British Retail Consortium (BRC) ได้เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อสินค้า Grocery ของเดือนสิงหาคม 2566 ว่าอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นมา โดยอัตราเงินเฟ้อของเดือนสิงหาคม 2566 ลดลงเป็นร้อยละ 6.9 จากร้อยละ 7.9 ในเดือนกรกฎาคม 2566 โดยปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวเป็นผลมาจากการผ่อนคลายแรงกดดันด้านต้นทุนสินค้าบริโภค ซึ่งการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญนี้เห็นได้ชัดที่สุดในสินค้าประเภท เนื้อสัตว์ มันฝรั่ง และน้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหารบางชนิด โดยอัตราเงินเฟ้อสินค้าอาหารสด ลดลงเหลือร้อยละ 11.6 ในเดือนสิงหาคม 2566 ลดลงจากร้อยละ 14.3 ในเดือนกรกฎาคม 2566 ในส่วนสินค้าอาหารแปรรูปอัตราเงินเฟ้อลดลงเหลือร้อยละ 11.3 ในเดือนสิงหาคม 2566 ลดลงจากร้อยละ 12.3 ในเดือนกรกฎาคม 2566 สำหรับสินค้าอุปโภคอัตราเงินเฟ้อยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ร้อยละ 4.7 ในเดือนสิงหาคม 2566 ทั้งนี้ BRC ยังได้เปิดเผยข้อมูลว่าราคาผลิตภัณฑ์สำหรับใช้อาบน้ำ (Toiletries) และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง มีราคาลดลงสืบเนื่องจากราคาวัตถุดิบการผลิตที่ลดลง
ที่มา: The Grocer และ BBC News
ข้อมูลเพิ่มเติม/ ความเห็น สคต. จากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในสหราชอาณาจักรเริ่มคลี่คลาย อย่างไรก็ตามแม้อัตราเงินเฟ้อสำหรับสินค้า Grocery จะลดลง แต่อัตราเงินเฟ้อโดยรวมในสหราชอาณาจักรยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) คาดการณ์ไว้กว่า 3 เท่า ซึ่งธนาคารกลางอังกฤษอาจจะมีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็นร้อยละ 5.5 ในการประชุมที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้เพื่อช่วยลดระดับอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษในครั้งนี้อาจจะเป็นการปรับครั้งสุดท้าย สคต. เห็นว่า ผู้ประกอบการไทยควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสินค้าเพื่อให้เหมาะกับการปรับตัวต่อเศรษฐกิจของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)
