หน้าแรกTrade insight > ราคาพลังงานยังเป็นปัญหาใหญ่ของเยอรมนี

ราคาพลังงานยังเป็นปัญหาใหญ่ของเยอรมนี

ปี 2023 นับเป็นปีที่ราคาพลังงานพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งต่อมาในช่วงปี 2024 ผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงานจำนวนมากต่างได้ทยอยประกาศลดราคาพลังงานลง โดยข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการสำรวจตลาดของบริษัท Verivox ที่เป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสินค้า โดยในเดือนมกราคม 2024 ผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงานในระดับภูมิภาคกว่า 600 ราย ประสงค์ที่จะลดราคาค่าไฟฟ้าลงโดยเฉลี่ย 13% ยกตัวอย่างเช่น ครัวเรือนที่มีสมาชิก 3 คน โดยเฉลี่ยมีการใช้พลังงานไฟฟ้า 4,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ต่อปี จะสามารถประหยัดเงินได้ถึง 283 ยูโรต่อปี ในขณะที่ ผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงานกว่า 83 ราย ได้ออกมาประกาศขึ้นราคาพลังงาน แม้ว่านโยบายเหยียบเบรกราคาพลังงานจะถูกยกเลิกในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของ Verivox พบว่า ราคาไฟฟ้าโดยเฉลี่ยสำหรับผู้บริโภคลดลงจาก 35.1 เซนต์ต่อ kWh ในเดือนธันวาคม 2023 เหลือ 34.1 (ยูโร) เซนต์ ในเดือนมกราคม 2024 อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น เนื่องจากถึงตอนนี้ยังไม่ทราบถึงราคาใหม่ของปี 2024 ที่ชัดเจน ประกอบกับยังไม่มีความชัดเจนว่า ค่าไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคจะยังคงลดลงหรือไม่ เหตุผลหนึ่งก็คือ ค่าธรรมเนียมการใช้งานเครือข่าย (Netznutzungsentgelte) มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2024 อย่างเห็นได้ชัด เพราะเดิมทีรัฐบาลเยอรมันต้องการบรรเทาปัญหาดังกล่าวโดยการให้เงินอุดหนุนสูงถึง 5.5 พันล้านยูโร แต่หลังจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมา ทำให้รัฐบาลเยอรมันขาดอุดหนุนดังกล่าวไปโดยปริยาย การเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการใช้งานเครือข่ายอาจจะส่งผลเป็นรูปธรรมได้ในไม่ช้า โดยเว็บไซต์ Check24 หนึ่งในเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับเปรียบเทียบราคาสินค้าคาดว่า สำหรับการใช้พลังงานปริมาณ 5,000 kWh น่าจะมีค่าใช้จ่ายรายปีเพิ่มเติมขึ้นเกือบ 100 ยูโร (โดยประมาณ)

 

พบมีผู้จำหน่ายแก๊สจำนวนมากที่ต้องการจะปรับลดราคาแก๊สลง ในเดือนที่จะถึงนี้ Verivox ประเมินการลดราคากว่า 500 ครั้ง โดยเฉลี่ย 15% สำหรับบ้านเดี่ยวที่มีการบริโภคแก๊สคิดเป็น 20,000 kWh ต่อปี ค่าใช้จ่ายในหมวดเครื่องทำความร้อนน่าจะลดลง 524 ยูโร (โดยประมาณ) อย่างไรก็ดี มีผู้จำหน่ายแก๊สกว่า 56 ราย ได้ออกมาประกาศที่จะปรับราคาสูงขึ้นที่ 12% โดยเฉลี่ย ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันมีความเป็นไปได้ที่ ราคาแก๊สจะลดลงจาก 11 เซนต์ต่อ kWh เหลือ 10.6 เซนต์ในช่วงสิ้นปี อย่างไรก็ตามแก๊สก็อาจมีการปรับราคาสูงขึ้นได้ ตั้งแต่ต้นปี 2024 ราคาค่าสร้าง CO2 จะเพิ่มขึ้นจาก 30 ยูโร เป็น 45 ยูโร อีกทั้งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024 เป็นต้นไปการจำกัดอัตราการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับแก๊สที่ 7% ในปัจจุบันจะสิ้นสุดลง จากนั้นจะเริ่มกลับมาเก็บในอัตา 19% เท่าเดิม จากข้อมูลของ Check24 เมื่อภาษีมูลค่าเพิ่มปรับตัวสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการซื้อแก๊สสำหรับครัวเรือนตัวอย่างต่อปีจึงเพิ่มขึ้นเป็น 224 ยูโรโดยประมาณ

 

วิกฤตพลังงานในช่วงที่สงครามยูเครน – รัสเซียเพิ่งเริ่มต้น การหยุดส่งแก๊สของรัสเซียได้ทำให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นภาระสำหรับหลายครัวเรือน ส่งผลให้ราคาไฟฟ้าและแก๊สพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2022 ซึ่งตอนนั้นลูกค้ารายใหม่ต้องจ่ายเงินสูงถึง 70 เซนต์ต่อ kWh ให้กับผู้จำหน่ายไฟฟ้าบางราย ส่วนค่าแก๊สจะอยู่ที่ 40 เซนต์ต่อ kWh แต่ราคาพลังงานสำหรับภาคครัวเรือนโดยรวมลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา นาง Christina Wallraf เจ้าหน้าที่ด้านพลังงานสมาคมคุ้มครองผู้บริโภค (Verbraucherzentrale) ประจำรัฐ Nordrhein-Westfalen ระบุว่า เราผ่านปี 2023 ไปได้ด้วยดี (ดีเกินความคาดหมาย) ส่วนหนี่งเป็นเพราะฤดูหนาวที่อบอุ่นเป็นพิเศษ “เมื่อเทียบกับปี 2022 ปี 2023 นั้นยังเงียบสงบมากสำหรับผู้บริโภค” อย่างไรก็ตาม มีการร้องเรียนมากมายเกี่ยวกับการใช้นโยบายเหยียบเบรกราคาพลังงานแบบไม่ถูกต้อง ด้านนาย Daniel Puschmann ผู้บริหารบริษัท Verivox รายงานว่า ส่วนหนึ่งที่ราคาพลังงานลดลงเป็นเพราะมีการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการเพิ่มขึ้น และนาย Puschmann กล่าวเพิ่มเติมว่า “ไม่ใช่ปัญหาด้านราคาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ให้เกิดวิกฤตพลังงาน แต่การขาดข้อเสนอในการแข่งขันก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดวิกฤตพลังงาน” เรียกได้ว่า ในเวลานี้วิกฤตการณ์ด้านพลังงานแบบล่อแหลมเฉียบพลันสิ้นสุดลงแล้ว ด้วยนโยบายเหยียบเบรกราคาพลังงานรัฐบาลเยอรมันได้ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ครัวเรือนในประเทศ

 

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 จนถึงช่วงสิ้นปี ลูกค้าได้ชำระค่าไฟฟ้าสูงสุด 40 เซนต์ต่อ kWh (เฉพาะ 80% ของการใช้ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมา) ส่วนแก๊สถูกจำกัดไว้ที่ 12 เซนต์ต่อ kWh จริงๆ แล้วรัฐบาลตั้งใจที่จะใช้นโยบายดังกล่าวจนถึงช่วงสิ้นฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือดังกล่าวได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่เบรกราคาได้เท่าไหร่ และเบรกราคาได้จริงหรือไม่นั้น จากข้อมูลของ Verivox แสดงให้เห็นว่า ครัวเรือนที่มีสมาชิก 3 คน จะต้องชำระไฟฟ้าโดยเฉลี่ยที่ 1,572 ยูโร ในปี 2023 ตามราคาสูงสุด หากไม่มีความช่วยเหลือจากรัฐ จะต้องชำระเป็นเงิน 1,609 ยูโร ครัวเรือนตัวอย่างจึงสามารถประหยัดเงินได้ 37 ยูโร โดยในการคำนวนนี้ในปี 2022 ค่าเฉลี่ยค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 1,721 ยูโร นาย Puschmann เชื่อว่า การสิ้นสุดการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วเพราะในท้ายที่สุดก็เป็นการดีที่ผู้บริโภคสามารถเลือกเปลี่ยนใช้งานการบริการขั้นพื้นฐานเองได้ (ไฟฟ้า) “ในเวลามีการแข่งขันเพียงพอที่ราคาต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยจำนวนมาก แต่เป็นการทำสัญญาแบบระยะสั้น การเปลี่ยนไปใช้บริการรายใหม่จึงยังตัดสินใจยากอยู่” เมื่อพูดถึงเรื่องน้ำ ราคาแก๊ส การที่รัฐบาลยังกำหนดเพดานราคาไว้นั้นทำให้ราคาลดลงมากในระดับหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 การทำความร้อนของบ้านเดี่ยวผู้บริโภคจะต้องชำระค่าแก๊สโดยเฉลี่ย 2,424 ยูโร ซึ่งหากไม่มีการแทรกแซงจากรัฐบาล ผู้บริโภคจะต้องชำระค่าแก๊สสูงถึง 2,613 ยูโร (โดยประมาณ) ซึ่งสอดคล้องกับการบรรเทาทุกข์จำนวน 189 ยูโร โดยในการคำนวนนี้ในปี 2022 ค่าแก๊สเฉลี่ยอยู่ที่ 3,205 ยูโร มันอาจจะคุ้มค่าหากผู้บริโภคตัดสินใจที่จะเปลี่ยนผู้ให้บริการ ทั้งไฟฟ้าและแก๊ส นาย Puschmann แนะนำให้ผู้บริโภคเลือกแบบราคาคงที่ “อาจจะเป็นแบบราคาคงที่ 12 เดือนหรือบางทีอาจจะถึง 24 เดือน เลยก็ได้ เป็นไปได้ที่ในอนาคตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เกิดขึ้นอีก” นาย Puschmann ผู้บริหารบริษัท Verivox ว่า ในอนาคตด้วยพลังงานมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น จากข้อมูลของนาง Wallraf แจ้งว่า การเปลี่ยนแปลงเลือกใช้อัตราค่าไฟฟ้าหรือแก๊สใหม่ จะคุ้มค่าสำหรับครัวเรือนที่ยังไม่ได้รับการลดราคาในปี 2023 นาง Wallraf ยังแนะนำต่อว่า “หากทำได้คุณควรมองหาราคาที่ดีกว่าในตลาด”

 

จาก Handelsblatt 12 มกราคม 2567

อ่านข่าวฉบับเต็ม : ราคาพลังงานยังเป็นปัญหาใหญ่ของเยอรมนี

Login