หน้าแรกTrade insightอุตสาหกรรมอื่นๆ > รัฐบาลฝรั่งเศสออกนโยบายเงินรางวัลสนับสนุน ให้ประชาชนใช้บริการงานซ่อมแซมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม รวมถึง กระเป๋า รองเท้า เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่แทนการนำไปทิ้ง

รัฐบาลฝรั่งเศสออกนโยบายเงินรางวัลสนับสนุน ให้ประชาชนใช้บริการงานซ่อมแซมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม รวมถึง กระเป๋า รองเท้า เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่แทนการนำไปทิ้ง

เมื่อวันอังคารที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา นาง Bérangère Couillard รัฐมนตรีช่วยระดับ Sécrétaire d’Etat ด้านสิ่งแวดล้อม ถือโอกาสระหว่างการเข้าเยี่ยมชม “La Caserne” ศูนย์กลางสำหรับผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่นที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4,000 ตร.ม. ใจกลางกรุงปารีส  ( สำนักงานของผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่น 16 บริษัท, แบรนด์แฟชั่นหน้าใหม่กว่า 40  แบรนด์, ร้านค้า, ร้านอาหาร รวมถึงพื้นที่สำหรับจัดประชุมสัมมนา ) ประกาศนโยบายใหม่ของรัฐบาล ได้แก่      นโยบายเงินรางวัลสนับสนุนให้ประชาชนใช้บริการซ่อมแซมสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มโดยรวมถึงรองเท้า กระเป๋า ซึ่งจะใช้เงินงบประมาณเพื่อดำเนินงานในช่วงระหว่างปี 2023 – 2028  คิดเป็นมูลค่า 154 ล้านยูโร    โดยผู้บริโภคจะได้รับเงินรางวัลเป็นส่วนลดทันที ณ ที่จ่าย เมื่อนำเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ ที่ชำรุดเสียหายไปซ่อมแซมกับผู้ประกอบการรับบริการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น การซ่อมกางเกงเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่อาจได้รับเงินรางวัลที่ใช้เป็นส่วนลดทันที 7 ยูโร หรือ 10 – 25 ยูโรในกรณีที่สินค้าที่นำมาซ่อมแซมมีความซับซ้อนมากกว่านั้น

วัตถุประสงค์หลักของนโยบายนี้เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนนำสินค้าเหล่านี้ไปซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาช้ใหม่  โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ผู้บริโภคจะได้รับคำแนะนำเพื่อช่วยให้นโยบายนี้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น

รัฐบาลคาดหวังว่านโยบายนี้จะส่งด้านบวกต่อภาคอุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นในอีกหลายด้าน ได้แก่

  • การสร้างงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับงานบริการรับซ่อมแซมสินค้า โดยเฉพาะรัฐบาลต้องการให้แบรนด์สินค้าแฟชั่นส่งเสริมความสำคัญของงานบริการในด้านนี้เพิ่มมากขึ้นจนก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่ โดยในส่วนผู้ประกอบการให้บริการรับซ่อมแซมสินค้าเครื่องนุ่งห่มที่มีอยู่ในระบบเดิม   รัฐบาลพยายามเชิญชวนให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของโครงการเพื่อรับมาตรฐานจากองค์กร Refashion ที่เป็นผู้รับผิดชอบนโยบายด้านสินค้าแฟชั่นหมุนเวียนและทำหน้าที่บริหารจัดการนโยบายในครั้งนี้ให้กับรัฐบาล
  • สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วยการบริโภคสินค้ามือสอง ทั้งการรีไซเคิลสินค้าเครื่องนุ่งห่มและการนำกลับมาใช้ใหม่
  • ลดปริมาณขยะ องค์กร Refashion กล่าวว่าในปี 2022 ที่ผ่านมา ปริมาณสินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า ที่ออกสู่ตลาดฝรั่งเศสมีปริมาณสูงถึง 3 พันล้านชิ้นมากกว่าในปี 2021 ถึง 500,000 ชิ้น    อย่างไรก็ตามในแต่ละปีคนฝรั่งเศสทิ้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มสูงถึง 700,000 ตัน โดยปริมาณจำนวนนี้ถึง 2 ใน 3 กลายเป็นขยะที่ถูกทำลายหรือไม่ได้นำกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์

นโยบายเงินช่วยเหลือสำหรับซ่อมแซมสินค้าเครื่องนุ่งห่มในครั้งนี้ของรัฐบาลฝรั่งเศส ดำเนินตามแนวทางของนโยบายให้เงินรางวัลเพื่อส่งเสริมการซ่อมแซมสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2022    ซึ่งนโยบายทั้งสองด้านเป็นส่วนหนึ่งในโครงการสนับสนุน กฎหมายต่อต้านการทิ้งขยะเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (Loi AGEC Anti-gaspillage pour une Economie Circulaire 2020)

นาง Bérangère Couillard ยังถือโอกาสในครั้งนี้กล่าวย้ำว่า รัฐบาลพยายามดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อต่อต้านสินค้า Fast Fashion ที่ส่งผลกระทบทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ดังเช่นสินค้าจากแบรนด์ Shein เว็บไซต์ขายสินค้าแฟชั่นอันดับหนึ่งจากประเทศจีนที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วโลกรวมถึงในฝรั่งเศส

ความเห็น สคต.

กฎหมายต่อต้านการทิ้งขยะเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนของฝรั่งเศส AGEC (Anti-waste law for a circular economy)  บัญญัติขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2020  มีใจความสำคัญ 5 ประการ ได้แก่  การยกเลิกการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง     ผู้ประกอบการต้องให้ข้อมูลการผลิตที่โปร่งใสกับผู้บริโภคโดยเฉพาะวิธีการนำรีไซเคิลผลิตภัณฑ์    การนำวัสดุกลับมาใช้หมุนเวียน     ไม่อนุญาตให้มีการทำลายสินค้าหลังจากที่สินค้าออกสู่ตลาดทุกชนิดนอกจากสินค้าอาหารเท่านั้น และ ลดการผลิตสินค้าที่มีกำหนดอายุการใช้งานของสินค้าโดยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อให้สินค้าใช้งานได้นานมากขึ้น  โดยข้อกำหนดที่มีผลต่อภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องแต่งกาย สิ่งทอสำหรับที่พักอาศัยและรองเท้ามีผลบังคับใช้ในผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่เท่านั้น  โดยแบ่งภาคบังคับใช้เป็น 2 ช่วงระยะเวลา

–           ตั้งแต่ปี 2023 มีผลบังคับใช้เบื้องต้นต่อบริษัทขนาดใหญ่ (ผลประกอบการมากกว่า 50 ล้านยูโร)

–           ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 จะมีผลบังคับใช้กับบริษัทที่มีขนาดเล็กลงมา (ผลประกอบการตั้งแต่ 10 ล้านยูโรเป็นต้นไป)

ซึ่งในปัจจุบันข้อกำหนดนี้ยังไม่มีผลบังคับใช้กับผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงทางสคต.ปารีสจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป

ที่มา :

Source AFP

ข่าวออนไลน์ หนังสือพิมพ์ Les Echos

https://www.lesechos.fr/industrie-services/conso-distribution/le-gouvernement-va-encourager-le-rapiecage-de-vetements-1961294

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงปารีส

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.)

Login