งานแสดงสินค้า China Import and Export Fair หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ Canton Fair ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติที่ถูกก่อตั้งมาเป็นระยะเวลานาน โดยมี China Foreign Trade Centre เป็นผู้จัดงานหลัก ซึ่งงานจะจัดทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงของเมืองกวางโจว
งาน Canton Fair เป็นงานแสดงสินค้าที่มีความหลากหลาย มีขนาดใหญ่ และมีผู้จัดแสดงและเข้าชมเพิ่มขึ้นในแต่ละปี โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีนี้มีการจัดแสดงสินค้า 3 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงที่ 1: วันที่ 15 – 19 เมษายน 2566 เป็นช่วงที่จัดแสดงสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ในการก่อสร้าง และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ ช่วงที่ 2: วันที่ 23 – 27 เมษายน 2566 มีการจัดแสดงสินค้าประเภทสินค้าในชีวิตประจำวันและสินค้าตกแต่งบ้าน ช่วงที่ 3: วันที่ 1 – 5 พฤษภาคม 2566 เป็นช่วงสุดท้าย มีการจัดแสดงสินค้าประเภทเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า สินค้าสำนักงาน กระเป๋า ยา อุปกรณ์การแพทย์ และสินค้าเพื่อสุขภาพ งาน Canton Fair นั้นมีพื้นที่ในงานจัดแสดงสินค้าทั้งหมดอยู่ที่ 1.5 ล้านตารางเมตร ในปีนี้มีบริษัทร่วมจัดแสดงสินค้ามากกว่า 35,000 บริษัท มีผู้ซื้อมืออาชีพ (Professional Buyers) 128,000 คน จาก 229 ประเทศ และมีผู้เข้าร่วมงานถึง 2,900,000 คน โดยภายในงานมีมูลค่าการเจรจาการค้าโดยบริษัทจีนและผู้ซื้อจากต่างประเทศสูงถึง 25,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยงานนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดจีนได้มีการฟื้นตัวขึ้นและมีศักยภาพในการนำเข้าเพิ่มขึ้น หลังจากผ่านมรสุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยการฟื้นตัวอยู่ที่ระดับ 90%
สำหรับสินค้าจากประเทศไทย ในปีนี้มีผู้ประกอบการไทยที่ได้รับงบประมาณจากกรมฯ ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active Program เข้าร่วมจัดแสดงสินค้า โดยสินค้าที่ทางบริษัทได้นำมาจัดแสดงในงาน คือ เยลลี่กลิ่นผลไม้และบราวนี่รสดับเบิ้ล เอสเปรสโซ โอ๊ตอัลมอนด์คริปส์รสทรัฟเฟิลและรสซาวครีมหัวหอม โดยสินค้าเยลลี่ผลไม้ของบริษัทฯ ที่เป็นที่นิยมที่สุดของลูกค้าชาวจีน ได้แก่ รสมะม่วง และมะพร้าว รวมถึงสินค้าทุเรียนอบแห้งก็ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อจีนเช่นกัน โดยปัจจุบันสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวที่มีวัตถุดิบจากพืชและผลไม้ เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีน และเป็นสินค้าที่มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จึงคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ในตลาดจีน อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้ประกอบไทยรายดังกล่าวพบว่า ปัจจุบันปัญหาและอุปสรรค ในการทำตลาดจีน คือ มีสินค้าลอกเลียนแบบในตลาดจีนจำนวนมาก และสินค้าของไทยมีราคาที่สูงกว่าสินค้าจากจีน และเวียดนาม เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าสูง ทำให้เสียเปรียบทางการค้ากับประเทศคู่แข่ง ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องปรับเปลี่ยนสินค้าเพื่อรักษาราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนอยู่เสมอ
ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
งานแสดงสินค้า China Import and Export Fair เป็นงานแสดงสินค้านานาชาติที่ถูกก่อตั้งมาเป็นระยะเวลานาน ทั้งยังเป็นหนึ่งในงานจัดแสดงที่มีศักยภาพและใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ในจีน ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ก็เห็นความสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพได้เข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้า Canton Fair โดยได้ดำเนินการภายใต้โครงการ SMEs Proactive เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสนำสินค้ามาจัดแสดงและสามารถหาช่องทางเข้าสู่ตลาดจีนได้ ทั้งนี้ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลตลาด ช่องทางการนำเข้า ขั้นตอน / กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า รวมถึงการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศจีน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลอกเลียนแบบสินค้าจากประเทศคู่แข่ง นอกจากนี้ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดจีนและนำสินค้าเข้ามาจัดแสดงในจีน สามารถรับข้อมูลข่าวสารและสามารถสอบถามเกี่ยวกับงานจัดแสดงต่างๆ ได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว เพื่อที่จะสามารถนำสินค้าเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างราบรื่นต่อไป
https://news.southcn.com/node_955489444b/9e89de2de9.shtml
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)