูลค่าเฉลี่ยในการจับจ่ายของผู้บริโภคในแต่ละครั้งปี 2022 คงที่เท่ากับปี 2021 อยู่ที่ 63.12 ยูโร  แต่ปริมาณสินค้าที่ซื้อลดลงร้อยละ 4.5 (เทียบได้กับปริมาณสินค้า 20.5 ชิ้น)   ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อในประเทศ  ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนที่จะถึงนี้  เป็นช่วงเวลาเปิดเทอมเข้าสู่ปีการศึกษาใหม่ในฝรั่งเศสหลังจากปิดเทอมฤดูร้อนมาแล้วถึงสองเดือนเป็นช่วงที่ผู้บริโภคฝรั่งเศสส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น   ซึ่งอาจส่งผลต่อการลดการบริโภคสินค้าอื่นๆที่ไม่จำเป็น   อย่างไรก็ตามสถานการณ์เศรษฐกิจฝรั่งเศสอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปี  ทางสคต.ปารีสจะติดตามรายละเอียดเพื่อนำมาเรียนให้ทราบในคราวต่อไป

Philippe Bertrand

ข่าวออนไลน์ หนังสือพิมพ์ Les Echos

https://www.lesechos.fr/industrie-services/conso-distribution/grand-vainqueur-de-linflation-leclerc-dame-le-pion-a-carrefour-et-lidl-1973429

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login