- อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (GDP Growth)
สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (U.S. Bureau of Economic Analysis) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ (U.S. Department of Commerce) รายงานอัตราการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติแท้จริง (Real GDP) สหรัฐฯ ไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ร้อยละ 2.6 และประมาณการล่วงหน้า (Advance Estimate) ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ร้อยละ 1.1
โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เป็นผลมาจากการขยายตัวของการใช้จ่ายภาคประชาชนทั้งกลุ่มสินค้าและบริการโดยเฉพาะสินค้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ การบริการด้านสุขภาพและการบริการร้านอาหาร รวมถึงการส่งออก การใช้จ่ายรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น และการลงทุนระยะยาวไม่ใช่สำหรับที่อยู่อาศัย ในขณะที่การลงทุนคงคลังภาคเอกชน การลงทุนระยะยาวสำหรับที่อยู่อาศัย และการนำเข้าปรับตัวลดลงในช่วงดังกล่าว
สถิติอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2562 – 2566
ที่มา: Bureau of Economic Analysis, U.S. Department of Commerce
- อัตราการว่างงาน
สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (U.S. Department of Labor) รายงานอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคม 2566 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนที่ผ่านมาเหลือร้อยละ 3.5 โดยมีจำนวนผู้ว่างงานในระบบเศรษฐกิจลดลงราว 1 แสนคนเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5.8 ล้านคน
ในเดือนมีนาคม 2566 สหรัฐฯ มีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payroll Employment) เพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 236,000 ตำแหน่ง (ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาประมาณ 75,000 ตำแหน่ง)
- กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานเพิ่ม ได้แก่ อุตสาหกรรมการโรงแรมและการท่องเที่ยว 72,000 ตำแหน่ง การจ้างงานภาครัฐ 47,000 ตำแหน่ง อุตสาหกรรมบริการทางธุรกิจ 39,000 ตำแหน่ง อุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพ 34,000 ตำแหน่ง อุตสาหกรรมสังคมสงเคราะห์ 17,000 ตำแหน่ง อุตสาหกรรมการขนส่งและ คงคลังสินค้า 10,000 ตำแหน่ง
- อุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมการค้าปลีกลดลง 15,000 ตำแหน่ง
- ส่วนอุตสาหกรรมเหมืองแร่ อุตสาหกรรมด้านพลังงาน อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมค้าส่ง อุตสาหกรรมด้านสารสนเทศ อุตสาหกรรมการเงิน และอุตสาหกรรมบริการอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
สถิติอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ย้อนหลัง 12 เดือน
ที่มา: Bureau of Labor Statistics, U.S. Department of Labor
- ภาวะเงินเฟ้อ (Consumer Price Index: CPI)
สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (U.S. Department of Labor) รายงานภาวะเงินเฟ้อสหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคม 2566 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมาเหลือร้อยละ 5.0 เมื่อเทียบกับ 12 เดือนที่ผ่านมาไม่ปรับฤดูกาล (Unadjusted)
โดยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาราคาสินค้าไม่ปรับฤดูกาล (Unadjusted) กลุ่มอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเฉลี่ยร้อยละ 8.5 ส่วนกลุ่มสินค้าอื่นปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.6 ในขณะที่กลุ่มสินค้าพลังงานกลับปรับตัวลดลงเฉลี่ยร้อยละ 6.4 รายละเอียด ดังนี้
3.1 กลุ่มสินค้าอาหาร ได้แก่ ซีเรียลและเบเกอรี +ร้อยละ 13.6 เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ +ร้อยละ 11.3 ผลิตภัณฑ์จากนม +ร้อยละ 10.7 เนื้อสัตว์และไข่ +ร้อยละ 4.3 และผักและผลไม้สด +ร้อยละ 2.5
3.2 กลุ่มสินค้าพลังงาน ได้แก่ ไฟฟ้า +ร้อยละ 10.2 และก๊าซธรรมชาติ +ร้อยละ 5.5 ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง -ร้อยละ 17.4
3.3 กลุ่มสินค้าอื่น ได้แก่ บัตรโดยสารเครื่องบิน +ร้อยละ 17.7 รถยนต์ใหม่ +ร้อยละ 6.1 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ +ร้อยละ 4.5 วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ +ร้อยละ 3.6 และเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม +ร้อยละ 3.3 ส่วนรถยนต์มือสอง (Used Cars) มีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง -ร้อยละ 11.2 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สถิติอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ย้อนหลัง 12 เดือน
ที่มา: Bureau of Labor Statistics, U.S. Department of Labor
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI)
The Conference Board (CB) รายงานผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ลดลงในเดือนเมษายน 2566 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index) ปรับตัวลดลงจาก 104.0 ในเดือนมีนาคม 2566 (ปีฐาน: ปี 2528 = 100) เป็น 101.3 ในเดือนเมษายน 2566 เช่นเดียวกันกับดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภค (Expectations Index) ซึ่งวัดจากมุมมองของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ทางด้านรายได้ การดำเนินกิจการ และการจ้างงานในตลาดแรงงานในระยะสั้นปรับตัวลดลงจาก 74.0 ในเดือนมีนาคม 2566 เป็น 68.10 ในเดือนเมษายน 2566 (ระดับต่ำกว่า 80.0 ซึ่งเป็นระดับที่แสดงสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ภายในหนึ่งปีข้างหน้า) ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน (Present Situation Index) กลับปรับปรับตัวดีขึ้นจากเดิม 148.9 ในเดือนมีนาคม 2566 เป็น 151.1 ในเดือนเมษายน 2566
ผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความเชื่อมั่นต่อสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2566 ลดลง แนวโน้มความคาดหวังของผู้บริโภคในตลาดลดลงต่ำซึ่งมากซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในอนาคตอันใกล้ โดยรวมผู้บริโภคในตลาดยังคงมีความกังวลต่อสภาวะทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในตลาดเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคอายุ 55 ปีขึ้นไปที่มีรายได้เฉลี่ยอย่างน้อย 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันในตลาดยังคงชะลอการลงทุนในกลุ่มสินค้าและบริการที่มีราคาแพงและไม่จำเป็น เช่น บ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยว
ที่มา: The Conference Board
- ภาวะการค้าปลีกของสหรัฐฯ
สำนักงานสถิติสหรัฐฯ (U.S. Census Bureau) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ รายงานภาวะการค้าปลีกและ การบริการด้านอาหารรายเดือนล่วงหน้า (Advance Monthly Sales for Retail and Food Services) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคม 2566 (ข้อมูลล่าสุด) สามารถสรุปได้ ดังนี้
- มูลค่าการค้าปลีกสินค้าและการบริการด้านอาหาร (Retail & Food Services) หดตัวลงต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมาร้อยละ 1.0 เหลือมูลค่าทั้งสิ้น 691,671 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- มูลค่าการค้าปลีก (Retail Trade Sales) หดตัวลงร้อยละ 1.2 เหลือมูลค่าทั้งสิ้น 598,588 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- มูลค่าการค้าปลีกไม่ผ่านร้านค้า (Nonstore Retailers) ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องร้อยละ 1.9 เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 115,567 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าเพื่อสุขภาพและสุขอนามัยส่วนบุคคล (+ร้อยละ 0.3) อุปกรณ์กีฬา (ร้อยละ 0.2) และการบริการร้านอาหาร (+ร้อยละ 0.1) ตามลำดับ
ส่วนกลุ่มสินค้าและบริการที่มีอัตราการขยายตัวลดลง ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง (-ร้อยละ 5.5) สินค้าปลีกทั่วไป (-ร้อยละ 3.0) เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ (-ร้อยละ 2.1) วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง (-ร้อยละ 2.1) เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม (-ร้อยละ 1.7) รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ (-ร้อยละ 1.6) เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน (-ร้อยละ 1.2) และอาหารและเครื่องดื่ม (-ร้อยละ 0.1) ตามลำดับ
ที่มา: U.S. Census Bureau, U.S. Department of Commerce
- ภาวะการค้าระหว่างประเทศ
สำนักงานสถิติสหรัฐฯ (U.S. Census Bureau) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ รายงานสถิติดุลการค้า (ส่งออก – นำเข้า) สหรัฐฯ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 (ข้อมูลล่าสุด) สรุปได้ ดังนี้
สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 สุทธิทั้งสิ้น 70,535 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,874 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.73 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
สหรัฐฯ มีมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นมูลค่า 251,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 6,859 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 2.66 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา แบ่งเป็น
- การส่งออกสินค้าเป็นมูลค่า 169,177 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8,525 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
- การส่งออกบริการเป็นมูลค่า 81,974 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 08 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่สหรัฐฯ ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ เพชร และการให้บริการท่องเที่ยว
สหรัฐฯ มีมูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นมูลค่า 321,686 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 4,984 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 1.53 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา แบ่งเป็น
- การนำเข้าสินค้าเป็นมูลค่า 262,152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 5,816 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
- การนำเข้าบริการเป็นมูลค่า 59,533 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 831 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.42 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
โดยกลุ่มบริการที่สหรัฐฯ นำเข้าเพิ่มขึ้น ได้แก่ การบริการขนส่ง
ที่มา: U.S. Census Bureau, U.S. Department of Commerce
- ภาวะการค้าระหว่าง สหรัฐฯ – ไทย
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 (ข้อมูลล่าสุด) สหรัฐฯ และไทยมีมูลค่าการค้าสุทธิทั้งสิ้น 5,332.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัวร้อยละ 2.85 เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ มีดุลการค้าขาดดุลไทยเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,403.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐลดลงร้อยละ 27.02 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
- สหรัฐฯ นำเข้าจากไทย เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 16) ลดลงร้อยละ 8.75 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยสินค้าหลักนำเข้าจากไทย ได้แก่ เครื่องประมวลผลข้อมูล (HS Code 8471) ลดลงร้อยละ 5.34 อุปกรณ์โทรศัพท์ (HS Code 8517) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.27 ชิ้นส่วนตัวนำไฟฟ้า (HS Code 8541) เพิ่มขึ้นร้อยละ 112.51 ยางรถยนต์ (HS Code 4011) ลดลงร้อยละ 29.90 และแผงวงจรไฟฟ้า (HS Code 8542) เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.82
ตารางแสดง: เปรียบเทียบมูลค่าสหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากไทย 10 อันดับแรกเดือนกุมภาพันธ์ 2566
ที่มา: Global Trade Atlas
- สหรัฐฯ ส่งออกไปไทย เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,464.52 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันดับที่ 24) เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.86 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยสินค้าหลักส่งออกไปไทย ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม (HS Code 2709) อัญมณีและหินสี (HS Code 7103) เพิ่มขึ้นร้อยละ 163.06 แผงวงจรไฟฟ้า (HS Code 8542) ลดลงร้อยละ 23 ชิ้นส่วนแทรกเตอร์ (HS Code 8708) เพิ่มขึ้นร้อยละ 78.41 ชิ้นส่วนอัญมณี (HS Code 7113) เพิ่มขึ้นร้อยละ 387.18
ตารางแสดง: เปรียบเทียบมูลค่าสหรัฐฯ ส่งออกสินค้าไปไทย 10 อันดับแรกเดือนกุมภาพันธ์ 2566
Global Trade Atlas
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก
ที่มา : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)