หน้าแรกTrade insight > สถานการณ์ผู้บริโภคชาวจีนที่มีต่ออาหารญี่ปุ่น ณ ปัจจุบัน

สถานการณ์ผู้บริโภคชาวจีนที่มีต่ออาหารญี่ปุ่น ณ ปัจจุบัน

ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจจากทั่วโลกมากขึ้น เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2566 รัฐบาลญี่ปุ่นปล่อยน้ำที่ปนเปื้อนนิวเคลียร์ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกทำให้เกิดความขัดแย้งต่อหลายประเทศทั่วโลกเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของญี่ปุ่นและอุตสาหกรรมอาหารญี่ปุ่น ในวันที่ญี่ปุ่นดำเนินการปล่อยน้ำที่ปนเปื้อนนิวเคลียร์ ฝ่ายบริหารทั่วไปของกรมศุลกากรของจีนได้ออกประกาศเพื่อป้องกันความเสี่ยงของการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี เพื่อปกป้องสุขภาพของผู้บริโภคชาวจีนพร้อมให้ความมั่นใจในความปลอดภัยของอาหารนำเข้าและการนำเข้าสินค้าอาหารทะเลที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ย่อมส่งผลกระทบอย่างมากต่อร้านขายอาหารญี่ปุ่น ในช่วงเวลานี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นในจีนบางแห่งที่อ้างว่าซื้อจากญี่ปุ่นไม่กล้าใช้คำว่า “นำเข้าจากญี่ปุ่น” เป็นวลีส่งเสริมการขายอีกต่อไป เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ร้านค้าในประเทศจีนมักใช้ป้ายกำกับ เช่น “นำเข้าจากญี่ปุ่น” และ “ส่งตรงจากญี่ปุ่น”เป็นต้น นี้ก็เป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมการขายอาหาร แต่ในเวลานี้คงใช้ไม่ได้แล้ว

แหล่งที่มาของรูป: https://img.iimedia.cn/10001097fb95447f5ec94916102c8525c58741495d973c8429ac5cb6ba19881a189f4

ข้อมูลจาก iiMedia Research แสดงให้เห็นระดับความชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นของผู้บริโภคชาวจีน ในปี 2566 ระดับความชื่นชอบมากของชาวจีนอยู่ที่ร้อยละ 63.65 ระดับความชื่นชอบปานกลางอยู่ที่ร้อยละ 35.01 ระดับความชื่นชอบน้อยและไม่แสดงความคิดเห็นอยู่ที่ร้อยละ 1.34 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาหารญี่ปุ่นได้แทรกเข้าสู่วิถีการดำรงชีวิตของชาวจีนมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันอาหารญี่ปุ่นยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

แหล่งที่มาของรูป: https://img.iimedia.cn/00001458bcc87f89bd6bc9750f9ee78837fc3964f3329fba5d481d95c35d6ce00b7e2

ก่อนที่เหตุการณ์น้ำปนเปื้อนนิวเคลียร์จะแจ้งอย่างเป็นทางการ ตัวเลขนี้แสดงถึงความถี่ที่ผู้บริโภคชาวจีนรับประทานอาหารญี่ปุ่น ผู้บริโภคชาวจีนร้อยละ 7.22 รับประทานอาหารญี่ปุ่นสัปดาห์ละครั้งหรือมากกว่านั้น ร้อยละ 45.89 รับประทานอาหารญี่ปุ่น 1-3 ครั้งต่อเดือนและร้อยละ 30.67 รับประทานอาหารญี่ปุ่น 1-2 ครั้งต่อไตรมาสและร้อยละ 16.22 รับประทานอาหารญี่ปุ่นทุกๆ 6 เดือนหรือต่ำกว่านี้

ผู้บริโภคชาวจีนนิยมบริโภคซาซิมิ (ปลาดิบ) ค่อนข้างน้อยมีเพียงร้อยละ 28.44 ของผู้บริโภคทั้งหมด ซึ่งตัวเลขๆได้สะท้อนถึงการยอมรับการทานอาหารดิบในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน เนื่องด้วยราคาจำหน่ายซาซิมิค่อนข้างสูงแต่ถ้าเป็นซาซิมิราคาถูกอาจทำให้เกิดความกังวลเรื่องความสดของอาหารได้

หลังจากที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำที่ปนเปื้อนนิวเคลียร์ออกนอกทะเล สำนักงานศุลกากรทั่วไปของจีนเริ่มระงับการนำเข้าอาหารทะเลของญี่ปุ่นอย่างเด็ดขาด ดังนั้นร้านอาหารญี่ปุ่นบางแห่งอาจต้องปรับกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและไม่เน้นแหล่งที่มาของวัตถุดิบอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ร้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือร้านขายอาหารญี่ปุ่นระดับไฮเอนด์ที่เน้นการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ใช้วัตถุดิบสดจากญี่ปุ่นที่ขนส่งทางอากาศและจ้างเชฟชาวญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดอาจมีการต่อต้านที่แข็งแกร่ง ร้านค้าเหล่านี้จึงจำเป็นต้องหาทางเลือกอื่นที่ตรงตามข้อกำหนดด้านคุณภาพซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายต่อการดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นระดับไฮเอนด์ในอนาคต ซึ่งจะสร้างความไม่แน่นอนและความท้าทายที่มากขึ้น

ข้อคิดเห็น สคต.เซี่ยงไฮ้

ถ้าพิจารณาจากต้นเหตุ ในช่วงนี้อาหารญี่ปุ่นและอาหารทะเลอาจจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยจากผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องด้วยผู้บริโภคชาวจีนโดยส่วนใหญ่ไม่นิยมรับประทาบของดิบเป็นทุนเดิม และเน้นการรับประทานอาหารสุก อีกทั้งชาวจีนส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบข้างเคียงไปด้วย ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทยก็ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การกันต่อไป

https://www.iimedia.cn/c1086/95624.html

ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login