ปริมาณน้ำฝนที่ตกหนัก และคลื่นความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วเกาหลีเมื่อเร็วๆนี้ ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในเกาหลีพุ่งสูงขึ้น และเกิดเป็นภาระที่หนักของค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
คุณลี แม่บ้านชาวเกาหลีใต้วัย 54 ปีที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของกรุงโซล ได้ตัดสินใจหยิบกะหล่ำปลีออกจากตะกร้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น หลังจากที่เห็นราคาในป้ายสินค้า เธอกล่าวว่า “กะหล่ำปลีที่นี่ ราคาลูกละ 3,980 วอน (2.97 ดอลลาร์สหรัฐ) สองเท่าของราคาปกติ” ซึ่งราคาที่ขึ้นของกระหล่ำปีก็เป็นเช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ เช่น หัวไชเท้าขาว ต้นหอม และผักกาดหอม ที่มีราคาแพงขึ้นเช่นเดียวกัน คุณลี ได้กล่าวเสริมอีกว่า “ฉันไม่สามารถจ่ายเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ช่วงหนึ่ง เนื่องจากราคาสินค้าที่แพงขึ้นหลังฝนตกหนัก ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงมีท่าทีว่าราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ”
จากรายงานของ Korea Agro-Fisheries & Food Trade เมื่อวันจันทร์ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาขายส่งกะหล่ำปลีอยู่ที่ 12,760 วอนต่อ 8 กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 21.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 78.7% จากเดือนก่อนหน้า และมีราคาแพงกว่าราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันกับเมื่อ 5 ปีที่แล้วประมาณ 37.5%
ราคาขายส่งกะหล่ำปลี Napa อยู่ที่ 19,820 วอนต่อ 10 กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 104.7% จากเดือนก่อนหน้า หัวผักกาดขาวมีราคาอยู่ที่ 26,060 วอนต่อ 20 กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 78.8% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ในขณะที่ราคาแอปเปิลอยู่ที่ 86,225 วอนต่อ 10 กิโลกรัม สูงขึ้น 44.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสูงขึ้น 90.9% เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยเมื่อ 5 ปีก่อน
ราคาสินค้าที่สูงขึ้น มีสาเหตุหลักจากผลผลิตทางการเกษตรที่ลดน้อยลง เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและอุณหภูมิที่ร้อนระอุในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ความเสียหายที่เกิดจากไต้ฝุ่นขนุนซึ่งพัดผ่านเกาหลีใต้ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน
อ้างอิงจากกระทรวงเกษตร อาหาร และกิจการชนบท พายุไต้ฝุ่นที่พัดถล่มเกาหลีเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตร 1,565.4 เฮกตาร์ (3,868.2 เอเคอร์) โดยสวนผลไม้ 612 เฮกตาร์ได้รับความเสียหาย เนื่องจากผลไม้ร่วงหล่นจากต้น โดยพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ที่มีการรายงานความเสียหาย ได้แก่ ไร่แอปเปิ้ลในจังหวัดคยองซัง เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรกล่าวว่า “เราระบุพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายได้แล้ว และในขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับมูลค่าความเสียหาย ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก”
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตของแอปเปิลและลูกแพร์เคยถูกคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะหดตัวลง 20% เนื่องจากสภาพอากาศไม่ปกติในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา แต่พายุไต้ฝุ่นลูกล่าสุดก็อาจจะทำให้สถานการณ์ของฟาร์มแย่ลงไปอีก
ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อราคาสินค้าบริโภคที่พุ่งสูงขึ้นก่อนถึงเทศกาลชูซอก ซึ่งเป็นวันหยุดยาวของเกาหลีในช่วงปลายเดือนกันยายน รัฐบาลเพิ่งปล่อยกะหล่ำปลี Napa ที่กักตุนไว้ 12,500 ตัน และหัวไชเท้าขาว 4,500 ตันสู่ตลาด
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล พิจารณาแล้วเห็นว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้น ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการพฤติกรรมการบริโภคของชาวเกาหลีใต้ให้ระมัดระวังในเรื่องของรายจ่ายมากขึ้น โดยมีแนวโน้มที่จะจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเฉพาะเท่าที่จำเป็น หรืออาจเปลี่ยนไปเลือกซื้อสินค้าตัวอื่นที่มีราคาต่ำกว่า
ในส่วนของผู้ประกอบการไทย อาจเร่งส่งออกอาหารแช่แข็ง หรืออาหารกระป๋องในรูปแบบวัตถุดิบ เช่น ผักแช่แข็ง ข้าวโพดกระป๋อง เป็นต้น เพื่อทดแทนความต้องการผักสดในเกาหลีใต้ที่ราคาสูง รวมถึงอาหารพร้อมรับประทานที่สะดวกในการบริโภค เพื่อใช้โอกาสนี้ในการขยายตลาดสินค้าอาหารไทยต่อเนื่อง
********************************************************************
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโซล
จัดทำโดย นางสาวศีดา สมานมิตร
ตรวจทานโดย นางสาวชนัญญา พรรณรักษา
ผอ. สคต. ณ กรุงโซล
ที่มา : สำนักข่าว Korea Joongang Dairy ฉบับวันที่ 15 สิงหาคม 2566